\
'อนุทิน'เผย'ลิซ่า'มาเคานต์ดาวน์ไม่ได้ เป็นเรื่องธุรกิจ ยันไม่กระทบความเชื่อมั่นไทย ด้าน ‘พิพัฒน์’ รับสื่อสารพลาด รีบพูดออกไป ขณะที่ยังไม่ชัดเจน ลั่นยังมีศิลปินระดับโลกมางานแน่ อุบรายละเอียด ‘แอนเดรีย’ ขอทุกอย่างลงตัวก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ค่ายวายจีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บริษัทต้นสังกัตของ น.ส.ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า สมาชิกวงแบล็กพิงก์ ชาวไทย ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 28 ต.ค. ที่ระบุว่า น.ส.ลลิษา ไม่สามารถมาร่วมงานเคานต์ดาวน์ที่ประเทศไทยได้ ว่า ต้องถามทาง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งขณะนี้เดินทางไปต่างประเทศอยู่
เมื่อถามว่า เมื่อยังไม่มีการยืนยันอย่างชัดเจน ทำไมจึงประกาศออกมา นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ได้ประกาศ ส่วนแบบนี้จะทำให้กระทบกับความเชื่อมั่นของประเทศไทยหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่น เพราะถึงอย่างไรก็จะเดินหน้าเรื่องการเปิดประเทศ จึงไม่เกี่ยวกัน สำหรับกรณีของลิซ่า ถือเป็นกิจกรรมหนึ่ง เราก็ยังมีโอกาสที่จะทำกิจกรรมดีๆ ได้ ส่วนตัวยังไม่ได้คุยกับนายพิพัฒน์ ตนในฐานะกำกับดูแล หากมีงานอะไรที่นายพิพัฒน์ จัดการได้เรียบร้อยแล้ว จะนำมาพิจารณาก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถ้าจำเป็นต้องเสนอ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น
"เรื่องของลิซ่า ยอมรับว่าเป็นเรื่องของธุรกิจด้วย แต่ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวก็คงจะมีอะไรมาทดแทนกับความรู้สึกที่ประชาชนเสียไป" นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ททท.) ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า กระแสข่าวที่ระบุว่าฝ่ายไทยต้องการจ้างเพียงคนเดียว แต่ทางต้นสังกัดต้องการให้มาทั้งวงนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง รวมถึงกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริงทุกเรื่อง อย่างกรณี เชอรี่ โคลว์ และลิซ่า เรื่องแยกแพคเกจหรือไม่แยกนั้น ไม่มีความจริง สิ่งเหล่านี้เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดของ ททท. ที่มีการสื่อสารออกไปในเบื้องต้น ขณะที่เรายังไม่เห็นรายละเอียดในสัญญาทั้งหมด อย่างที่ตนเคยพูดไปแล้วว่าในวันที่ 30 ต.ค.นี้ เราจะได้เห็นสัญญา และสุดท้ายก็เกิดความสับสน
“ผมคิดว่าบริษัทเขาคำนึงถึงชื่อเสียง และประกอบกับสำคัญที่ว่าเขาติดคิว ไม่สามารถยกเลิกคิวเพื่อเอามาให้ประเทศไทยได้ สิ่งเหล่านี้ผมขอเรียนอย่างตรงไปตรงมา ส่วนอีกคนหนึ่ง คือแอนเดรีย บล็อกเชลลี่ นักร้องชาวอิตาเลียน ผมก็ยังไม่ขอพูดว่าความชัดเจนคืออะไรในช่วงนี้ เพราะจากความผิดพลาดที่ผ่านมา เราได้รับบทเรียนว่าสิ่งไหนที่ยังไม่จบ อย่าเพิ่งพูดก่อน ซึ่งตัวผมยอมรับว่าได้ให้สัมภาษณ์ในเบื้องต้นไป หลังจากนี้เราคงต้องทำอะไรให้รอบคอบมากกว่าเดิม แต่ยังมีศิลปินชื่อดังระดับโลกเข้ามาแน่ๆ แต่จะเป็นใคร อย่างไรนั้น ต้องขอให้มีการลงตัวเรียบร้อยเสียก่อน จึงจะนำเสนอต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าว
ส่วนต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้เพื่อหาผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้หรือไม่นั้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ต้องหารือกันภายในกระทรวงก่อน และต้องหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทยและนายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดมาถึงตรงนี้แล้ว เราควรต้องทำอย่างไร ซึ่งตนมีผู้บังคับบัญชา 2 คน คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม คงต้องหารือก่อน ส่วนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบใครหรือไม่สอบใครนั้น คงต้องคำนึงหลายอย่าง เนื่องจากมีภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งเราคงไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับภาคเอกชนได้ จึงจำเป็นต้องดูกันภายในก่อนว่าพวกเราจะจัดการกันอย่างไร ทั้งนี้ถือเป็นบทเรียนอีกบทหนึ่งสำหรับทุกอย่าง หากยังไม่จบ ก็ไม่ควรก็ไม่ควรนำออกมาพูดก่อน
“ตัวผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้ไม่พูด แต่ตัวผมเองก็พูดออกไปเยอะ เพราะฉะนั้นความผิดพลาดตรงนี้ ตัวผมเองก็ต้องยอมรับ” นายพิพัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรียังจะพิจารณาจ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงมาร่วมงานเคาต์ดาวน์ที่ประเทศไทยอยู่หรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับตลอดเวลาว่าไม่ว่าจะจัดงานอะไรที่ไหนอย่างไร ขอให้มีศิลปินไทยร่วมอยู่ด้วยทุกงานและนายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาลงมาแล้วว่าให้มีการจัดงานเคานต์ดาวน์ โดยมีการแสดงของ 5 ภาคของประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ทั้งภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคเหนือ ซึ่งได้หารือกับการท่องเที่ยวแล้ว น้อมรับคำบัญชาของนายกรัฐมนตรีรับไปดำเนินการ โดยจะนำศิลปินไทย โดยเฉพาะศิลปินพื้นบ้าน มาทำการแสดง และอาจจะมีศิลปินระดับต่างชาติมาร่วมแสดงด้วย ขอทำความเข้าใจ และเมื่อมีความชัดเจน แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ภาพจาก: ไทยโพสต์, lalalslisa_M
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage