โควิดวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,452 ราย รวมป่วยสะสม 1,875,315 ราย หายป่วยแล้ว 8,449 ราย และเสียชีวิตอีก 57 ราย ขณะที่ไม่มีจังหวัดใดมียอดติดเชื้อเกินพัน แต่ยังเจอคลัสเตอร์ในจันทบุรี-นครศรีธรรมราช ส่วน ศบค.ยังห่วงผู้เสียชีวิตชายแดนใต้ พบเป็นผู้สูงวัย-ป่วยเรื้อรังสูง 100% เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2564 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 8,452 ราย ติดเชื้อในประเทศ 8,285 ราย มาจากระบบบริการ 7,654 ราย เกิดจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 631 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 160 ราย และอีก 7 รายเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 1,875,315 ราย และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) จำนวน 1,394 ราย คิดเป็น 3.62%
ขณะที่มีผู้หายป่วย 8,449 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสม 1,758,297 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 98,096 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 2,355 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 534 ราย และมีผู้เสียชีวิต 57 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 18,922 ราย
โดยผู้เสียชีวิต 57 ราย มาจากกทม.และปริมณฑล 17 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 9 ราย และจังหวัดอื่น 31 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ 46 ราย คิดเป็น 81% และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 8 ราย คิดเป็น 14% ซึ่งหากรวมกันพบมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 95% ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตนอกโรงพยาบาล 1 ราย และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนรู้จัก และอาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม.859 ราย สงขลา 551 ราย ปัตตานี 532 ราย ยะลา 475 ราย จันทบุรี 358 ราย นครศรีธรรมราช 345 ราย นราธิวาส 331 ราย สมุทรปราการ 306 ราย ชลบุรี 297 ราย และเชียงใหม่ 270 ราย
“แนวโน้มภาพรวมของผู้ติดเชื้อรายใหม่ของทั้งประเทศลดลงอย่างชัดเจน หากแยกเป็นสัดส่วนจะเห็นว่า 67 จังหวัด และชายแดนใต้มีทิศทางลดลงแบบทรงๆตัว อยู่ที่ 60% และ 23% ตามลำดับ ส่วนแนวโน้มของ กทม.และปริมณฑลตอนนี้ก็ลดลงมาเหลือ 17% แล้ว” พญ.สุมนี กล่าว
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนเพิ่ม 812,009 โดส เป็นเข็มแรก 371,263 ราย เข็มที่ 2 เพิ่ม 401,747 ราย และเข็มที่ 3 เพิ่ม 38,999 ราย รวมสะสม 70,049,529 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 40,717,544 ราย คิดเป็น 56.5% ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 29,115,651 ราย คิดเป็น 40.4% และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 2,216,334 ราย คิดเป็น 3.1%
จันทบุรีเจอคลัสเตอร์แคมป์คนงาน-แรงงาน 138 แห่ง
พญ.สุมนี กล่าวถึงการคลัสเตอร์ภายในประเทศว่า วันนี้จังหวัดจันทบุรีเจอคลัสเตอร์แคมป์คนงานถึง 132 คลัสเตอร์ และเจอจากแรงงานอีก 6 คลัสเตอร์ ขณะที่จังหวัดนครศรีธรรมราชยังเจอคลัสเตอร์งานศพเป็นจำนวนมาก โดยล่าสุดเจอ 5 คลัสเตอร์ ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้แม้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงมาเป็นอันดับที่ 10 แล้ว แต่ยังมีการติดเชื้อประปรายในตลาด ชุมชน และโรงงาน
ทั้งนี้ยังต้องกำชับให้ประชาชนดำเนินมาตรการส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ทั้งในศพและตลาด ต้องมีการเว้นระยะห่าง สวนใส่หน้ากากอนามัย และควรนำอาหารกลับไปรับประทานที่บ้าน
เร่งฉีดวัคซีนครูอีก 131,238 ราย รับเปิดเรียน on-site
พญ.สุมนี กล่าวถึงการฉีดวัคซีนในกลุ่มนักเรียน-นักศึกษาว่า ขณะนี้ฉีดวัคซีนเข็มแรกได้แล้ว 1,924,942 คิดเป็น 42.8% และฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ได้แล้ว 39,991 ราย คิดเป็น 0.9% จากจำนวนเป้าหมายทั้งหมด 4,500,000 ราย
ส่วนการฉีดวัคซีนในครู และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงสด (สีแดงเข้ม) และพื้นที่ควบคุม (สีแดง) จากจำนวนทั้งหมด 894,387 ราย ฉีดวัคซีนแล้ว 763,149 ราย คิดเป็น 85.33% อย่างไรก็ตามการจะเปิดเรียนออนไซต์ (on-site) ได้บุคลากรครูจะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม อย่างน้อย 85% ซึ่งยังขาดอีก 131,238 ราย จึงขอเชิญชวนให้มารับวัคซีน
แผนฉีดเข็มกระตุ้น
พญ.สุมนี กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนชนิเชดเชื้อตาย 2 เข็ม ขอให้มารับเข็มกระตุ้น ดังนี้ ผู้ที่รับวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็มช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.2564 ขอให้มารับวัคซีนกระตุ้นในเดือน ต.ค.2564, ผู้ที่รับวัคซีนชนิดเชื้อตาย 2 เข็ม ช่วงเดือน มิ.ย.2564 ขอให้มารับวัคซีนกระตุ้นในเดือน พ.ย.2564 และผู้ที่รับวัคซีนชนิดเชื้อตาย 2 เข็มทุกราย ขอให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือน ธ.ค.2564 โดยให้ติดต่อที่หน่วยบริการฉีดวัคซีนเดิมที่เคยรับบริการได้เลย
ความครอบคลุมวัคซีนพื้นที่สีฟ้า-ชายแดนใต้
พญ.สุมนี กล่าวถึงความครอบคลุมการฉีดวัคซีนจำแนกตามพื้นที่นำร่อง (พื้นที่สีฟ้า) ด้วยว่า ขณะนี้จังหวัดที่ฉีดวัคซีนครอบคลุม 50% แล้วได้แก่ กทม. เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี สมุทรปราการ ระยอง ตราด บุรีรัมย์ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และระนอง ขณะที่ทุกจังหวัดพื้นที่สีฟ้าฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่มผู้สูงวัยและผู้มีโรคประจำตัวมีค่าเฉลี่ย 75.3% ก็ขอให้มีการฉีดวัคซีนของกลุ่มนี้ให้มากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ
ส่วนใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ครอบคลุม 50% แล้ว มีเพียงจังหวัดยะลาและสงขลา ที่เหลือคือจังหวัดนราธิวาสและปัตตานี ฉีดเข็มแรกได้ 43.9% และ 45.7% ตามลำดับ ขณะที่ความครอบคลุมในกลุ่มผู้สูงอายุทุกจังหวัดชายแดนใต้มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 59.4% และในกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 57.9%
วันนี้ผู้เสียชีวิตชายแดนใต้เป็นผู้สูงวัย-ป่วยเรื้อรัง 100%
สำหรับการแก้ไขสถานการณ์พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ พญ.สุมนี กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มของผู้ติดเชื้อในภาคใต้ตอนนี้มีแนวโน้มค่อยๆ ลดลงแล้ว ทั้งนี้ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสถานการณ์ภาคใต้ทุกวัน และมีการดำเนินงานร่วมกับหลายหน่วยงานเพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหา โดยมติที่ประชุมเห็นว่า ควรให้ความสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.) เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้เพิ่มขึ้น ทั้งในกลุ่มประชาชนทั่วไป กลุ่มเสี่ยง นักเรียนนักศึกษา แรงงานในพื้นที่ และ 2.) มีการจำกัดวงไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง เนื่องจากในขณะนี้การแพร่กระจายเป็นไปในลักษณะครอบครัวหรือชุมชน โดยเฉพาะตลาด ร้านอาหาร หรือร้านน้ำชา เป็นต้น นอกจากนี้ในระดับจังหวัดยังมีการวางแผนมาตรการควบคุมโรค เช่น ในจังหวัดนราธิวาสมีแคมเปญ “Save NARA NARA Safe” หรือในจังหวัดสงขลามีแคมเปญ “Songkhla Fast Songkhla Safe”
"ศบค.มีความเป็นห่วงสถานการณ์ผู้เสียชีวิตจากโควิดในพื้นที่ชายแดนใต้ พบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ เป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมถึงหญิงตั้งครรภ์และเด็กด้วย โดยในกลุ่มผู้เสียชีวิตดังกล่าวกว่า 90% ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมด และในวันนี้ผู้เสียชีวิตก็เป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังถึง 100% ดังนั้นเป้าหมายหลักในชายแดนใต้ คือ การเร่งรัดฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงให้ได้มากที่สุด" พญ.สุมนี กล่าว
เดินทางเข้าไทยต้องลงทะเบียน ‘Thailand Pass’
พญ.สุมนี ล่าวสรุปมาตรการเดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 1 พ.ย.ว่า ผู้ที่ประสงค์เดินทางเข้าไทยขอให้ลงทะเบียนในระบบใหม่ ‘Thailand Pass’ ผ่านเว็บไซต์ https://tp.consular.go.th ซึ่งจะได้ QR Code เอาไว้ใช้แสดงต่อสายการบิน และเจ้าหน้าที่คัดกรอง ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ส่วนผู้ที่ได้รับ COE ไปก่อนหน้านี้ สามารถใช้ฉบับที่เคยได้รับไปแล้วได้
ขณะที่เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่เดินทางพร้อมผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนครอบแล้ว สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตรวจ และต้องรอผลตรวจในโรงแรมที่กำหนดไม่น้อยกว่า 1 คืนเช่นเดียวกับผู้ปกครอง
ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ศุกร์นี้
พญ.สุมนี ในวันศุกร์นี้จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ขอให้ประชาชนติดตามรับชม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. มาสรุปประเด็นสำคัญจากที่ประชุม
ทั่วโลกป่วยเพิ่ม 426,091 รวมสะสม 245.27 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 426,091 ราย รวม 245,275,490 ราย อาการหนัก 75,072 ราย หายป่วย 222,349,743 ราย เสียชีวิต 4,978,726 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 69,634 ราย รวม 46,497,719 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,451 ราย รวม 759,932 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 13,508 ราย รวม 34,214,865 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 584 ราย รวม 455,684 ราย บราซิล พบเพิ่ม 13,424 ราย รวม 21,748,984 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 409 ราย รวม 606,293 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage