สธ.เผยภาพรวมสถานการณ์โควิดแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังต้องจับตา 6 จังหวัดเฝ้าระวัง 'นครศรีธรรมราช-เชียงใหม่-ตาก-ระยอง-จันทบุรี- ขอนแก่น' หลังพบการระบาดหลายพื้นที่ เป็นคลัสเตอร์เด็กเล็ก-แคมป์คนงาน ย้ำรับแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงรายงานสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อน้อยกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 7 วัน ในหลายจังหวัดมีแนวโน้มค่อนข้างคงที่ ผู้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจลดต่ำกว่า 500 ราย ซึ่งเป็นรายเดิมที่ใส่ก่อนหน้านี้ ในภาพรวมหวังว่าจะลดลงเรื่อย ๆ ขณะที่อัตราการเสียชีวิตมีการแกว่งตัวค่อนข้างสูงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่มีบางจังหวัดที่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากแนวโน้มการติดเชื้อยังไม่ลดลง ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เชียงใหม่ ตาก ระยอง จันทบุรี และขอนแก่น โดยในช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนใหม่ในบางพื้นที่มากขึ้น ส่วนสถานการณ์ในภาคใต้ มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากช่วงกลางเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา โดยวันนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงการแพร่ระบาดในจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ยังเป็นช่วงขาขึ้น และเป็นการระบาดในชุมชนเป็นวงกว้าง พบการติดเชื้อมาจากคลัสเตอร์ตลาด และสถานประกอบการเป็นส่วนใหญ่ พบเปอร์เซ็นต์การสัมผัสสูงในชุมชน และครอบครัว คาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างชาติ เพื่อเข้ามาทำงานในสถานประกอบการต่างๆ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องจัดสรรให้ได้รับวัคซีนอย่างครอบคลุม รวมทั้งต้องมีมาตรการต่างๆ เช่น ควบคุมการเดินทางของแรงงานต่างชาติให้เข้ามาในช่องทางที่ถูกต้อง เพื่อจะช่วยลดความเสี่ยงเป็นอย่างดี
“เชียงใหม่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวจึงมีความเข้มงวด มีการประเมินมาตรการต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่ถือว่าการเตรียมพร้อมทำได้เต็มที่ มีการเร่งรัดตรวจหาเชื้อด้วย ATK มีที่กักตัวที่บ้าน ที่ชุมชน เพื่อลดความหนาแน่นในรพ. ให้รพ.พร้อมรับผู้ป่วยกาอาการสีเหลือง สีแดง”
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า มีบางจังหวัดที่พบการติดเชื้อในเรือนจำสูงขึ้น เช่น ที่จังหวัดสุรินทร์ และขอนแก่น มีเลข 2 หลักต่อวัน ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่สุรินทร์มีผู้ติดเชื้อ 184 ราย และวันนี้ติดเชื้อ 328 ราย ส่วนที่ขอนแก่น รายงานเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ติดเชื้อ 95 รายและ วันที่ 1 พ.ย. มีรายงานติดเชื้อ 100 ราย ซึ่งจะมีมาตรการควบคุมป้องกันโรคจากประสบการณ์เดิมมาใช้ในการควบคุมโรคในเรือนจำ
ทั้งนี้ ยังพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อในบุคลากรการแพทย์ใน กทม. 30 ราย ปริมณฑล 5 ราย และต่างจังหวัดรวม 25 ราย งานบุญบั้งไฟที่อุดรธานี 5 ราย งานแข่งฟุตบอล ที่จ.เลย 10 ราย ในกลุ่มแรงงานจันทบุรี 12 ราย ตราด 15 ราย โรงเรียน/วิทยาลัยที่แม่ฮ่องสอน 2 ราย เชียงใหม่ 2 ราย งานแต่งที่เชียงใหม่ 9 ราย กาญจนบุรี 8 ราย ร้านอาหารทะเลที่อุดีฯ 7 ราย แคคมป์คนงานที่ชลบุรี 30 รา นครนายก 36 ราย เชียงใหม่ 9 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 21 ราย
นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อของคลัสเตอรเด็กเล็ก ในจังหวัดร้อยเอ็ด ที่น่ากังวล คือเด็กเล็กที่มีโรคประจำตัว ที่อาจต้องมีการปรึกษาแพทย์เท่านั้น สำหรับเด็กทั่วไปความรุนแรงของโรคโควิด-19 จะไม่รุนแรงมาก จึงขอให้ผู้ปกครองไม่ต้องกังวลเกินไป เพราะสามารถป้องกัน และรักษาให้หายได้
นพ.เฉวตสรร กล่าวด้วยว่า กรณีพบผู้ติดเชื้อเป็นคลัตเตอร์ต่างๆ รวมถึงคลัสเตอร์แคมป์คนงานภายใน สธ.นั้น ย้ำว่าจะอยู่ร่วมกันได้ อยู่ที่มาตรฐานควบคุม จึงไม่อยากให้วิตกกังวลเกินไป วิธีการคือมีการสอบสวนโรค ดูขอบเขตความสัมพันธ์ เชื่อมโยงเกี่ยวข้อง และมีบับ เบิ้ล แอนด์ ซีล ยังมีคนที่ไม่ติดเชื้อ จึงสามารถทำงานต่อได้ โดยไม่จำเป็นต้องปิด หรือหยุดกิจกรรมนั้นๆ ตอนนี้แคมป์คนงานก่อสร้างในกระทรวงสาธารณสุขได้รับการดูแลอย่างดี ขอให้อย่ากังวล มีการเฝ้าระวังสังเกตคนเกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัย
“ตอนนี้แคมป์คนงานก่อสร้างใน สธ.ได้รับการดูแลอย่างดี ขออย่ากังวล เรามีการเฝ้าระวงสังเกตคนเกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัย”
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงกรณีที่ประเทศว่า มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจากประเทศที่กำหนดคือ 63 ประเทศ ซึ่งก่อนเดินทางตรวจไม่พบเชื้อ เมื่อมาถึงประเทศไทยก็ตรวจซ้ำ หากไม่พบเชื้อ ก็สามารถไปเที่ยวที่พื้นที่ใดก็ได้ ไม่มีการจำกัด ไม่มีการกักตัว ดังนั้น ประชาชนทั้ง 77 จังหวัด าจจะมีโอกาสเจอนักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่ได้ แต่ส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะมีการเดินทางใน 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวหนาแน่นกว่า ซึ่งข้อหนึ่งคือนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนแล้ว ขณะที่ผู้ประกอบการได้เตรียมการเพื่อรองรับอยู่แล้ว
อีกทั้ง หน่วยงานด้านสาธารณสุขและภาคอื่น ๆ มีการเตรียมการรับรองหากเกิดเหตุการณ์สถานการณ์โรคระดับใดก็จะใช้แผนเผชิญเหตุดำเนินการอย่างไร และมีการเตรียมเอาไว้ให้หมดแล้ว แต่ขอความร่วมมือประชาชนในการป้องกันตนเองสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ เป็นต้น
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage