ประชาสังคมปฎิรูปทรัพยากรและทองคำ ยื่นหนังสืออัยการสูงสุดตรวจสอบคดีเหมืองทองอัครา ปมขุดทางหลวงทำเหมืองทองคำนอกเขตปะทานบัตร พร้อมขอให้ตั้งกรรมการสอบคณะอัยการหลังคดีไม่คืบ เตรียมยื่นหนังสือกล่าวโทษที่ ป.ป.ช. 9 พ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2564 นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ แกนนำกลุ่มประชาสังคมปฎิรูปทรัพยากรและทองคำ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา กลุ่มได้ยื่นหนังสือถึงนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ให้เอาผิดกับ บริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) กรณีขุดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1301 และทางสาธารณประโยชน์ ซึ่งเป็นการทำเหมืองทองคำนอกเขตประทานบัตร และดำเนินคดีเอาผิดให้ครบถ้วนทุกกรณี และขอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคณะทำงานอัยการไม่พิจารณาดำเนินคดีกับบริษัทอัคราฯ ทำเหมืองทองคำนอกเขตประทานบัตร และกรณีอัยการให้ความเป็นธรรมกับบริษัทอัคราฯ คดีพิเศษที่ 17/2559 ที่รับความเห็นสั่งฟ้องมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2561 จนถึงขณะวันที่ 21 มิ.ย.2564 คดียังไม่ได้เดินหน้าสู่ศาล ทั้งนี้เนื่องจากนางอารมณ์ คำจริง และนายปรีชา แสนจันทร์ ผู้ร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2548 เพื่อให้สอบสวนการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัคราฯว่ามีการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำโดยชอบด้วยกฏหมายของประเทศไทยหรือไม่ ก่อนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะสืบสวนและรับเป็นคดีพิเศษที่ 17/2559 ในปี พ.ศ.2559
นางวันเพ็ญ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่ามีการกระทำความผิดหลายกรณี โดยในส่วนของการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้แยกส่งสำนวนให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เช่นกรณีเจ้าหน้าที่รัฐไม่จัดทำรายงานอีไอเอ และเปลี่ยนแผนผังโครงการทำเหมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตอมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิด กรณีการเปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการทำเหมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ในส่วนที่กรมสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเอาผิดกับบริษัท อัคราฯ และสรุปสำนวนสั่งฟ้องไปยังอัยการสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ประกอบด้วยความผิดฐานบุกรุกครอบครองที่ดินสาธารณะประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลายให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพยสินที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ ร่วมกันเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น และฐานร่วมกันรุกล้ำเข้าไปในเขตทางหลวงแผ่นดินโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ที่ดิน ประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535
โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นทางคดีและสั่งฟ้องและส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 256 ซึ่งต่อมาตนเอง และคณะได้ติดตามไปยังอัยการคดีพิเศษหลังคดีถูกส่งไปยังอัยการล่าช้ามากกว่า 1 ปี ในขณะนั้นได้ทราบว่าอัยการคดีพิเศษได้ส่งสำนวนคืนกลับไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้สอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากจุดเกิดเหตุไม่ชัดเจน หลังจากนั้นตนเองได้ทราบว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษก็ได้สอบสวนเพิ่มเติมและได้ส่งสำนวนคดีกลับไปยังอัยการคดีพิเศษแล้ว โดยประเด็นปัญหาของคดีนี้ ตนเองและคณะได้โต้แย้งต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษสรุปสำนวนความผิด ของบริษัท อัคราฯเป็นการเอาผิดกรณีเพียงแค่ ปิดกั้นทำลายให้เสื่อมค่า รุกล้ำทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1301 และทางสาธารณะประโยชน์ อันเป็นการสรุปสำนวนไม่ครบถ้วนการกระทำความผิด เนื่องจากการที่บริษัท อัคราฯ ได้ทำการขุดทางหลวงแผ่นดิน 1303 และทางสาธารณะประโยชน์ เป็นการทำเหมืองทองคำนอกเขตประทานบัตรอันเป็นความผิดตามกฏหมาย พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2510 มาตรา 43 มาตรา 57 เนื่องจากบริษัท อัคราฯ เคยทำสัญญาเป็นเงื่อนไขท้ายประทานบัตรว่าจะไม่ขุดถนนทำเหมืองทุกเส้นทาง และจะกันออกไม่ต่ำกว่า 50 เมตร โดยปรากฏหลักฐานตามหนังสือลับด่วนที่สุดที่ อก 1502/120 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ฉบับลงวันที่ 12 ม.ค.2552 ข้อ 2.2 หน้าที่ 3 เอกสารท้ายคำร้องเลขที่ 1
จึงเป็นพยานหลักฐานที่ควรเชื่อได้ว่าบริษัท อัคราฯ เคยสัญญาว่าจะไม่ทำเหมืองในถนนทุกเส้นทางและถนนทุกเส้นทางจึงถูกกันออกจากแปลงขอประทานบัตรตั้งแต่ต้น ซึ่งการทำเหมืองจะต้องขอประทานบัตร ดังนั้นการไม่ได้ขอประทานบัตรมาตั้งแต่ต้น จึงไม่มีสิทธิ์ขุดถนนทำเหมืองตามกฎหมาย โดยปรากฏตามหลักฐานเงื่อนไขสัญญาท้ายประทานบัตร หลักฐาน ท้ายคำร้อง แต่บริษัท อัคราฯ ได้มาปิดกั้นทำลายถนนในภายหลัง ซึ่งแม้แต่จะได้รับอนุญาตให้ปิดกั้นทำลายถนน แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเหมืองในถนน เนื่องจากไม่ได้ขอประทานบัตรมาตั้งแต่ต้น
นายวันเพ็ญ กล่าวต่อกว่า กรณีที่ยกตัวอย่างมาให้เห็นเพื่อชี้ว่าหลายส่วนราชการมีความผิกฐานะละเว้นปฎิบัติหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ในขนาดการยุติธรรมมีกฏหมายเฉพาะ ในประเด็นมาตรา 200 ทางคณะจึงได้เตรียมยืนร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ละเว้น และผู้ที่อยู่ในขนวนการยุติธรรมซึ่งมี มาตรา 200 คุมอยู่ ก็จะชี้ประเด็นให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีกับบุคคลเล่านี้ด้วย พร้อมกับจะยื่นหนังสือกล่าวโทษ ที่ ป.ป.ช.ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ เวลา 13.00 น.
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage