ปล่อยตัว ‘จตุพร’ พ้นเรือนจำ หลังศาลอุทธรณ์ให้ประกันคดีชุมนุมล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ แง้มขอคุยแกนนำ ก่อนกำหนดท่าทีการเมือง เชื่อ ‘บิ๊กตู่’ อยู่ไม่ถึง 8 ปี จี้เสียสละเพื่อบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2564 ศาลอาญาอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ โดยมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว นายจตุพร พรหมพันธุ์ จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.2799/2557 (ชุมนุมล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์) ที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร กับพวกรวม 2 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ โดยหากนายจตุพรผิดสัญญาประกันให้ปรับ 3 เเสนบาท โดยให้วางเงินประกันไว้
โดยนายจตุพร ได้รับการปล่อยตัวเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พร้อมเปิดเผยว่า ตนและผู้ต้องขังทั้งประเทศกว่า 5 หมื่นคน สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เมื่อ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคนที่จะได้รับการปล่อยตัว จะได้อบรมโครงการโคกหนองนา รุ่นละ 14 วัน ซึ่งตนอยู่ในรุ่นที่ 3 โดยมีกำหนดการปล่อยตัวเมื่อวานนี้ และขอบคุณศาลอุทธรณ์ที่ให้ความเมตตา
“ขอเรียนย้ำกันอีกครั้งว่า พวกผมทุกคนนั้น ยังจะต้องกลับไปพูดคุยกันในทุกเรื่องราว ผมอยู่ในคุก 97 วัน เพื่อนพ้องหลายคนทำหน้าที่กันอย่างงดงาม แม้วันนี้จะไม่ได้มาที่นี่ ก็ทำหน้าที่ในการช่วยกันอย่างแข็งแรง ความเป็นพี่น้องยังแข็งแรงเหมือนเดิม ไม่มีวันเสื่อมคลาย” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองห่างๆ ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะอยู่ไม่ถึง 8 ปี เพราะฉะนั้นตนเชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมือง ยุคในอดีตที่ผ่านมา นักรบ นักต่อสู้ทั้งหลาย เขาชอบคำว่า ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน แต่ปัจจุบันฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ฟ้องนาย และขายเพื่อนนั้น อย่างไรก็พาประเทศไปไม่รอด ตนเชื่อว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งที่ผ่านมาได้เห็นอะไรหลายอย่าง นายกรัฐมนตรีรู้อยู่แก่ใจที่สุดว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์ไหนอย่างไร รู้ว่ายิ่งอยู่นานเท่าไรจะต้องแปดเปื้อนเรื่องอะไรบ้าง ฉะนั้นอย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า หลายคนอาจจะติดดใจที่ต้องวินิจฉัยเรื่อง 8 ปี แต่ตนไม่เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะอยู่ได้ถึงไหนวันนั้น
“ผมเชื่อว่าสถานการณ์ประเทศกำลังเดินเข้าสู่วิกฤติ มิคสัญญี กลียุค เพราะประชาชนมีความเดือดร้อนอันแสนสาหัส ทุกคำที่พูดถึงการเปิดประเทศ แต่ไม่เคยเอ่ยถึงความตายของประชาชนนับหมื่นราย ผมเรียนว่าทางการเมืองกำลังเข้าสู่ทางตัน เพียงแต่อาจจะโปรยยาหอมว่าจะมีการเลือกตั้ง เพื่อให้บรรดานักการเมืองมุ่งสนใจเลือกตั้ง ไม่ได้สนใจปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรอย่างแท้จริง” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวย้ำว่า ตลอดเวลาร่วม 7 ปีนี้ตนเชื่อว่าคนไทยต่างเข็ดหลาบไปตามๆกัน เราเดินมาถึงจุดที่ต้องรักษาบ้านเมืองมากกว่าเล่นการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ควรจะเสียสละให้กับบ้านเมืองนี้บ้าง เพราะบ้านเมืองนี้ให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์มากที่สุด อย่างที่ไม่มีใครได้รับมาในประวัติศาสตร์ทางการเมือง วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์กำลังจะเดินไปใกล้จุดที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ทั้งที่คุณูปการเรื่องการแก้ปัญหาของชาติแตกต่างกันลิบลับ
“ผมรู้ว่าประชาชนมีความเหนื่อยยากในการต่อสู้ช่วงที่ผ่านมา ช่วงเวลาถัดจากนี้ไป ผมคงจะได้มีโอกาสพูดคุย แลกเปลี่ยนกับบรรดาหมู่มิตร เพื่อให้เท่าทันสถานการณ์ และคงจะประเมินกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป นี่คือระบอบประชาธิปไตย คือการเปิดหูมากกว่าเปิดปาก รับฟังความทุกข์ของประชาชน ความทุกข์ของประเทศชาติและร่วมกันหาทางออก หากวันใดที่พร้อม ผมจะแถลงจุดยืนทางการเมืองอีกครั้งว่าเราจะดำเนินการอย่างไรถัดจากนี้” นายจตุพร กล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage