ทรัพย์ยังติดคดี! พบ'นายหน้า'เร่ขายที่ดินพิพาท‘บ.แชมป์ริช-จพท.’ริมเจ้าพระยา 2.1 พันล.

พบ ‘นายหน้า’ นำที่ดินพิพาท 'บ.แชมป์ริช-เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์’ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เร่ขายให้ผู้สนใจในราคากว่า 2.1 พันล้าน ทั้งๆที่คดีอยู่ในชั้นฎีกา

...............................

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีล้มละลาย มีคำพิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของ บริษัท แชมป์ริช จำกัด ซึ่งยื่นคำร้องขอให้ศาลฯมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (จพท.) รับเงินค่าซื้อทรัพย์เป็นเงิน 1,136.32 ล้านบาท และโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 3 แปลง (โฉนดที่ดินเลขที่ 1524 ,1908 และ 1521) ต.บางแจงร้อนนอก อ.ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ซึ่งมีมูลค่าตลาดในปัจจุบันประมาณ 2,600 ล้านบาท ให้กับ บริษัท แชมป์ริช จำกัด

และต่อมา บริษัท แชมป์ริช จำกัด ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีล้มละลาย ต่อศาลฎีกา เพื่อขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ รับเงินค่าซื้อทรัพย์เป็นเงิน 1,136.32 ล้านบาท และโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 3 แปลงให้กับ บริษัท แชมป์ริช จำกัด นั้น (อ่านประกอบ : ศึกชิงที่ดิน 2.6 พันล้านพลิก! ศาลอุทธรณ์ฯยกคำร้องโอนให้ บ.แชมป์ริช-ขายทอดตลาดได้)

ล่าสุดแหล่งข่าวจากวงการนายหน้า เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ขณะนี้มีนายหน้ากลุ่มหนึ่งได้นำที่ดินตามข้อพิพาททั้ง 3 แปลง ได้แก่ โฉนดที่ดินเลขที่ 1524 ,1908 และ 1521 เนื้อที่รวม 26 ไร่ 1 งาน 53 ตารางวา มาประกาศขายให้กับผู้ที่สนใจ ในราคา 2,110.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นตารางวาละ 2 แสนบาท แม้ว่าปัจจุบันคดีพิพาทระหว่าง บริษัท แชมป์ริช จำกัด และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ยังไม่สิ้นสุด และอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลฎีกา

ทั้งนี้ นายหน้ากลุ่มนี้ ได้นำแผนที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ดินทั้ง 3 แปลง พร้อมทั้งสำเนาโฉนดที่ดิน 1524 ,1908 และ 1521 มาแสดงกับผู้ที่สนใจ โดยมีข้อความบรรยายว่า ที่ดินแปลงสวยติดแม่น้ำเจ้าพระยา (26-1-53 ไร่) ลักษณะที่ดิน ติดถนนราษฎร์บูรณะหน้ากว้าง 130 เมตร , หลังติดแม่น้ำเจ้าพระยา ,มีท่าจอดเรือ และใกล้สถานที่สำคัญ เช่น ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ , Big C ราษฎร์บูรณะ , Lotus บางประกอก ,ใกล้ด่านค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร เพียง 2 กิโลเมตร และใกล้ทางขึ้นถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ค่าพิกัดแปลง : 13.6806879280903,100.5118501011

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า การที่นายหน้าดังกล่าวนำที่ดิน ซึ่งเป็นที่ดินพิพาทในคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาไปขายให้กับผู้สนใจ นั้น อาจสร้างความเสียหายให้กับผู้ซื้อที่ดินได้ เพราะหากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นฝ่ายชนะคดีดังกล่าว จะเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ในการนำที่ดินทั้ง 3 แปลงไปประมูลขายทอดตลาด

อ่านประกอบ :

ศึกชิงที่ดิน 2.6 พันล้านพลิก! ศาลอุทธรณ์ฯยกคำร้องโอนให้ บ.แชมป์ริช-ขายทอดตลาดได้

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage