ประเมิน ส.ค.ยังพีค! กทม.เร่งสร้างศูนย์พักคอยร่วมภาคปชช.-เปิดวอล์กอินฉีดวัคซีนคนท้อง

กทม.ประเมินเดือน ส.ค. การระบาดในเมืองยังพีค เตรียม 3 มาตรการรองรับ เร่งนำร่องสร้างศูนย์พักคอยร่วมภาคประชาชน เปิดวอล์กอินผู้สูงวัย-หญิงตั้งครรภ์ เผยสั่งจองวัคซีนซิโนฟาร์ม-โมเดอร์นาคืบ ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ ได้รับแล้ว 7.6 พันโดสให้บุคลากรด่านหน้า

………………………………..

ผู้สื่อข่าวรายงายว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2564 กรุงเทพมหานครจัดแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์สรุปการบริหารสถานการณ์โควิดในพื้นที่ ประจำสัปดาห์ โดย ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการคาดการณ์สถานการณ์การระบาดในกทม.ว่า จากการประเมินของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในเดือน ส.ค.2564 ของทั้งประเทศจะสูงที่สุด ซึ่ง กทม.ได้รวมอยู่ในนั้น ที่ผ่านมาเรามียอดผู้ป่วยอยู่ในระดับ 2,000 ราย เมื่อวานนี้ประมาณ 3,000 ราย จนถึงตอนนี้ประมาณ 4,000 ราย ประกอบกับการเร่งระดมตรวจเชิงรุก ดังนั้นในช่วงเดือนนี้จะเป็นช่วงที่ กทม.จะเจอยอดผู้ติดเชื้อสูง อย่างไรก็ตามการคาดการณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

ร.ต.อ.พงศกร กล่าวอีกว่า ตอนนี้สิ่งที่ กทม.ทำได้และเตรียมแผนไว้ คือ 1. การลดการเคลื่อนย้ายของประชาชนโดยการออกมาตรกาคุมเข้ม เช่น การปิดสถานที่สำคัญ การห้ามเคลื่อนย้ายคน และการให้คนอยู่บ้านมากขึ้น

2. การรองรับสถานการณ์การระบาดที่จะพีคในเดือน ส.ค.นี้ โดยเราได้เพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาล ปรับให้ทุกโรงพยาบาลใน กทม. กว่า 100 แห่ง เปลี่ยนให้รองรับผู้ป่วยสีเหลืองและแดงทั้งหมด และได้เพิ่มศูนย์พักคอย (Community Isolation: CI) 65 แห่ง เพื่อรองรับผู้ป่วยสีเขียวที่ไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ จำนวน 8,625 เตียง นอกจากนั้นยังเพิ่มศูนย์พักคอยกึ่งโรงพยาบาลสนาม หรือที่เรียกว่า CI Plus ซึ่งตอนนี้เพิ่มมาอีก 7 แห่งแล้ว พร้อมจะรองรับผู้ป่วยอีก 1,036 เตียง

ขณะเดียวกัน ทางกทม.ได้ร่วมมือกับภาคประชาชนจัดทำ Semi Community Isolation สำหรับชุมชนขนาดเล็กอีก 19 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 452 เตียง และศูนย์พักคอยที่ทำโดยชุมชนเองอีก 2 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 660 เตียง โดยส่วนนี้เป็นโครงการนำร่องที่ กทม.ตั้งเป้าว่าจะขยายเพิ่มต่อไป อย่างไรก็ตามแม้ศูนย์ดังกล่าวจะดูแลด้วยคนในชุมชนเอง แต่กทม.จะคอยเข้าไปช่วยเหลือดูแลเรื่องจ่ายยา การส่งต่อ และการดูแลอาการต่อไป ทั้งนี้ กทม.จะขยายการจัดทำศูนย์รองรับผู้ป่วยต่อไป เพื่อให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ มีพื้นที่รองรับและได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุด

3. การฉีดวัคซีน ซึ่งจะมีการทยอยส่งมอบให้กทม.เข้ามาในเดือนนี้รวม 750,000 โดสที่จะใช้ใน 25 หน่วยฉีดวัคซีน ซึ่งจะกระจายลงพื้นที่ชุมชนตั้งแต่วันที่ 7-10 ส.ค.2564 เพื่อจัดฉีดให้ได้วันละ 40,000 โดส และยังเน้นฉีดในกลุ่มผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เป็นหลัก นอกจากนั้นจะจัดสรรบางส่วนให้สำนักอนามัยใช้ควบคุมโรคในพื้นที่เสี่ยงด้วย

ร.ต.อ.พงศกร กล่าวด้วยว่า สำหรับการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ยังมีผู้มารับน้อยอยู่ ขณะนี้ทางกทม.ได้รับความร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ มี 40 คู่สายคอยรับโทรศัพท์และทำการจองคิวให้กับผู้สูงอายุ โดยช่วงแรกศูนย์ฉีดวัคซีนเอสซีบีสำนักงานใหญ่จะมีวันละ 1,000 รายมาลงทะเบียนได้ และจะมีจุดอื่นๆอีกเมื่อเต็ม

นอกจากนั้นยังมีอีกหลายแห่งที่ยังเปิดรับวอล์กอิน ให้ผู้สูงอายุเข้ารับวัคซีนอยู่ เช่น ศูนย์ฉีดวัคซีนเอสซีบีสำนักงานใหญ่ ซึ่งเขาจะประกาศอีกครั้งว่าจะวอล์กอินได้เท่าไร และเมื่อใด

ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.พงศกร กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กทม.ได้เตรียมเปิดวอล์กอินให้กับหญิงตั้งครรภ์อีก 12 แห่งด้วย โดยขอให้มีใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าสามารถฉีดวัคซีนได้ เราจะดำเนินการฉีดให้เลย ทั้งนี้รายชื่อจุดเปิดวอล์กอินนั้น ขอให้ติดตามจากสำนักประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานครอีกครั้ง

"ตรงนี้เป็น 3 ปัจจัยที่เราต้องทำควบคู่กัน เพื่อควบคุมการระบาดให้ได้ และรองรับในสถานการณ์ที่คาดการณ์ว่าเป็นสถานการณ์ที่มีผู้ป่วยที่มากที่สุดในเดือนนี้ "ร.ต.อ.พงศกร กล่าว

ส่วนการจองวัคซีนทางเลือก วัคซีนซิโนฟาร์มและวัคซีนโมเดอร์นา ร.ต.อ.พงศกร กล่าวยืนยีนว่า ทาง กทม.อยู่ในขั้นตอนการสั่งจอง เขาสามารถจัดสรรให้เราได้เท่าไร เราพร้อม แต่สำหรับวัคซีนซิโนฟาร์มคาดว่าคงได้เร็วนี้ๆ เพื่อนำมาฉีดให้กับกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนส่วนอื่นๆ

ขณะที่ พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวถึงผลการดำเนินงานการตรวจเชิงรุกว่า ทีม CCRT ที่ได้ลงพื้นที่ไป 2,271 ชุมชน และมีผู้รับบริการทั้งหมดประมาณ 180,000 ราย ได้รับผลตอบรับดี ได้รับการประเมินว่าคนภายในชุมชนต่างๆ ในกทม.มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ได้รับยา อาหารรวดเร็ว และมีผู้คอยโทรศัพท์ติดตาม ทำให้ประชาชนไม่รู้สึกว้าเหว่ และสามารถอยู่ร่วมกันได้

ด้าน นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวอีกว่า วัคซีนบูสเตอร์โดสวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับบุคลากรการแพทย์ด่านหน้าในส่วนสำนักการแพทย์ 11 โรงพยาบาล เราได้รับตั้งแต่ในส่วนที่จัดสรรให้ผู้ที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็ม เมื่อวานประมาณ 7,660 โดส แต่ทั้งนี้เนื่องจากมีการปรับหลักเกณฑ์จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ คาดว่าจะมีจัดสรรมาเพิ่มอีก ซึ่งเราจะแจ้งยอดรวมทั้งหมดเมื่อได้รับตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้ง ทั้งนี้ รพ.กทม.มีบุคลากรทางการแพทย์กว่า 7,000 คน แต่ถ้ารวมส่วนอื่นด้วย ประมาณ 1 หมื่นคน

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage