บก.ปปป. สนธิกำลังร่วม ป.ป.ท. ลุยจับสด! ซ้อนแผนรวบ ผอ.รพ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมเงินของกลาง เรียกรับเงินจากเอกชน โครงการประมูลระบบคอมพ์ฯกว่า 9.3 หมื่นบาท 35% จากราคากลาง 2.8 แสนบาท เจ้าตัวให้การแบ่งรับแบ่งสู้ เตรียมส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ไต่สวน-ชงสอบเส้นทางเงินด้วย (มีคลิปท้ายข่าว)
.......................................................................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2564 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธราภิรมย์ ผกก.1บก.ปปป. พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ ผกก.2 บก.ปปป. พ.ต.อ.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปปป. พ.ต.ท.พิทักษ์ วาฤทธิ์ รอง ผกก.2บก.ปปป สนธิกำลังร่วมกับนายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต จับกุม นายแพทย์ วิชัย รัตนภัณฑ์พาณิชย์ อายุ 53 ปี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ขณะกำลังรับเงินของกลางจำนวน 93,000 บาท จากผู้รับเหมาระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล เป็นเงินที่เจ้าหน้าที่ใช้ทำการล่อจับ โดยเจ้าหน้าที่ไปจับกุมตัวได้ที่ห้องทำงานของผู้ต้องหาไปโรงพยาบาล พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารจำนวนหนึ่งกลับมาตรวจสอบ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้รับการแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย ร้องทุกข์กับทางสำนักงาน ป.ป.ท. ให้ช่วยตรวจสอบพฤติการณ์ของผู้อำนวยการคนดังกล่าว หลังจากที่ผู้เสียหายเข้าไปประมูลจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ภายในโรงพยาบาล มีมูลค่ากว่า 280,000 บาท แต่เจ้าตัวมีการเรียกรับเงินส่วนต่าง 15 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่จะขอขยับเพิ่มเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 93,000 บาท ผู้เสียหายจึงเห็นว่า เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะจะทำให้ทางผู้รับเหมาขาดทุนเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับ บก.ปปป. จากนั้นได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า จะมีการนัดมอบส่งเงินกันในวันนี้ จึงนำเงินของกลางที่ทำสัญลักษณ์ไว้ไปมอบให้ที่โรงพยาบาล และเมื่อผู้อำนวยการรับเงินของกลางแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม
ส่วนนายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวสำนักงาน ป.ป.ท. ได้รับการร้องเรียนผ่านทางสายด่วน 1206 จากผู้เสียหาย จึงทำการตรวจสอบเบื้องต้นและประสานให้ทางตำรวจรับเรื่องดังกล่าวเป็นคดี ผู้เสียหายพร้อมเข้าแจ้งความ ก่อนที่จะร่วมกันวางแผนเข้าจับกุม โดยจากนี้จะเร่งรวบรวมข้อมูล เพื่อใช้ในการขยายผลของทางเจ้าหน้าที่ ตามเรื่องเส้นทางการเงิน และข้อมูลเกี่ยวข้องกับการทุจริตต่างๆให้กับทางตำรวจ
“ฝากไปถึงผู้ประกอบการที่อาจถูกข้าราชการเรียกรับผลประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการในระดับใดก็ตาม สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนทางสายด่วน 1206 ได้ จากคดีนี้เป็นตัวอย่างว่า เจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่ามีความผิดจริงก็จะประสานให้ตำรวจเข้าตรวจสอบจับกุมต่อไป” เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากผลการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ (แบ่งรับแบ่งสู้) ว่าเรียกรับเงินจำนวนดังกล่าวจริง แต่นำไปเพื่อใช้ภายในโรงพยาบาลและสาธารณประโยชน์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการ จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ผู้อำนวยการคนดังกล่าวมีประวัติถูกร้องเรียนในลักษณะใกล้เคียงกันนี้อีกหลายครั้ง ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียนต่าง ๆ ว่ามีมูลความผิดหรือไม่ หากพบว่ามีมูลพอที่จะดำเนินคดีหรือสืบสวนสอบสวนต่อได้ก็จะดำเนินการทันที และหลังจากนี้จะให้ทางสำนักงาน ป.ป.ท. ตรวจสอบเส้นทางการเงินรวมถึงลักษณะการฟอกเงินต่าง ๆด้วย
ภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ บก.ปปป. เลขานุการของผู้ต้องหาได้นำเงินสด 500,000 บาทมาขอประกันตัวผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ขั้นตอนหลังจากนี้ ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเป็นสำนวนคดีส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา ก่อนส่งเรื่องไปยังศาลต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage