อัยการ สนง.คดีทุจริตภาค 8 นำตัว 'ธรรมะ หรือ ชินโชติ สอนใจ' อดีตอัยการภูเก็ต ส่งฟ้องศาลฯ แจ้งข้อกล่าวหาตาม ปอ.ม. 201 คดีคลิปเสียงเรียก 10 ล้าน ก่อนใช้หลักทรัพย์ที่ดิน-เงินสด 700,000 บาท ได้ประกันตัว หลังจากก่อนหน้านี้ได้ตัว'วันฉัตร ชุณหถนอม' อัยการรายสอง ฐานผู้สนับสนุน มาส่งฟ้องไปแล้ว
................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤมิชอบภาค 8 นิติกรสำนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 8 ได้นำตัว นายธรรมะ หรือ นายชินโชติ สอนใจ ผู้ถูกกล่าวหา ที่ 1 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 8 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดภูเก็ต ฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเพื่อช่วยเหลื่อทางคดี ยื่นฟ้องต่อศาลฯ โดยคำสั่งเด็ดขาดของอัยการสูงสุด นายวงศ์สกุล กิติพรหมวงศ์ ซึ่งมีนายประเวศ ศิริศักดิ์วัฒนา อัยการพิเศษฝ่าย อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 8 เป็นผู้ลงนามสั่งคดี
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายวันฉัตร ชุณหถนอม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต ฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้กล่าวหาที่ 1 ได้เดินทางมาพบ อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการปราบปรามการทุจริตภาค 8 เพื่อให้นำตัวไปฟ้องยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤมิชอบภาค 8 และขอประกันตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว
@ วันฉัตร ชุณหถนอม
เบื้องต้น นายธรรมะ หรือชินโชติ ได้ใช้หลักทรัพย์ซึ่งเป็นที่ดินที่อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี และ เงินสด วงเงิน 700,000 บาท ยื่นประกันตัว ศาลอนุญาตให้ประกันตัว เช่นเดียวกับนายวันฉัตร ที่ใช้หลักทรัพย์เป็นที่ดินวงเงิน 700,000 บาท ประกันตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับข้อกล่าวหาที่อดีตอัยการจังหวัดภูเก็ตถูกส่งฟ้องในครั้งนี้ นั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 8 ได้แจ้งข้อกล่าวหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี หรือพนักงานสอบสวน เรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือ ประหารชีวิต
สำหรับกรณีนี้เคยปรากฎเป็นข่าวดังในช่วงปี 2562 ภายหลังสำนักข่าวอิศรา นำเสนอข่าว นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ออกคำสั่งที่ 1191/2562 ให้พนักงานอัยการช่วยราชการ ปฏิบัติราชการ และรักษาราชการ 11 ราย ต่อสาธารณชน ปรากฎว่าได้มีผู้นำคลิปเสียงสนทนาความยาวกว่า 21 นาที ของผู้หญิงรายหนึ่ง ระบุสถานะตนเองในคลิปเสียงว่า เป็นลูกน้องนักธุรกิจต่างประเทศ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกระทำความผิดบุกรุกที่สาธารณะในจังหวัดภูเก็ต กับผู้ชายรายหนึ่ง กำลังเจรจาต่อรองเรื่องการจ่ายเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการช่วยวิ่งเต้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ทำความเห็นแย้งเห็นตามความเห็นของอัยการที่จะไม่สั่งฟ้องคดีนี้ ในวงเงิน 10 ล้านบาท ไปร้องเรียนต่อ อสส. เพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่คลิปเสียงสนทนาดังกล่าว ถูกนำไปเผยแพร่ส่งแชร์ต่อตามห้องกลุ่มไลน์อัยการด้วย ก่อนจะมีการสอบสวนในเวลาต่อมา
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 สำนักงาน ป.ป.ช. เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 8 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดภูเก็ต กับพวก ร่วมกันเรียกรับเงินจากตัวแทนของบริษัทเอกชน เพื่อช่วยเหลือทางคดีเป็นทางการ
ตามสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ระบุว่า เรื่องกล่าวหานายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 8 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดภูเก็ต กับพวก ร่วมกันเรียกรับเงินจากตัวแทนของบริษัทเอกชน เพื่อช่วยเหลือทางคดี คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติมอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน จากการไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2555 กรมอุทยานแห่งชาติได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย กล่าวหาบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต และกรรมการของบริษัทดังกล่าว ว่ากระทำความผิดในข้อหาร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าและเข้ายึดถือครอบครองป่าโดยตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมาเมื่อคณะทำงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง และได้ส่งสำนวนไปให้อัยการจังหวัดภูเก็ตเพื่อพิจารณามีคำสั่ง ต่อมาบริษัทเอกชนและกรรมการของบริษัทดังกล่าวได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการเจ้าของสำนวน จึงได้มีการเสนอสำนวนคดีไปยังอธิบดีอัยการภาค 8ซึ่งอธิบดีอัยการภาค 8 มีคำสั่งไม่ฟ้องบริษัทเอกชนและกรรมการของบริษัทดังกล่าว และได้ส่งสำนวนคดีไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8แต่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ โดยเสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดซึ่งอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีดังกล่าวนายอำเภอเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนจึงอยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 จึงส่งสำนวนกลับคืนมาให้สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตเพื่อที่สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตจะได้ส่งสำนวนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพิจารณาความเห็นของพนักงานอัยการ โดยสำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตได้รับหนังสือดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 นายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ ในฐานะอัยการผู้เชี่ยวชาญ รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดภูเก็ตในขณะนั้นได้โทรศัพท์แจ้งพนักงานอัยการซึ่งเคยเป็นพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนคดีดังกล่าวให้นัดหมายตัวแทนของบริษัทเอกชนเพื่อให้มาพบในวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 หลังจากนั้นตัวแทนของบริษัทเอกชนได้มาพบนายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ ที่ห้องทำงานอัยการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีนายวันฉัตร ชุณหถนอมในฐานะอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตในขณะนั้น อยู่ในห้องและร่วมสนทนาด้วย โดยนายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจเสนอว่าจะไปพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตให้มีคำสั่งไม่เห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ ซึ่งหลังจากนั้นยังได้มีการติดต่อกันอีกครั้งหนึ่งและได้มีการเรียกรับเงินจำนวนหนึ่งจากบริษัทดังกล่าว เพื่อกระทำการช่วยเหลือคดี
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่า การกระทำของนายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 201 ประกอบมาตรา 83 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมาตรา 173 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงการกระทำของนายวันฉัตร ชุณหถนอม มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 157 และมาตรา 201 ประกอบมาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 171 มาตรา 172 และมาตรา 173 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงทั้งนี้ ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังประธานกรรมการอัยการ เพื่อพิจารณาดำเนินการทางวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการกับนายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ และนายวันฉัตร ชุณหถนอม ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) ประกอบมาตรา 98 วรรคสองไปแล้วก่อนหน้านี้
อ่านประกอบ :
- ยืนยันมติ ป.ป.ช. ชี้มูลอัยการภูเก็ต 2 ราย คดีคลิปเสียงฉาวเรียกเงินนักธุรกิจ 10 ล.
- อสส. เช็นคำสั่งย้าย 11 ขรก. -อัยการภูเก็ต เชียงราย ติดโผ สะพัด นอกฤดู
- แฉคลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10 ล.วิ่งเต้นผู้ว่าฯ ไม่สั่งฟ้องคดีรุกที่สาธารณะ
- EXCLUSIVE : ฉบับเต็ม! คลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10ล.วิ่งเต้นคดีรุกที่สาธารณะ
- โวยแอบอ้างชื่อ! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต มอบรองฯ แจ้งความร้องทุกข์ปมคลิปเสียงเรียกเงิน 10ล.
- โชว์บันทึกตร.! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ร้องทุกข์คลิปเสียงแอบอ้างเรียก10ล. - ตัวละครเอกชื่อ 'การ์ตูน'
- ก่อนโดนขอ10ล.! เปิดตัวเอกชนคลิปเรียกเงินล้มคดีรุกที่อุทยานฯสิรินาถ โชว์รายได้ 738 ล.
- ขอพบผู้ว่าฯ ภูเก็ตแล้ว! อสส.ตั้งกก.สอบอัยการคลิปเรียกเงิน10ล.ภายใน30วัน-ย้ายด่วน 24ชม.
- แฉคลิปเรียก10ล.ชุดสอง! เรียกตัวพบห้องทำงาน อ้าง อสส. ตั้งธงฟ้องแล้ว มีอัยการนั่งคุย 2 ราย
- อ้างทำแผลอยู่! อัยการคดีคลิป10 ล. ปัดแจง 'อิศรา' ด้าน คกก.สอบปากคำผู้ว่า-รองฯ ภูเก็ตแล้ว
- 'วัชรพล' เผย ป.ป.ช. ลุยสอบคลิปเสียงอัยการ10ล.แล้ว-'การ์ตูน' แฉอีกโทรเจรจาขอยุติเรื่อง
- เปิดเนื้อหาสุดท้ายคลิปเรียก10ล.! ลีลา 'อัยการ B' ชี้ช่องหยุดคดี100%-อ้างธงผู้ว่าฯ ฟ้องแน่
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/