'ไฟเซอร์' ล็อตจัดซื้อถึงไทยแล้ว 2 ล้านโดส ส่งตรวจคุณภาพความปลอดภัย ก่อนกระจายให้กับพื้นที่ พร้อมจัดหาเพิ่มตามแผนปี 65 ส่วนนักเรียนในภูเก็ตยื่นความประสงค์รับวัคซีน 100%
-----------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข, นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค คณะผู้บริหารจากกระทรวงฯ และผู้แทนจากบริษัทไฟเซอร์ เดินทางมารับมอบวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 2,000,700 โดส จากการสั่งซื้อ 30 ล้านโดส ซึ่งขนส่งจากประเทศสหรัฐอเมริกาถึงประเทศไทยโดยสายการบินดีเอชแอล (DHL) เมื่อเวลา 04.35 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับมานั้น เป็นไปตามแผนการจัดหา และเป็นไปตามสัญญาที่ทางผู้ผลิตให้ไว้ ในเดือน ต.ค. ไทยจะมีวัคซีนไฟเซอร์ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านโดส ที่จะทยอยส่งมอบเข้ามาในทุกสัปดาห์ เป้าหมายแรกของการฉีด คือ เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป เพราะวัคซีนยี่ห้อนี้ได้มาขึ้นทะเบียนว่าฉีดในเด็กอายุ 12 ปีได้ ส่วนยี่ห้ออื่น กำลังอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียน สำหรับเด็ก จะใช้วัคซีนประมาณ 10 ล้านโดสเศษ เนื่องจากมีจำนวนเด็กที่มีอายุตรงตามเกณฑ์ประมาณ 5 ล้านคน การให้บริการในโรงเรียน เราได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว ทั้งทีมแพทย์ และรถพยาบาล ที่ต้องเข้าไปเตรียมการในจุดฉีดวัคซีน
หลังจากฉีดวัคซีนกลุ่มนี้เสร็จ จะให้บริการวัคซีนแก่ประชาชนทั่วไป ตามการพิจารณาของแพทย์ และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ไทยเคยให้บริการวัคซีนไฟเซอร์ไปแล้ว 1.5 ล้านโดส พบว่า มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
"กระทรวงสาธารณสุขได้หารือกับไฟเซอร์ ถึงการจัดหาวัคซีนในปีหน้าแล้ว ซึ่งเป้าหมายของเรา จะต้องมีวัคซีนที่หลากหลาย ในจำนวนที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน เราจะมีทั้งวัคซีนเชื้อตาย ไวรัลเว็กเตอร์ mRNA ไปจนอาจจะถึงชนิดของโปรตีนซับยูนิต ที่กำลังพัฒนาโดยทีมคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีหน้า เป้าหมายของไทยจะเป็นการฉีดบูสเตอร์เป็นหลัก" นายอนุทินกล่าว
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับมานั้น จะมีการนำส่งตัวอย่างวัคซีนให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจคุณภาพและความปลอดภัย เมื่อวัคซีนผ่านการตรวจคุณภาพแล้ว ทางกรมควบคุมโรคจะนำมาจัดสรรให้กับพื้นที่ต่อไป
สำหรับความประสงค์ขอรับวัคซีนนักเรียน/นักศึกษา ปี 2564 อันดับ 1 จังหวัดภูเก็ต มีนักเรียน/นักศึกษา 33,330 ราย ประสงค์รับวัคซีน 33,330 ราย หรือ 100% อันดับ 2 จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีนักเรียน/นักศึกษา 87,612 ราย ประสงค์รับวัคซีน 78,271 ราย หรือ 89.34% อันดับ 3 จังหวัดอุตรดิษถ์ มีนักเรียน/นักศึกษา 28,765 ราย ประสงค์รับวัคซีน 24,984 ราย หรือ 86.86% อันดับ 4 จังหวัดลำพูน มีนักเรียน/นักศึกษา 23,235 ราย ประสงค์รับวัคซีน 20,159 ราย หรือ 86.76% และอันดับ 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนักเรียน/นักศึกษา 36,278 ราย ประสงค์รับวัคซีน 31,475 ราย หรือร้อยละ 86.76%
นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่าส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียนและนักศึกษา จะเริ่มฉีดวันแรก 4 ต.ค. 2564 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอมตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาลควบคู่กันไปด้วย เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ให้การป้องกันควบคุมโรคเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage