เผยเบื้องลึกประกาศให้ ผู้พิพากษาศาลฎีกา พ้นตำแหน่ง ถูกกล่าวหารับเงินวิ่งเต้นคดี แม้ ก.ต.เสียงข้างมากจะเห็นว่าข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน แต่มีมลทินมัวหมองแล้ว จึงให้ออกตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543
...........................
จากกรณี ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 27 ก.ย.2564 เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่ง โดยมีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายสราวุธ ศิริภาณุรักษ์ ข้าราชการตุลาการ ตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา ออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เนื่องจากมีมลทินหรือมัวหมอง หากให้รับราชการต่อไปจะเป็นการเสียหายแก่ราชการ และต้องพ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 32 (6) และมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 นั้น
แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า นายสราวุธ ศิริภาณุรักษ์ ถูกกล่าวหาว่ารับเงินเพื่อไปวิ่งเต้นคดีที่ศาลฎีกา ซึ่งแม้ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เสียงข้างมาก จะเห็นว่าข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน แต่มีมลทินมัวหมอง จึงให้ออกตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการฯ มาตรา 35
สำหรับ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการฯ มาตรา 35 ระบุว่า เมื่อประธานศาลฎีกาเห็นสมควรให้ข้าราชการตุลาการผู้ใดออกจากราชการเพื่อรับบําเหน็จบํานาญเหตุทดแทน เหตุทุพพลภาพ หรือเหตุรับราชการนานตามกฎหมายว่า ด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ ให้กระทําได้ด้วยความเห็นชอบของ ก.ต. การสั่งให้ออกจากราชการเพื่อรับบําเหน็จบํานาญเหตุทดแทนนอกจากที่บัญญัติไว้ในมาตรา 34 แล้ว ให้กระทําได้เฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้
(1) เมื่อข้าราชการตุลาการนั้นถูกกล่าวหาว่ากระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรงและดําเนินการสอบสวนตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในส่วนที่ 2 ของหมวด 5 และไม่ได้ความเป็นสัตย์ว่ากระทําผิดที่จะต้องถูกสั่งลงโทษไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก แต่เห็นว่าผู้นั้นมีมลทินหรือมัวหมองหากให้รับราชการต่อไปจะเป็นการเสียหายแก่ราชการ
(2) เมื่อข้าราชการตุลาการนั้นบกพร่องต่อหน้าที่หรือหย่อนความสามารถในอันที่จะปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือประพฤติตนไม่สมควรที่จะให้คงเป็นข้าราชการตุลาการต่อไป
(3) เมื่อข้าราชการตุลาการนั้นเจ็บป่วยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ราชการได้โดยสม่ำเสมอ แต่ไม่ถึงเหตุทุพพลภาพ หรือ
(4) เมื่อปรากฏว่าข้าราชการตุลาการนั้นขาดสัญชาติไทย ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 26 (10) หรือไปดํารงตําแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง กรรมการการเลือกตั้ง กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage