ป่วยใหม่ 21,157 ราย หายเพิ่ม 20,984 ราย เสียชีวิต 182 ราย เป็นผู้สูงอายุ-โรคเรื้อรัง 87% ศบค.เผย 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' เดือนครึ่ง สร้างรายได้ 829 ล.-คนติดเชื้อไม่มาก เตรียมขยายแผนการท่องเที่ยวต่อ
--------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ติดป่วยรายใหม่ 21,157 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 20,493 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 16,863 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 3,630 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 658 ราย และอีก 6 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 928,314 ราย หายป่วยเพิ่ม 20,984 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 210,934 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 5,626 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 1,161 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 182 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 7,734 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนผลการตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit (ATK) เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา พบเชื้อ 803 ราย ซึ่งตัวเลขถือว่าน้อยลงไป แต่มี 12.27% ที่พบเชื้อในพื้นที่ กทม.
สำหรับผู้เสียชีวิต 182 ราย มาจาก กทม. 64 ราย ปริมณฑล 40 ราย ภาคใต้ 12 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 27 ราย ภาคเหนือ 17 ราย ภาคตะวันออก 22 ราย แบ่งเป็นชาย 104 ราย หญิง 78 ราย โดยวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตที่บ้าน ส่วนผู้เสียชีวิตกว่า 87% เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มโรคเรื้อรัง ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นทารก 7 เดือนชาวเมียนมา เสียชีวิตที่ กทม.และเป็นธาลัสซีเมียด้วย
ส่วน 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 4,324 ราย สมุทรสาคร 1,869 ราย ชลบุรี 1,223 ราย สมุทรปราการ 1,147 ราย นนทบุรี 790 ราย นครราชสีมา 547 ราย ฉะเชิงเทรา 540 ราย สระบุรี 470 ราย นครปฐม 449 ราย และพระนครศรีอยุธยา 420 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิดที่แบ่งตามเขตสุขภาพ พบว่า เขตสุขภาพที่ 1 ภาคเหนือพบการติดเชื้อจากการนำเข้าโดยส่วนใหญ่ เขตสุขภาพที่ 2 บางจังหวัดติดเชื้อในพื้นที่ เช่น ตาก มีพื้นที่ติดชายแดน เขตสุขภาพที่ 3 ผู้ป่วยเกิดจากการนำเข้าเป็นส่วนใหญ่ เขตสุขภาพที่ 4 ภาคกลาง กทม.และปริมณฑล ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในพื้นที่ เขตสุขภาพที่ 5 และ เขตสุขภาพที่ 6 ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในพื้นที่
ส่วน เขตสุขภาพที่ 7 – 10 ที่อยู่ในภาคอีสาน ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อจากการนำเข้า ซึ่งแตกต่างจาก เขตสุขภาพที่ 11-12 เป็นการติดเชื้อในพื้นที่
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย ประกอบด้วย อิสราเอล 1 ราย และกัมพูชา 5 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 117,620 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 35,804 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 9,087 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 23,592,227 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 17,996,826 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 5,109,476 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 485,925 ราย
@ 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์'เดือนครึ่ง สร้างรายได้ 829 ล.-คนติดเชื้อน้อย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ในการประชุม ศปก.ศบค. เมื่อวานนี้ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ที่ทำมาแล้ว 1 เดือนครึ่ง หรือ 1 – 31 ก.ค.2564 มีนักท่องเที่ยวสะสม 14,055 ราย พบติดเชื้อ 441 ราย เป็นคนในประเทศ 409 ราย มาจากต่างประเทศ 32 ราย ทั้งนี้เมื่อตรวจซ้ำครั้งที่ 2 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 7 ราย ส่วนตรวจซ้ำครั้งที่ 3 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย โดยมีจำนวนของผู้เข้าพัก 309,719 คืน
สำหรับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาตามโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ รวม 14,055 ราย แบ่งเป็น สหรัฐอเมริกา 1,802 ราย สหราชอาณาจักร 1,558 ราย อิสราเอล 1,455 ราย เยอรมนี 847 ราย และฝรั่งเศส 839 ราย โดยมีรายได้ รวม 829 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าที่พัก 282 ล้านบาท ซื้อสินค้าและบริการ 194 ล้านบาท ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 175 ล้านบาท ค่าบริการทางการแพทย์และสุขภาพ 124 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 54 ล้านบาท หรือมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 58,982 บาทต่อทริป
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุม ศบค.ช่วงบ่ายวันนี้ มีเรื่องที่ต้องพิจารณาประมาณ 4 เรื่อง คือ 1.แผนการให้บริการวัคซีนโควิด 2.การรับความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขจากต่างประเทศ เช่น กรณีการแลกวัคซีนระหว่างรัฐบาลภูฏานกับรัฐบาลไทย การรับบริจาคยารักษาโควิดจากกระทรวงสาธารณสุขประเทศเยอรมนี 3.การประเมินผลการปรับมาตรการคุมโควิด และ 4.การเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อจังหวัดนำร่องอื่นๆ ที่ใช้คำว่า 7+7 ซึ่งจะนำเรียนให้ประชาขชนรับทราบในลำดับต่อไป
@ ทั่วโลกป่วย 468,886 ราย สะสม 207.98 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 468,886 ราย รวม 207,984,087 ราย อาการหนัก 106,686 ราย หายป่วย 186,447,031 ราย เสียชีวิต 4,374,761 ราย โดยสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยเพิ่ม 30,883 ราย รวม 37,466,718 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 122 ราย รวม 637,561 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 33,221 ราย รวม 32,225,175 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 421 ราย รวม 431,674 ราย บราซิล พบเพิ่ม 13,957 ราย รวม 20,364,099 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 385 ราย รวม 569,218 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 35 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage