ติดเชื้อใหม่ใหม่ 19,603 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 776,108 ราย หายป่วยเพิ่มถึง 19,819 ราย รักษาตัวอยู่ใน รพ. 214,421 ราย ตาย 149 ราย ดับคาบ้านพุ่ง 26 ราย-เป็นทารกวัย 4 เดือน 1 ราย พร้อมเผยเด็กเล็กติดโควิดรวม 3 หมื่นราย เสียชีวิต 9 ราย ด้าน กทม.เร่งขยายเตียงเหลือง-แดง รองรับผู้ป่วย ขณะที่คลัสเตอร์ใหม่โผล่อีก 7 แห่ง ใน 7 จังหวัด
..........................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 19,603 ราย ติดเชื้อในประเทศ 19,278 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 16,119 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 3,159 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 313 ราย และอีก 12 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 776,108 ราย หายป่วยเพิ่ม 19,819 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 214,421 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 5,218 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 1,084 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 149 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 6,353 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 149 ราย มาจากกทม.และปริมณฑล 80 ราย 4 จังหวัดชายแดนใต้ 10 ราย จังหวัดอื่น 55 ราย เรือนจำและที่ต้องขัง 4 ราย โดยมีอายุระหว่าง 4 เดือน - 103 ปี โดยในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป 97 ราย คิดเป็น 65% และมีอายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 29 ราย คิดเป็น 19% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 22 ราย คิดเป็น 15% และมีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 26 ราย แบ่งเป็น กทม. 24 ราย และชลบุรี 2 ราย โดยมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนรู้จัก และอาศัยหรือไปพื้นที่ระบาด
"ใน 2 วันที่ผ่านมา มีรายงานผู้เสียชีวิตเป็นเด็กเล็ก เมื่อวานนี้ได้รับรายงานเด็กอายุ 14 วันชาวเมียนมา ติดเชื้อเสียชีวิต และในวันนี้พบเด็กทารกอายุ 4 เดือนชาวเมียนมาเสียชีวิต หากดูข้อมูลผ่านเพจร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิม พบว่ามีเด็กติดเชื้อรวมอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นราย และมีรายงานการเสียชีวิต 9 ราย และ 8 ใน 9 คนนี้มีโรคระจำตัว" พญ.อภิสมัย กล่าว
ดังนั้นสิ่งที่กรมควบคุมโรคอยากเน้นย้ำคือ หากบ้านใดมีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก แนะนำให้แยกห้องนอนร่วมกับผู้สูงวัย หากไม่มีพื้นที่เพียงพอขอให้มีม่านหรือฉากกั้น แยกของใช้ ให้ผู้สูงอายุใช้ห้องน้ำก่อน และทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมในบ้าน ทั้งนี้กรมควบคุมโรคได้ออกคู่มือเรื่องนี้แล้ว สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ หากเป็นผู้สูงอายุติดเตียง แนะนำให้ผู้ดูแลมีเพียงคนเดียว และควรเป็นบุคคลที่ออกนอกบ้านให้น้อยที่สุด และต้องสวมหน้ากากอนามัยทั้งผู้ดูแลและผู้สูงอายุติดเตียง มีการสวมถุงมือ แยกทิ้งขยะที่ชัดเจน และต้องหมั่นสังเกตอาการผู้สูงอายุ เช่น ซึมลง ทานอาหารได้น้อย เหนื่อยมากขึ้น และต้องหมั่นวัดอุณหภูมิวันละ 2 ครั้ง และต้องอยู่ห่างกับผู้สูงอายุในระยะ 2 เมตร โดยกรมควบคุมโรคเตรียมพิมพ์คู่มือฉบับประชาชนออกแจกจ่ายเร็วๆนี้
โดยจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุด 10 อันดับ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 3,114 ราย สมุทรปราการ 1,388 ราย สมุทรสาคร 1,378 ราย ชลบุรี 1,318 ราย นนทบุรี 803 ราย ปทุมธานี 708 ราย อุบลราชธานี 615 ราย นครปฐม 557 ราย สระบุรี 504 ราย และนครราชสีมา 440 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 12 ราย แบ่งเป็น รัสเซีย 2 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย มาเลเซีย 3 ราย และเมียนมา 3 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 8 ส.ค.2564 พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 143,071 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 23,693 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 24,381 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 20,669,780 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 15,986,354 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 4,461,861 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 221,565 ราย
@ CCRT ลงพื้นที่เพิ่ม 27 ชุมชน ฉีดวัคซีน 818 ราย
สำหรับผลการดำเนินงานโดยกลุ่ม CCRT ในพื้นที่ กทม.ระหว่างวันที่ 15 ก.ค.-8 ส.ค.2564 ระบุว่า ลงพื้นที่เพิ่ม 27 ชุมชน รวมสะสม 2,395 ราย ตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit เพิ่มอีกจำนวน 52 ราย พบเชื้อ 1 ราย รวมสะสม 3,458 ราย ส่งเข้าสู่ระบบการรักษาเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ ฉีดวัคซีนแล้ว 818 ราย แบ่งเป็น ผู้สูงวัย 336 ราย ผู้บริโภคประจำตัว 478 ราย และหญิงตั้งครรภ์ 4 ราย สะสม 89,420 ราย
@ กทม.ฉีดวัคซีนเข็มแรกครอบคลุมกว่า 70.92%
ผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในพื้นที่ กทม. ณ วันที่ 8 ส.ค.2564 มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มจำนวน 50,804 ราย แบ่งเป็น ซิโนแวค 50,804 ราย ซิโนฟาร์ม 2,437 ราย แอสตร้าเซนเนก้า 46,657 ราย และไฟเซอร์ 52 ราย
ขณะที่ได้รับเข็ม 2 เพิ่มจำนวน 8,143 ราย แบ่งเป็น ซิโนแวค 111 ราย ซิโนฟาร์ม 7,606 ราย และแอสตร้าเซนเนก้า 258 ราย และไฟเซอร์ 168 ราย
ได้รับเข็ม 3 เพิ่มจำนวน 2,352 ราย แบ่งเป็น แอสตร้าเซนเนก้า 329 ราย และไฟเซอร์ 2,023 ราย
รวมสะสมมีผู้ได้รับวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.2564 จำนวน 6,703,480 ราย แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 5,460,638 ราย คิดเป็น 70.92% และเข็มที่ 2 จำนวน 1,190,855 ราย คิดเป็น 15.47%
@ พบ 7 คลัสเตอร์ใหม่ กระจาย 7 จังหวัด
สำหรับสถานการณ์การระบาดในต่างจังหวัด พบคลัสเตอร์ใหม่ 7 แห่ง กระจาย 7 จังหวัด ประกอบด้วย บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ติดเชื้อ 9 ราย บริษัทโลหะแผ่น อ.หนองแค จ.สระบุรี ติดเชื้อ 28 ราย บริษัทชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเรา ติดเชื้อ 12 ราย โรงงานแปรรูปไก่ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ติดเชื้อ 46 ราย ตลาดโบว์ลิ่ง อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี ติดเชื้อ 16 ราย โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี ติดเชื้อ 31 ราย และโรงงานน้ำแข็ง อ.ละแม จ.ชุมพร ติดเชื้อ 30 ราย
@ กทม.เร่งขยายเตียงรองรับผู้ป่วยเหลือง-แดง
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงสถานการณ์การรอเตียงของผู้ป่วยติดเชื้อในกทม.ว่า หากดูกราฟเทียบกับเดือนที่ผ่านมา จะพบว่าปัจจุบันจำนวนผู้รอเตียงสีเขียวและสีเหลืองในระบบคอลเซ็นเตอร์ดิ่งลงแล้ว โดยขณะนี้มีรายชื่อหน่วยบริการหรือโรงพยาบาลที่ให้บริการแบบ Home Isolation มากกว่า 246 แห่ง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 100,000 คน และมีศูนย์แยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) รวมทั้งสิ้น 67 แห่ง เปิดให้บริการแล้ว 53 แห่ง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 8,886 เตียง
นอกจากนั้นยังมีศูนย์พักคอยกึ่งโรงพยาบาลสนาม (Community Isolation Plus: CI Plus) อีก 7 แห่ง สามารถรองรับผู้ป่วยสีเขียวไปจนถึงเหลืองอ่อนได้ 1,036 เตียง ซึ่งหมายความว่าในกทม.จะมีพื้นที่รองรับผู้ป่วยสีแดงเพิ่มมากขึ้น ขณะที่บุษราคัมเปิดรับผู้ป่วยอาการหนักได้อีก 17 เตียง ดูแลผู้ป่วยไปแล้ว 14,000 กว่าราย และมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 11,612 ราย
"ในช่วง 2 วันที่ผ่านมามีผู้ป่วยสีแดงที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านใน กทม.ประมาณ 5,000 เตียง ทั้งนี้การขยายเตียงผู้ป่วยสีแดงทำได้ยาก เนื่องจากต้องใช้บุคลากรที่มีความสามารถเฉพาะทาง และต้องมีอุปกรณ์ เพื่อรักษาผู้ป่วยไอซียู" พญ.อภิสมัย กล่าว
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขยังมีการปรับเตียงในโรงพยาบาลพื้นที่ กทม.ทั้งหมด 14 แห่ง กว่า 7,000 เตียง และปรับศักยภาพโรงพยาบาลสนามให้สามารถดูแลผู้ป่วยสีเหลืองได้ 2,000 เตียง และฮอสพิเทล (Hospitel) ให้สามารถดูแลผู้ป่วยสีเหลืองอ่อนได้อีก 4,000 เตียง
@ เว็บไซต์ 'koncovid' เพิ่มการค้นหาศูนย์พักคอยใกล้บ้าน
พญ.อภิสมัย กล่าวถึง เว็บไซต์ค้นหาจุดตรวจโควิดใกล้บ้าน koncovid.com ว่า ขณะนี้ได้เพิ่มการค้นหาศูนย์แยกกักและดูแลในชุมชน โดยผู้ใช้บริการสามารถกรอกรหัสไปรษณีย์เพื่อหาศูนย์แยกกักใกล้บ้าน ซึ่งระบบรองรับได้ทั้งระบบมือถือ คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ต
ทั้งนี้ผู้ใช้บริการยังไม่สามารถวอล์กอินเข้าไปใช้บริการได้โดยตรง ขอให้ประสาน 1330 ก่อน พร้อมยืนยันว่าข้อมูลในเว็บไซต์นี้จะอัพเดตในทุกๆวัน ตามข้อมูลกรมการแพทย์
@ ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 472,418 รวมสะสม 203,441,157 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 472,418 ราย รวม 203,441,157 ราย อาการหนัก 98,880 ราย หายป่วย 182,740,086 ราย เสียชีวิต 4,307,387 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 24,390 ราย รวม 36,543,338 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 129 ราย รวม 633,116 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 36,035 ราย รวม 31,969,588 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 447 ราย รวม 428,339 ราย บราซิล พบเพิ่ม 13,893 ราย รวม 20,165,672 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 388 ราย รวม 563,470 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 37 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage