ป.ป.ช.เผยแพร่ผลคดีชี้มูลความผิด 'ดิเรก ปักเหนือ' อดีตนายก อบต. นายางกลัก อำเภอเทพสถิต ชัยภูมิ แบ่งซื้อแบ่งจ้างโครงการปีงบประมาณ 49-51ขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมไม่ถูกต้องตามระเบียบ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษจำคุก 30 ปี ทางนำสืบเป็นประโยชน์ ลดโทษให้หนึ่งในสาม เหลือ 20 ปี -พวก 1 ราย โดน 2 ปี
................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายดิเรก ปักเหนือ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นายางกลัก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ กับพวก คือ นายธีระวุฒิ พงศ์ศรี ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยมีลักษณะแบ่งซื้อแบ่งจ้างโครงการต่าง ๆ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-2551 และขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมไม่ถูกต้องตามระเบียบ
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ.มาตรา 151 , 152 และ 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นายดิเรก ปักเหนือ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 และ 157
การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามมาตรา 91 ลงโทษตามมาตรา 157 จำคุกกระทงละ 1 ปี 10 กระทง รวมจำคุก 10 ปี ตามมาตรา 151 จำคุก 5 ปี 4 กระทง รวมจำคุก 20 ปี รวมทั้งหมดเป็นจำคุก 30 ปี
คำให้การรับในข้อเท็จจริงและทางนำสืบของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 20 ปี
ส่วนนายธีระวุฒิ พงศ์ศรี จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 152
จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งสอง มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2564 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 สำหรับจำเลยที่ 2 และเห็นควรอุทธรณ์คำพิพากษาศาลดังกล่าวสำหรับจำเลยที่ 1
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก 1,820 ปี ติดจริง 50 อดีต ผจก.ศูนย์บริการโทรศัพท์สาธารณะอุดรฯ
- ศาลอุทธรณ์แก้โทษ จำคุก อดีตผู้ว่าลำปาง คดีละเว้นฯ อ่างเก็บน้ำ เหลือ 3 ปี ปรับ 3 หมื่น
- ศาลทุจริตฯ สั่งจำคุก 1 ปี อดีตนายกเทศมนตรีเชียงกลม เลย จ้างออกแบบอ่างเก็บน้ำ
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage