โควิดวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17,491 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมจากการระบาดทั้งหมด 1,066,786 ราย หายป่วยมากกว่ายอดติดเชื้อ อยู่ที่ 22,134 ราย ตายเพิ่ม 242 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 6 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 2 ราย และนักจิตบำบัด 1 ราย พร้อมเผยยอดป่วยใหม่ลด แต่เสียชีวิตยังสูง ส่วน กทม.ต้องเฝ้าระวังคลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้าง หลังพบแนวโน้มการระบาดใหม่
------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 17,491 ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อในประเทศ 17,086 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 15,014 ราย มาจากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชน 2,072 ราย มาจากเรือนจำ 398 ราย และอีก 7 รายเดินทางมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมจากการระบาดทั้งหมด 1,066,786 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วย 22,134 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมทั้งหมด 861,770 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 195,454 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 5,290 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,094 ราย และมีผู้เสียชีวิต 242 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสมทั้งหมด 9,562 ราย
โดยมีผู้เสียชีวิต 242 ราย มาจากกทม.และปริมณฑล 126 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 15 ราย และจังหวัดอื่น 101 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ 162 คิดเป็น 67% และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 64 ราย คิดเป็น 26% ซึ่งหากรวมกันพบมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 93% ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 6 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 2 ราย และนักจิตบำบัด 1 ราย และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนรู้จัก อาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด และมีอาชีพเสี่ยง
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 3,472 ราย สมุทรสาคร 1,396 ราย สมุทรปราการ 1,296 ราย ชลบุรี 953 ราย นนทบุรี 781 ราย ราชบุรี 565 ราย นครปฐม 413 ราย อยุธยา 406 ราย สระบุรี 343 ราย และนครราชสีมา 325 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 7 ราย แบ่งเป็น อิสราเอล 1 ราย มาเลเซีย 2 ราย กัมพูชา 1 ราย และเมียนมา 3 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพิ่ม 157,857 ราย เข็มที่ 2 เพิ่ม 47,183 ราย และเข็มที่ 3 เพิ่ม 1,780 ราย รวมสะสม 27,038,999 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 20,430,028 ราย ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 6,065,003 ราย และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 543,968 ราย
@ ผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลด เสียชีวิตยังสูง
สำหรับการเปรียบเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ กับตัวเลขคาดการณ์จากมาตรการล็อกดาวน์ ภาพรวมประเทศ พบว่า แนวโน้มในตอนนี้เป็นไปตามเส้นสีเขียว คือ ฉากทัศน์ มาตรการล็อกดาวน์ ทำงานที่บ้าน (Work from Home) ปิดสถานที่เสี่ยง และฉีดวัคซีนตามเป้าหมายลดลง จะเห็นว่าความชันของกราฟลดลงมา
โดยลดการติดเชื้อลงได้ 25%
ขณะที่การเสียชีวิต ยังคงสูง แนวโน้มอยู่ในเส้นสีน้ำเงิน คือ ฉากทัศน์ ผลจากการมาตรการล็อกดาวน์ ทำงานที่บ้าน ปิดสถานที่เสี่ยง ลดการเสียชีวิตได้ 20% เพราะฉะนั้น ยังต้องมีความเข้มข้นล็อกดาวน์ เวิร์คฟอร์มโฮม เร่งฉีดวัคซีน เพื่อลดการเสียชีวิต
@ แนะกทม.เฝ้าระวัง 'คลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้าง' เชิงรุกมากขึ้น หลังพบแนวโน้มระบาดใหม่
ส่วนสถานการณ์ กทม. มีรายงานว่าคลัสเตอร์ที่พบผู้ป่วยภายใน 14 วัน ตั้งแต่ 16 มิ.ย. – 22 ส.ค.2564 จะเห็นความชุกของคลัสเตอร์แคมป์คนงาน และหายไปราววันที่ 10 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เริ่มกลับมาใหม่ เรื่องแคมป์ก่อสร้างเป็นเหตุที่เราต้องทำเซมิล็อกดาวน์และทำให้คนงานไปยังต่างจังหวัด แต่ตอนนี้กทม. เริ่มเห็นตัวเลขเข้ามาใหม่ สร้างความกังวล และห่วงใย ว่า กทม. ต้องเรียนรู้ในบทเรียนทีเคยเจอมาก่อนหน้านี้ จะมีวิธีการควบคุม การแพร่ระบาดในแคมป์หรือพื้นที่เดิมๆ อย่างไร
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า เรื่องของตลาด โรงงาน แคมป์ก่อสร้าง เป็นสถานที่วนเวียนที่มีการติดเรื่อยๆ และตอนนี้มีสถานที่ทำงาน และที่สุดแล้วเข้าไปในระดับครอบครัว นี่คือสิ่งที่เชื้อตัวนี้ยังวนเวียนในพื้นที่เก่าๆ เดิม ขอให้ร่วมด้วยช่วยกัน ตอนนี้ กทม.ต้องปรับแผนเร่งเชิงรุกให้มากขึ้น
@ เตือนการเปิดจองซื้อวัคซีนไฟเซอร์ เป็นข่าวลวง
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวการเปิดจองวัคซีนไฟเซอร์ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวเป็นข่าวลวง อย่านำไปแชร์ต่อ เพราะมีผู้ไม่ประสงค์ดีหลอกหลวง ซึ่งไฟเซอร์เป็นหนึ่งในวัคซีนที่รัฐให้บริการกับประชาชน และได้รับคำยืนยันว่า วัคซีนจะมีการจัดส่งเข้ามาในไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และขอให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐ
@ ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 451,510 รวมสะสม 212.58 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 451,510 ราย รวม 212,587,416 ราย อาการหนัก 111,613 ราย หายป่วย 190,200,663 ราย เสียชีวิต 4,444,470 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม30,810 ราย รวม 38,545,144 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 198 ราย รวม 645,058 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 25,420 ราย รวม 32,448,969 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 385 ราย รวม 434,784 ราย บราซิล พบเพิ่ม 14,404 ราย รวม 20,570,891 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 331 ราย รวม 574,574 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 33 ของโลก
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/