'ฟิลิปปินส์' เผยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้ภูมิคุ้มกันต่อการป่วยรุนแรงได้นานสุด 1 ปี นานกว่าไฟเซอร์,ซิโนแวค จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แนะ ปชช.อย่าเพิ่มฉีดบูสเตอร์ หลังเจอทรัพยากรวัคซีนไม่เสถียร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสว่ามีรายงานจากหัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนของประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่าวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้านั้นจะสามารถให้ภูมิคุ้มกันต่ออาการป่วยร้ายแรงได้ดีกว่าวัคซีนชนิดอื่นๆซึ่งมีใช้งานในประเทศฟิลิปปินส์
โดยทางด้านของ พญ.นีน่า กลอเรียนี่ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ว่าวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้านั้นให้ภูมิคุ้มกันได้นานที่สุดเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางโลติส รามิน ประธานบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าที่ประเทศฟิลิปปินส์ได้กล่าวยืนยันว่าวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้านั้นจะให้ระดับภูมิคุ้มกันที่สูงมากเมื่อต้องเจอกับกรณีการกลายพันธุ์หลายกรณี รวมไปถึงการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้า
พญ.กลอเรียนี่กล่าวต่อไปว่าสารภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดี้จากวัคซีนชนิดอื่นในประเทศฟิลิปปินส์นั้นจะให้ภูมิคุ้มกันได้เป็นเวลาน้อยกว่า 6 เดือน ขณะที่วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์ จากบริษัทโมเดอร์น่า จะให้ภูมิคุ้มกันได้ประมาณ 6 เดือน ขณะที่วัคซีนแจนเซ่นหรือว่าวัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสันจะให้ภูมิคุ้มกันอยู่ที่ 8 เดือน
“จากข้อมูลนี้ดังนั้นจึงเป็นข้อมูลบ่งชี้ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนที่เป็นเข็มบูสเตอร์” บุคลากรทางการแพทย์รายหนึ่งระบุหลังจากที่มีรายงานว่ามีประชาชนอย่างน้อย 2 คนไปฉีดวัคซีนบูสเตอร์แล้วที่เมืองเกซอน
อนึ่ง สำหรับสถานการณ์ของประเทศฟิลิปปินส์นั้นมีรายงานว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์ยังคงห้ามไม่ให้มีการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เนื่องจากกังวลในเรื่องของความปลอดภัยและยังคงมีความไม่แน่นอนในเรื่องของทรัพยากรวัคซีน ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อซึ่งมีอาการของประเทศฟิลิปปินส์นั้นพุ่งสูงไปอยู่ที่ 106,672 ราย ขณะที่ประเทศฟิลิปปินส์ฉีดวัคซีนไปได้รวม 26.1 ล้านโดส
โดย พญ.กลอเรียนี่ได้กล่าวถึงการหารือเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการฉีดวัคซีนในประเทศว่า ณ เวลานี้ประเทศฟิลิปปินส์ยังคงขาดทรัพยากรวัคซีนที่จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มกันกับประชากรได้
เรียบเรียงจาก:https://cnnphilippines.com/news/2021/8/16/astrazeneca-covid-vaccine-offers-longest-protection.html
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage