กมธ.ศาสนาฯ แพร่ผลพิจารณาเรื่องร้องเรียน ปมถอดถอดเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป ระบุไม่อยู่ในอำนาจสอบหาข้อเท็จจริง ยันขั้นตอนทำตามกฎหมาย-จี้ พศ.ชี้แจงข้อเท็จจริงให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2564 คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน เผยแพร่ผลการประชุม เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2564 กรณีที่มีประชาชนร้องขอความเป็นเกี่ยวกับการปลดพระสังฆาธิการ 3 รูปถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ประกอบด้วย พระราชปริยัติสุนทร (อมรภิรักษ์ ปสนฺโน) ออกจากเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา , พระธรรมรัตนาภรณ์ (สมศักดิ์ โชตินฺธโร) ออกจากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และ พระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินฺธโร) เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต)
สำหรับประเด็นการแต่งตั้งและถอดถอนพระสังฆาธิการเป็นการดำเนินการของคณะสงฆ์ผู้ปกครอง โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเป็นเรื่องการปกครองคณะสงฆ์ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ จึงไม่อยู่ในอำนาจของ กมธ.ศาสนาฯ จะพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 129 และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อ 90 (30)
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และผู้อำนวยการสำนักงานมหาเถรสมาคม มาให้ข้อมูล โดยได้ข้อสรุปว่า ในการดำเนินการถอดถอนพระสังฆาธิการ พศ.เป็นหน่วยงานสนับสนุนและสนองงานคณะสงฆ์ และต้องปฏิบัติตามกฎหมายของส่วนราชการ และการถอดถอนพระสังฆาธิการ กรณีเจ้าคณะจังหวัด 3 รูปนั้น เป็นการเสนอโดยพระสงฆ์ผู้ปกครองและเป็นไปตามกฎหมายและกฎมหาเถรสมาคม
โดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561 มาตรา 20/2 ระบุว่า “การแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าคณะใหญ่และเจ้าคณะภาค หากมีพระราชดำริเป็นประการใด ให้ดำเนินการไปตามพระราชดำรินั้น สำหรับการแต่งตั้งและถอดถอนพระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ตำแหน่งอื่นให้ดำเนินการไปตาม พ.ร.บ.นี้ เว้นแต่จะมีพระราชดำริเป็นประการอื่น”
นอกจากนี้ยังพบว่า ก่อนหน้านี้มหาเถรสมาคมได้ออกกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการแก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 (พ.ศ.2563) เพื่อให้การแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ เป็นไปตามความในมาตรา 20/2 โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมหลักการ ในข้อ 5/1 ระบุตอนหนึ่งว่า การถอดถอนจากตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสพระอารามหลวง เมื่อได้ดำเนินการตามกฎมหาเถรสมาคมนี้แล้ว ให้เสนอมหาเถรสมาคมพิจารณาทุกกรณี จากนั้นให้สมเด็จพระสังฆราชในฐานะประธานกรรมการมหาเถรสมาคมเสนอไปยังราชเลขานุการณ์ในพระองค์ เพื่อนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท เมื่อมีพระราชดำริเป็นประการใดให้มหาเถรสมาคมมีมติเห็นชอบโดยอนุวัตตามพระราชดำรินั้น แล้วจึงจะดำเนินการต่อไปได้ และให้เลขาธิการมหาเถรสมาคมรายงานนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว พศ.ในฐานะฝ่ายเลขานุการได้เสนอให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคมรับทราบตามที่พระผู้ปกครองเสนอมา และในขณะนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำริเห็นชอบตามที่สมเด็จพระสังฆราชได้กราบบังคมทูลแล้ว อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องจากผู้แทน พศ. โดยไม่มีมติแต่อย่างใด
ส่วนประเด็นทางสังคมหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับเหตุผลการถอดถอน กมธ.ขอให้ พศ.แถลงข่าวให้พุทธศาสนิกชนและสื่อมวลชนให้มีความเข้าใจและมีความชัดเจนให้มากขึ้น
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage