'พาณิชย์' เผยส่งออก ก.ย.เติบโต 17.1%-โพลล์นักวิเคราะห์หั่นจีดีพีปีนี้เหลือ 0.6%

export 26 10 21 pic

‘พาณิชย์’ เผยส่งออกเดือน ก.ย.64 โต 17.1% เหตุ ‘การค้าโลกขยายตัว-บาทอ่อน-ราคาน้ำมันดิบเพิ่ม’ ขณะที่โพลล์นักวิเคราะห์หั่นคาดการณ์จีดีพีปีนี้เหลือเติบโต 0.6%

............................

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือน ก.ย.2564 ว่า การส่งออกไทยในเดือน ก.ย.2564 มีมูลค่า 23,036.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 17.1% เมื่อเทียบกับข่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 22,426.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 30.3% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 609.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ หากหักการส่งออกสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธ พบว่าการส่งออกไทยเดือน ก.ย.2564 ขยายตัวที่ 14.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับปัจจัยสนับสนุนการส่งออกไทย ได้แก่ 1.ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น โดยล่าสุดองค์การการค้าโลก (WTO) คาดว่ามูลค่าการค้าโลกจะขยายตัว 10.8% จากเดิม 8% ซึ่งผลดีต่อการส่งออกไทย 2.ค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่า และมีแนวโน้มอ่อนค่า ทำให้สินค้าไทยแข่งขันด้านราคาได้ดีขึ้น 3.ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้าส่งออกที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันมีมูลค่าเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวก็ทำให้ต้นทุนการผลิตของไทยเพิ่มขึ้นเช่นกัน

และ 4.แผนงานสนับสนุนการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 กว่า 130 กิจกรรม รวมถึงการร่วมมือกับภาคเอกชนแก้ปัญหาการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การแก้ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และแก้ปัญหาด่านชายแดน เป็นต้น

“เนื่องจากศักยภาพของภาคเอกชนของเราเข้มแข็ง ทำให้การผลิตในภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวเร็ว แม้ว่าจะเผชิญกับสภาวะการล็อกดาวน์ และโควิด สะท้อนได้จากตัวเลขการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและเครื่องจักรในช่วงเดือน ก.ย.2564 ที่ขยายตัว 30.3% ซึ่งจะทำให้ไทยผลิตสินค้าส่งออกไปได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ ยังระบุว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.2564) การส่งออกไทยมีมูลค่า 199,997.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐสหรัฐ ขยายตัว 15.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 197,980.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 30.9% ทำให้ไทยเกินดุลการค้า 2,016.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

export 26 10 21 1

ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยผลสำรวจมุมมองภาวะเศรษฐกิจไทยจากความเห็นนักวิเคราะห์ (Analyst Survey) ครั้งที่ 3 (ไตรมาส 4 ปี 2564) พบว่า นักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงเหลือ 0.6% ในขณะที่การสำรวจครั้งที่ 2 (ไตรมาส 3 ปี 2564) นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัว 1.3%

แต่ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 มีแนวโน้มฟื้นตัว สะท้อนจากการคาดการณ์ว่าทุกเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจจะขยายตัวเล็กน้อย จากแรงสนับสนุนทั้งนโยบายด้านการคลังและการเงิน รวมถึงการฉีดวัคซีนที่คืบหน้าไปมากและการทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมฯ ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศเริ่มฟื้นตัว โดยภาคการผลิตมีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็วกว่าธุรกิจในภาคที่มิใช่การผลิต จากการส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า

อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ค่าระวางเรือและราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงปัจจัยภายในประเทศ อาทิ ปัญหาหนี้ครัวเรือน ความไม่แน่นอนทางการเมือง กดดันให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง

ผลสำรวจยังพบว่า นักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งก่อน โดยนักวิเคราะห์ที่มองว่าเศรษฐกิจจะกลับเป็นปกติภายในปี 2565 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่เห็นว่าประชาชนจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ช้ากว่าการประเมินในรอบเดือน ก.ค. ที่เป็นช่วงก่อนการระบาดรุนแรง ส่วนหนึ่งเพราะกังวลว่าการระบาดอาจกลับมารุนแรงขึ้นอีกหลังจากเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า จำนวนผู้ได้รับวัคซีน 2 เข็มเกิน 70% ของประชากร จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดต่อการกลับมาใช้ชีวิตปกติของประชาชน

bot 26 10 21 1 new