ป.ป.ช.ประกาศชวน ปชช.ผู้สนใจแสดงความเห็นจัดทำ กม.ป้องกันฟ้องคดีปิดปาก ตามแผนปฏิรูปป้องกันทุจริตหวังสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกประกาศเชิญชวนให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการจัดทำกฎหมายป้องกันการฟ้องคดีปิดปาก
โดยเนื้อหาประกาศระบุว่าด้วยคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้กำหนดแผนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ฉบับปรับปรุง)ซึ่งให้ความสำคัญกับกิจกรรมปฏิรูปที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ (Big Rock) โดยในกิจกรรมปฏิรูปที่ 2 “การพัฒนาการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและพัฒนาระบบคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสการทุจริตที่มีประสิทธิภาพ” มีเป้าหมายของกิจกรรมปฏิรูป คือ การมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติ (กฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก หรือ Anti - SLAPP Law) โดยมีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบกิจกรรมปฏิรูปดังกล่าว
เพื่อให้การดำเนินการจัดทำ (ร่าง) พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการฟ้องคดีปิดปากในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติมิชอบ พ.ศ. .... เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สำนักงาน ป.ป.ช. จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปหรือผู้เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการฟ้องคดีปิดปาก
ในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติมิชอบ พ.ศ. .... โดยสามารถแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 10 กันยายน 2564
โดยผู้ที่สนใจสามารถแสดงความเห็นได้ที่ลิงก์ต่อไปนี้https://www.nacc.go.th/categorydetail/20180831184638361/20210902143115?
อนึ่ง สำหรับรายละเอียดการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบนั้นมีการระบุรายละเอียดไว้ชัดเจนว่าในการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานของรัฐและหัวหน้าหน่วยงานของรัฐฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลที่แสดงความเห็นหรือเปิดโปงเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริต และประพฤติมิชอบ (กฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก) ที่ครอบคลุม ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักข่าว และสื่อมวลชน
เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ก่อนว่าบุคคลผู้นั้นกระทำโดยไม่บริสุทธิ์ โดยกรณีนี้ต้องไม่ตัดสิทธิ์หากเป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมเป็นหูเป็นตา ไม่ให้ใครฉ้อราษฎร์บังหลวง โดยบุคคลเหล่านี้ต้องได้รับการปกป้องมิให้ถูกคุกคามหรือกลายเป็นจำเลยเสียเอง
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage