‘บิ๊กตู่’ ย้ำใน ครม. ยังไม่ยุบสภา ขอทุกคนโฟกัสงานใหญ่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคปี 65 พร้อมเปรยจบเรื่องค่อยว่ากัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2564 รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้แจ้งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบถึงภารกิจต่างๆ ที่ตนเองได้ลงพื้นที่ไปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้ ส.ส.นครศรีธรรมราชของพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรีด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันว่าเรื่องการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.ได้มีการปรึกษากระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบแล้ว พร้อมได้หันไปสอบถาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ถึงเรื่องยาโมลนูพิราเวียร์ที่ใช้รักษาโควิด-19 ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร นายอนุทินจึงตอบว่า ไทยอยู่ระหว่างการทำสัญญาและเจรจากับผู้ขาย ส่วนที่ได้มาแล้วก็นำมารักษาเพื่อทำการทดลอง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพราะเป้าหมายสำคัญเวลานี้คือต้องลดอัตราการตายให้ได้มากที่สุด พร้อมย้ำว่า แม้จะมียารักษาโควิด-19 แล้ว แต่ยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีนควบคู่ไปด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายจุรินทร์ได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรให้ที่ประชุมรับทราบด้วยว่า ขณะนี้ราคายางพารา ผลไม้ และปาล์ม ราคาดีขึ้นทุกชนิด โดยเฉพาะราคายางพาราที่มีราคาสูงกว่าราคาประกัน ส่วนราคาข้าวยังต่ำกว่าราคาประกันอยู่ เนื่องจากปริมาณความต้องการของตลาดน้อยลง ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันทำงาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลและเป็นผลงานในภาพรวม
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในช่วงก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดถึงกระแสข่าวยุบสภาและเลือกตั้งว่า “อย่าเพิ่งไปวุ่นวายมาก รัฐบาลจะทำงานช่วยเรื่องน้ำท่วมและโควิด-19 ก่อน ผมยืนยันว่าไม่มีแนวคิดเหมือนที่สื่อเล่นกัน ส่วนเรื่องตัวเลข 5 ปีที่ผมพูด ผมหมายถึงผลงานที่ทำมาจะเป็นรูปธรรมมากขึ้นใน 5 ปี ทั้งเรื่องอีอีซี โครงสร้างพื้นฐาน ระบบคมนาคมต่างๆ ไม่ได้หมายความว่าผมจะอยู่ยาวอีก 5 ปี เดี๋ยวก็จะเอาไปตีความกันอีก”
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก ที่ไทยจะรับไม้ต่อเป็นเจ้าภาพจากนิวซีแลนด์ และจะเป็นเจ้าภาพจัดการปะรชุมในปี 2565 ว่า สำหรับการประชุมเอเปคจะมีการหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งในรอบ 20 ปีจะวนมาถึงไทยครั้งหนึ่ง จึงอยากให้ทุกคนช่วยการสร้างความรับรู้ และอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ อยากให้ทุกโฟกัสเรื่องนี้เป็นพิเศษ ตอนนี้รัฐบาลเราต้องช่วยกัน จุดสำคัญตอนนี้คือการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค ขอให้ทำงานให้เต็มที่ ไม่ได้รีบไปเลือกตั้ง ที่ผ่านมาก็ทำงานดีแล้ว ตอนนี้ต้องเร่งสร้างผลงานให้ดีๆ ก่อน ต่อจากนั้นใครจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากันไป”
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage