อิศราจับมือเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนระหว่างประเทศ ร่วมกับนักข่าว 600 คนทั่วโลก รายงานข่าว’แพนโดรา เปเปอร์ส’ เจาะฐานข้อมูลผู้ถือครองบริษัทนอกอาณาเขตนับหมื่นทั่วโลก รวม ‘ซุปเปอร์ริช’ไทยหลายตระกูล
........................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในวันนี้ (4 ตุลาคม 2564) เครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนระหว่างประเทศ หรือ ไอซีไอเจ (International Consortium of Investigative Journalists: ICIJ) เปิดรายงานข่าว “แพนโดรา เปเปอร์ส” https://www.icij.org/investigations/pandora-papers/ จากฐานข้อมูลบริษัทเอเย่นต์รับจดทะเบียนและดูแลบริษัทนอกอาณาเขต 14 แห่ง ความจุรวม 2.94 เทอราไบต์
มีไฟล์แสดงข้อมูลทางการเงินของลูกค้าทั่วโลกกว่า 11.9 ล้านไฟล์ ถือเป็นขนาดข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยรั่วไหลถึงมือสื่อมวลชน และใหญ่กว่าฐานข้อมูลในการรายงานข่าว "ปานามาเปเปอร์ส" ใน พ.ศ. 2559
- ส่วนร่วมเล็กๆ 'อิศรา' ในข่าวพูลิตเซอร์ 'ปานามาเปเปอร์ส' กับงานข่าวโลกยุค 'Big Data'
- เบ็ดเสร็จ 214,000 บริษัท! 'ICIJ' เปิดหมดแล้วฐานข้อมูล 'ปานามา เปเปอร์ส'
โดยการรายงานข่าวครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากนักข่าวสมาชิกกว่า 600 คนจากองค์กรข่าว 150 องค์กรใน 117 ประเทศรวมทั้งสำนักข่าวอิศรา ซึ่งร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลผู้ถือครองบริษัทนอกอาณาเขตที่ครอบคลุมระยะเวลา 50 ปีตั้งแต่ พ.ศ. 2539 ถึง พ.ศ. 2563 ซึ่งมีการระบุรายชื่อเจ้าของที่แท้จริงของบริษัทนอกอาณาเขต หรือเรียกว่าเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ (beneficial owner) กว่า 29,000 ราย ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทนอกอาณาเขตกว่า 27,000 บริษัท ในกรณีของประเทศไทยมีชื่อสมาชิกครอบครัวธุรกิจขนาดใหญ่หลายครอบครัว
ฐานข้อมูลดังกล่าวแสดงรายชื่อพระมหากษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีทั้งในปัจจุบันและอดีต ข้าราชการระดับสูง ผู้บริจาคเงินอุดหนุนทางการเมืองในบางประเทศ ผู้มีรายชื่อสนับสนุนทางการเงินต่อขบวนการก่อการร้าย ดาราบอลลีวู้ด นักค้าอาวุธ นักร้องดัง สายลับ เชฟ ผู้กำกับภาพยนต์ ดีไซเนอร์ ซุปเปอร์โมเดล และนักกีฬาที่มีชื่อเสียง เป็นต้น
นอกจากนั้นยังพบนักธุรกิจระดับใหญ่ 130 รายจาก 45 ประเทศรวมทั้งประเทศไทย โดยไอซีไอเจระบุว่า เมื่อพิจารณาข้อมูลบุคคลร่ำรวยสูงสุดประจำปี 2564 ของนิตยสารฟอร์บสของสหรัฐอเมริกาแล้วพบว่า นักธุรกิจ 100 รายที่พบในฐานข้อมูลมีทรัพย์สินรวมกันกว่า 600,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ
ไอซีไอเจชี้ว่า แม้การถือครองบริษัทนอกอาณาเขตจะเป็นสิ่งถูกกฏหมาย แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายมีความเห็นพ้องกันว่าการที่บริษัทนอกอาณาเขตเอื้อต่อการปกปิดความลับ ทำให้เกิดการไหลของเงินผิดกฏหมาย ฟอกเงิน เลี่ยงภาษี ติดสินบน การสนับสนุนการก่อการร้าย และการวิธีการทุจริตต่าง ๆ เช่นกรณี FIFAGate ซึ่งเป็นการฟอกเงินเกิดขึ้นในสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) เป็นต้น
บริษัท หรือ เอเย่นต์รับจดทะเบียนบริษัทนอกอาณาเขต 14 แห่งนี้ตั้งอยู่ในประเทศและพื้นที่พิเศษต่าง ๆ ทั่วโลก คือ ประเทศแองกวิลลา, เบลีซ, สิงคโปร์, สวิตเซอร์แลนด์, ปานามา, บาร์เบโดส, ไซปรัส, ยูไนเต็ด อาหรับ อิมิเรตส์, บาฮามาส์, หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน, เซเชลส์, และเวียดนาม มีลูกค้าจากพื้นที่พิเศษและประเทศต่าง ๆ กว่า 200 ประเทศ และมีเอเย่นต์ 3 แห่งที่มีเจ้าของเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ข้อมูลที่ปรากฏในฐานข้อมูลอยู่ในรูปต่าง ๆ เช่น เอกสารการแจ้งภาษี, ใบสำคัญรับเงิน, พาวเวอร์พ้อยท์, อีเมล์ติดต่อ, บันทึกรายชื่อผู้อำนวยการและผู้ถือหุ้นบริษัท, หนังสือเดินทาง, บิลค่าอุปโภคบริโภค, และรูปภาพ เอกสารเหล่านี้เปิดเผยเครือข่ายการเป็นเจ้าของเบื้องหลังบริษัท มูลนิธิ และทรัสต์ จำนวนมาก รวมทั้งรายละเอียดหลายประการ เช่น การถือครองและการทำธุรกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการจัดการด้านมรดกที่ซับซ้อน เป็นต้น โดยไอซีไอเจสร้างฐานข้อมูล Datashare และแพลตฟอร์มในการแลกเปลี่ยนระหว่างนักข่าวในโครงการชื่อ Global iHub โดยใช้ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
ไอซีไอเจชี้ว่า การรายงาน ‘แพนโดรา เปเปอร์ส’ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แหลมคมของการถกเถียงในระดับโลกเกี่ยวกับความเป็นธรรมของระบบภาษีระหว่างประเทศ บทบาทของนักวิชาชีพตะวันตกในเศรษฐกิจมืด และความล้มเหลวของรัฐบาลต่าง ๆ ในการยุติการไหลของเงินสกปรกเข้าสู่บริษัทและทรัสต์ลับต่าง ๆ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage