นายกฯ สั่งทุกหน่วยจับตาใกล้ชิดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ 'โอไมครอน' หลังพบในแอฟริกา กำชับต้องรายงานทันที คำนึงความปลอดภัยประชาชนสูงสุด หากจำเป็นเร่งด่วนต้องปรับมาตรการป้องกัน ยืนยันไทยยังไม่มีพบผู้ติดเชื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ระบุถึงกรณีการตรวจพบโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ว่า จากการรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ในทวีปแอฟริกา ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ตั้งชื่อว่า Omicron โอไมครอน โดยนักวิทยาศาสตร์พบว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน และอาจจะแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าเดิมนั้น ขอเรียนประชาชนว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามเรื่องนี้มาอย่างใกล้ชิด และได้รายงานตนตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรกับประเทศไทยบ้าง เบื้องต้น ประเทศในทวีปแอฟริกาไม่ได้รวมอยู่ใน 63 ประเทศที่ไทยอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว และขอย้ำว่า ไทยยังไม่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุด้วยว่า ตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งหน่วยงานคัดกรองที่จุดต่างๆ ให้จับตามองและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ และรายงานข้อมูลต่อผมในทันทีที่มีความคืบหน้า หรือมีข้อเสนอแนะด้านมาตรการต่างๆ ซึ่งหากมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีการปรับมาตรการ โดยเฉพาะการเดินทางเข้าออกประเทศ จากประเทศต่างๆ ที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ ผมก็จะสั่งการให้ดำเนินการโดยทันที โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนสูงสุด
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนยังใช้ความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต ลด-เลี่ยงความเสี่ยงในการติดเชื้อ แม้ว่าสถานการณ์เราจะดีขึ้นแล้วก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด ขอให้รีบไปฉีดทันทีเมื่อมีโอกาส หรือหากยังฉีดไม่ครบโดส ขอให้เข้ารับการฉีดในหลายๆ จุดที่เปิดให้บริการที่สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องเป็นจุดเดิมที่เคยฉีดมาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองและคนรอบข้าง สำหรับการสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ ก็ถือว่าเป็นวัคซีนป้องกันเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้ทุกคนอย่าประมาท การ์ดไม่ตก ส่วนตนและรัฐบาลจะทำทุกทางเพื่อปกป้องประเทศและประชาชนทุกคนอย่างดีที่สุด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage