ป่วยใหม่ 18,901 ราย รวมป่วยสะสม 652,185 ราย รักษาตัวอยู่ใน รพ. 209,039 ราย ตาย 147 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1-เสียชีวิตที่บ้าน 2 ราย กทม.ติดเชื้อหนักสุด 3,566 ราย ฉีดวัคซีนเข็มแรก 65.32% จับตา 3 จังหวัดอีสานติด 10 อันดับจังหวัดผู้ติดเชื้อโควิดสูงสุด ขณะที่คลัสเตอร์ใหม่ผุดอีก 4 แห่ง
.................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,901 ราย ติดเชื้อในประเทศ 18,151 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 15,176 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 2,975 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 743 ราย และอีก 7 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 652,185 ราย หายป่วยเพิ่ม 18,590 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 209,039 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 4,895 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 1,046 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 147 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 5,315 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 147 ราย มาจากกทม.และปริมณฑล 88 ราย 4 จังหวัดชายแดนใต้ 15 ราย จังหวัดอื่น 42 ราย เรือนจำและที่ต้องขัง 2 ราย โดยมีอายุระหว่าง 34-99 ปี และในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 2 ราย แบ่งเป็น กทม. 1 ราย และปทุมธานี 1 ราย
ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ประกอบด้วย ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ โรคอ้วน หลอดเลือดสมอง โรคปอด ติดเตียง และตั้งครรภ์ ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนอื่นๆ ได้แก่ เพื่อน บ้าน เพื่อนร่วมงาน นายจ้าง และลูกจ้าง อาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด เข้าไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน และมีอาชีพเสี่ยง เช่น ค้าขาย
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 3,566 ราย สมุทรปราการ 1,361 ราย ชลบุรี 1,359 ราย สมุทรสาคร 1,282 ราย นนทบุรี 565 ราย ปทุมธานี 465 ราย นครราชสีมา 454 ราย อุบลราชธานี 448 ราย บุรีรัมย์ 405 ราย และสระแก้ว 382 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 7 ราย แบ่งเป็น จีน 1 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย ตุรกี 1 ราย กัมพูชา 2 ราย และเมียนมา 2 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 2 ส.ค.2564 พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 252,390 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 79,909 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 18,198,825 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 14,207,477 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 3,991,348 ราย
@ CCRT ลงพื้นที่รวมกว่า 2 พันชุมชน ฉีดวัคซีนแล้ว 2,515 ราย
สำหรับผลการดำเนินงานโดยกลุ่ม CCRT ในพื้นที่ กทม.ระหว่างวันที่ 15 ก.ค.-1 ส.ค.2564 ระบุว่า ลงพื้นที่เพิ่ม 33 ชุมชน รวมสะสม 2,059 ราย ตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit เพิ่มอีกจำนวน 502 ราย พบเชื้อ 41 ราย รวมสะสม 2,471 ราย ส่งเข้าสู่ระบบการรักษาเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ ฉีดวัคซีนแล้ว 2,515 ราย แบ่งเป็น ผู้สูงวัย 1,369 ราย ผู้บริโภคประจำตัว 1,138 ราย และหญิงตั้งครรภ์ 8 ราย สะสม 75,158 ราย
@ กทม.ฉีดวัคซีนเข็มแรกครอบคลุมกว่า 65%
ผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในพื้นที่ กทม. ณ วันที่ 1 ส.ค.2564 มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มจำนวน 26,394 ราย แบ่งเป็น ซิโนแวค 1,430 ราย ซิโนฟาร์ม 3,210 ราย และแอสตร้าเซนเนก้า 21,754 ราย
ขณะที่ได้รับเข็ม 2 เพิ่มจำนวน 12,086 ราย แบ่งเป็น ซิโนแวค 3 ราย ซิโนฟาร์ม 10,625 ราย และแอสตร้าเซนเนก้า 1,458 ราย
รวมสะสมมีผู้ได้รับวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.2564 จำนวน 6,110,691 ราย แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 5,028,908 ราย คิดเป็น 65.32% และเข็มที่ 2 จำนวน 1,081,783 ราย คิดเป็น 14.05%
@ พบ 4 คลัสเตอร์ใหม่ กระจาย 3 จังหวัด ติดเชื้อรวม 64 ราย
สำหรับสถานการณ์การระบาดในต่างจังหวัด พบคลัสเตอร์ใหม่ 4 แห่ง กระจาย 3 จังหวัด ติดเชื้อรวม 64 ราย แบ่งเป็น จังหวัดสมุทรสาคร พบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงานถุงพลาสติก อ.เมืองสมุทรสาคร ติดเชื้อ 19 ราย และบริษัทกระป๋องบรรจุอาหาร อ.เมืองสมุทรสาคร ติดเชื้อ 11 ราย
จังหวัดนครปฐม พบคลัสเตอร์ใหม่ในบริษัทคอนกรีต อ.บางเลน ติดเชื้อ 10 ราย และจังหวัดกาญจนบุรี พบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงานข้าวโพด อ.เมืองกาญจนบุรี ติดเชื้อ 24 ราย
@ ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 476,630 รวมสะสม 199.59 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 476,630 ราย รวม 199,595,039 ราย อาการหนัก 91,649 ราย หายป่วย 180,083,311 ราย เสียชีวิต 4,248,886 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 53,369 ราย รวม 35,895,980 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 213 ราย รวม 629,862 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 30,031 ราย รวม 31,725,399 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 420 ราย รวม 425,228 ราย บราซิล พบเพิ่ม 15,143 ราย รวม 19,953,501 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 473 ราย รวม 557,359 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 42 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage