ไทยติดโควิดใหม่ 9,866 อาการหนัก 3,017 ราย สะสม 1.66 ล้านราย หายป่วยเพิ่ม 10,115 ราย เสียชีวิต 102 ราย ฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 56.65 ล้านโดส อีก 2 สัปดาห์ เตรียมเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ผ่อนคลายเพิ่ม หลังแนวโน้มดีขึ้น ส่วนชายแดนใต้ยังน่าห่วง ติดเชื้อยังพุ่ง จุฬาราชมนตรีย้ำฉีดวัคซีนได้ ไม่ผิดหลักศาสนา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) เผยแพร่สถานการณ์โควิดประจำวัน โดยพบผู้ติดป่วยรายใหม่ 9,866 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 9,805 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 8,797 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 1,008 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 45 ราย อีก 16 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) จำนวน 5,652 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 1,667,097 ราย หายป่วยเพิ่ม 10,115 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 108,022 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 3,017 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 720ราย เสียชีวิตเพิ่ม 102 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 17,305 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 102 ราย มาจาก กทม. 22 ราย ปริมณฑล 14 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 ราย ภาคเหนือ 11 ราย ภาคใต้ 12 ราย และภาคกลาง 37 ราย แบ่งเป็นชาย 51 ราย หญิง 51 ราย เป็นชาวไทย 97 ราย เมียนมา 3 ราย กัมพูชา 1 ราย และเนเธอร์แลนด์ 1 ราย อายุระหว่าง 38-102 ปี โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงสูงสุดมาจาติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว เพื่อน อาศัยในพื้นที่ระบาด และประกอบอาชีพเสี่ยง
ส่วน 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 1,208 ราย สงขลา 666 ราย สมุทรปราการ 602 ราย ชลบุรี 601 ราย นราธิวาส 501 ราย ยะลา 446 ราย ระยอง 379 ราย ปราจีนบุรี 313 ราย ปัตตานี 309 ราย และนครศรีธรรมราช 259 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ประกอบด้วย กาตาร์ 2 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย รัสเซีย 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย กัมพูชา 1 ราย สวีเดน 4 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย และเมียนมา 5 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 262,362 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 433,665 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 38,777 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 56,656,247 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 33,505,887 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 21,595,916 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 1,554,444 ราย
ชายแดนใต้ติดเชื้อยังสูง ย้ำฉีดวัคซีนได้ไม่ผิดหลักศาสนา
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงแนวโน้มการติดเชื้อรายใหม่ ใน 4 จังหวัดภาคใต้ ว่า มีอัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น วันนี้มีรายงานติดเชื้อ 1,922 คน คิดเป็น 20% เส้นกราฟใกล้เคียงกับการติดเชื้อใน กทม. และปริมณฑล จำนวน 2,218 คน คิดเป็น 23% โดยเป็นการติดเชื้อจากการสัมผัส นั่งคุย จิบน้ำชายามเช้า รับประทานอาหารร่วมกัน กิจกรรมทางศาสนาและประเพณี
ขณะนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้ตรวจราชการเขต 12 อยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ เพื่อกำกับติดตามการควบคุมโรค และคุมการระบาดเป็นคลัสเตอร์ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และการระดมฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งจะเป็นการเดินเท้าให้บริการฉีดวัคซีนในชุมชน และพบว่าในพื้นที่ยังมีการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้ประชาชนมีความลังเล ไม่กล้าฉีดวัคซีน ในกรณีวัคซีนป้องกันโควิด จุฬาราชมนตรี ย้ำว่าวัคซีนไม่มีสิ่งต้องห้ามตามหลักการศาสนาอิสลาม พร้อมยืนยันว่าวัคซีนสามารถฉีดได้และมีความจำเป็น
จ่อเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ผ่อนคลายเพิ่มอีก 2 สัปดาห์
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) เตรียมเสนอ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณามาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ตัวเลขเริ่มลดลงต่ำกว่า 100 ราย เช่น อ่างทอง สิงห์บุรี เป็นต้น
ขณะที่จังหวัดท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แม้จะมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ แต่ระบบสาธารณสุขยังรองรับได้ เช่น ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย ซึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี พบการติดเชื้อในคลัสเตอร์โรงเรียน จังหวัดที่เปิดรับการท่องเที่ยวไม่ได้แปลว่าไม่มีการติดเชื้อเลย แต่ต้องควบคุมให้เร็ว ไม่ให้ระบาดเข้าไปในครอบครัวหรือชุมชน หากพื้นที่มีมาตรการดูแลที่เหมาะสม ศบค.จะคงผ่อนคลายมาตรการให้ต่อเนื่อง
ในส่วนของ กทม. จำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดต่ำลง เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,208 คน
ย้ำเฝ้าระวังหลังเด็กฉีดไฟเซอร์ แน่นหน้าอก เป็นลม ให้ไป รพ.ทันที
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ว่า ขอเน้นย้ำไปยังผู้ปกครองและเด็กที่ฉีดวัคซีนให้สังเกตตัวเองภายใน 1 สัปดาห์ เนื่องจากวัคซีนชนิดนี้มีรายงานกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หากมีอาการแน่นหรือเจ็บหน้าอก หน้ามืดเป็นลม หอบเหนื่อยง่าย ใจสั่น ให้รีบไปโรงพยาบาลและแจ้งวันที่ได้รับวัคซีน
สำหรับตั้งแต่ 4 ต.ค. 2564 จนถึงวันนี้มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียนแล้วทั่วประเทศเกือบ 30,000 ราย พบว่าผู้ปกครองให้ความยินยอมประมาณ 3.5 ล้าน เหลืออีกเกือบ 1 ล้านคน ยังไม่ได้ลงทะเบียน หากพร้อมเมื่อไรสามารถติดต่อขอรับวัคซีนให้บุตรหลานได้ ซึ่งอัตราเสี่ยงที่จะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีนพบได้น้อย เพื่อจะเป็นภูมิคุ้มกันนำไปสู่การเปิดภาคเรียนได้ในช่วง พ.ย. นี้ อย่างไรก็ตาม นับถอยหลังเหลือเวลาอีก 87 วัน จะถึงสิ้นปี 2564
ทั่วโลกป่วย 411,101 ราย สะสม 236.59 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 411,101 ราย รวม 236,593,653 ราย อาการหนัก 85,299 ราย หายป่วย 213,721,839 ราย เสียชีวิต 4,831,604 ราย โดยสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยเพิ่ม 94,811 ราย รวม 44,781,200 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,811 ราย รวม 724,728 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 19,380 ราย รวม 33,870,385 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 285 ราย รวม 449,568 ราย บราซิล พบเพิ่ม 20,528 ราย รวม 21,499,074 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 686 ราย รวม 598,871 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 26 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage