ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ แจงเบื้องหลังทุจริตจองคิวฉีดวัคซีนโควิด พบช่วงเปิดวอล์กอิน แต่มีคนจองคิวกว่า 7,000 คน คิดค่าใช้จ่าย 400-1,200 บาทต่อหัว ส่งหลักฐาน-แจ้งความตำรวจแล้ว พร้อมแจ้ง ปอท.ขยายผลสอบต่อ ยืนยันฉีดวัคซีนโควิด ไม่มีการเรียกเก็บเงินทุกกรณี
----------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2564 พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาการทุจริตลงทะเบียนฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม โดยให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 10,000-30,000 คนต่อวัน ที่ผ่านมามีการดำเนินการใน 2 รูปแบบหลักในสองระยะ คือ
1.การจองคิวล่วงหน้า (Advance booking) โดยเปิดให้ลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าผ่าน 4 ค่ายมือถือ และการนัดล่วงหน้าขององค์กรขนาดใหญ่ อาทิ กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ เป็นหลัก ซึ่งเป็นรูปแบบหลักของการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.- 29 มิ.ย.2564 โดยการจองคิวล่วงหน้าดังกล่าว ทางศูนย์ฯ จะได้รับข้อมูลของผู้มารับบริการและจัดทำเป็นฐานข้อมูลเพื่อรับการลงทะเบียนล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว ทำให้ในวันที่ผู้จองคิวมารับบริการจริงจะไม่ต้องเพิ่มข้อมูลหน้างาน เพียงแต่บริการลงทะเบียนเข้ารับบริการจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ก่อนแล้วเท่านั้น หากข้อมูลเดิมผิดพลาด เช่น เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ หรือเบอร์โทรไม่ถูกต้อง จึงจะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติม ซึ่งในแต่ละวันจะเกิดขึ้นไม่มากนัก โดยจะให้สิทธิในการแก้ไขข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ไอทีของกรมการแพทย์ และสถาบันโรคผิวหนังในการดำเนินการแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อมูลดังกล่าวประมาณ 10 คน เท่านั้น
2.การเปิดบริการแบบวอล์กอิน หรือ on site registration ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.2564 เปิดให้ผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการโดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า และต่อมา ก.ค.เปิดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป , ผู้มีน้ำหนักมากกว่า 100 กก. และคนท้อง 12 สัปดาห์ขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการแบบวอล์กอินด้วยเช่นกัน โดยในช่วงนี้ ทางศูนย์ฯจะไม่มีข้อมูลเดิมของผู้รับบริการเลย ต้องลงทะเบียนหน้างานใหม่ทั้งหมด ทำให้จำเป็นต้องเปิดสิทธิให้จิตอาสาที่มาทำหน้าที่ในส่วนการลงทะเบียนที่มีอยู่มากกว่า 200 จุดสามารถเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลของผู้รับบริการได้ทั้งหมด โดยมีจิตอาสาหมุนเวียนและได้รับสิทธิในการดำเนินการดังกล่าวเป็นจำนวนมากจนเกิดช่องทางให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้นได้
พญ.มิ่งขวัญ ระบุว่า ทางศูนย์ฯ ได้มีการเฝ้าระวังตลอดจนเก็บข้อมูลเชิงสถิติทั้งสำหรับการทำงานที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานในแต่ละวัน ตลอดจนตรวจสอบภาระงานที่ต้องทำในอนาคตอยู่เสมอ จึงทำให้ตรวจพบความผิดปกติในการนัดหมายล่วงหน้าที่คาดว่าอาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้น โดยได้ตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 2564 ที่พบพิรุธ 2 ประการคือ 1.พบว่ามีจำนวนการนัดล่วงหน้าสูงกว่าปกติที่เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ได้นำเข้าสู่ระบบฐานข้อมูล โดยเริ่มพบตัวเลขผิดปกติในหลักสิบในช่วงวันที่ 20-27 ก.ค. และเพิ่มจำนวนนัดมากกว่าปกติเป็นหลักพันในวันที่ 28-31 ก.ค. ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการเปิดรับการบริการแบบวอล์กอิน 2.เป็นความผิดปกติของช่วงเวลาในการอัพโหลดข้อมูลการนัดล่วงหน้าเข้าสู่ระบบ โดยพบว่า ในช่วงสัปดาห์ดังกล่าวซึ่งทางศูนย์ฯ ได้งดรับการนัดล่วงหน้าจากองค์กรภายนอกเกือบทั้งหมด ยกเว้นบางหน่วยงาน เช่น การนัดของกระทรวงต่างประเทศซึ่งได้ส่งนัดหมายการฉีดวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุต่างชาติวันละประมาณ 400 คนเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในเวลา 18.00 น. ของแต่ละวันแล้ว แต่พบว่ายังมีการอัพโหลดส่งข้อมูลนัดหมายล่วงหน้าอีกในเวลาหลัง 22.00 น.ของทุกวันอยู่อีก
“ประกอบกับทางศูนย์ฯ ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการซื้อขายเพื่อรับคิวการฉีดวัคซีนจากประชาชนเป็นจำนวนมากพอสมควร จึงได้ทำการตรวจสอบและพบว่า มีการเพิ่มจำนวนนัดล่วงหน้าโดยทุจริตจาก ยูสเซอร์ 19 ล็อกอิน ซึ่งอยู่ในกลุ่มจิตอาสาที่ได้รับการเพิ่มสิทธิในการนำเข้าหรือแก้ไขข้อมูลผู้รับบริการในช่วงเปิดบริการแบบวอล์กอิน” พญ.มิ่งขวัญ กล่าว
พญ.มิ่งขวัญ กล่าวอีกว่า ทางศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จึงได้วางแผนจับกุมเพื่อสืบให้ได้ถึงผู้กระทำผิดรายใหญ่ทั้งหมดนี้ โดยดำเนินการในวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งเป็นวันแรกที่มีคิวนัดล่วงหน้าเพิ่มมากกว่าปกติกว่า 2,000 คน ทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์ขุดบ่อล่อปลาให้ผู้ที่ซื้อคิวโดยทุจริตเหล่านี้เดินทางมารับบริการที่ศูนย์ฯ เมื่อตรวจเช็คแล้วว่าเริ่มมีการลงทะเบียนไปประมาณ 600 คน จากจำนวน 2,000 กว่าคนนั้น ทางศูนย์ฯ จึงแจ้งยกเลิกคิวการฉีดของทั้ง 2,000 คนทั้งหมด เพื่อบีบให้คนเหล่านี้แสดงตัวขอความช่วยเหลือหรือร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ โดยได้จัดสถานที่ไว้เป็นการเฉพาะ พร้อมทั้งเข้าไปชี้แจงและขอความร่วมมือเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลของตัวการผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทุจริตในครั้งนี้ โดยสามารถรวบรวมผู้ทำนัดโดยทุจริตนี้ได้มากกว่า 300 คนซึ่งได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีต่อไปอย่างยิ่ง โดยข้อมูลจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า การซื้อคิวนัดดังกล่าว มีทั้งซื้อเอง ญาติหรือนายจ้างซื้อให้ และมีการจ่ายเงินทั้งแบบเงินสดและการโอนเงินในอัตรา 400-1200 บาทต่อคิว ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์ฯ ได้รับข้อมูลรายชื่อและเลขที่บัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวแล้ว จึงได้ให้นิติกรกรมการแพทย์เป็นผู้แทนในการดำเนินการแจ้งความต่อตำรวจ สน.นพวงศ์ ในฐานะผู้เสียหายต่อไปแล้ว
พญ.มิ่งขวัญ กล่าวต่อไปว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการซื้อคิวฉีดวัคซีนปกติจริง เจอตั้งแต่วันที่ 18-27 ก.ค.รวมกันประมาณ 700 คน และในช่วง 28-31 ก.ค.ประมาณ 7,000 คน และตอนนี้ได้มีการตรวจสอบข้อมูลไปถึงวันที่ 8 ส.ค. พบว่ามียอดซื้อคิวฉีดวัคซีนผิดปกติอยู่ ซึ่งรวมแล้วจะมีประมาณ 10,000 กว่าคน ซึ่งในจำนวนนี้ได้ถูกยกเลิกคิวไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้น มีการจ่ายเงินจริงๆ ซึ่งหากมี 7,000 เคส เฉพาะเคสละ 1,000 บาท แสดงว่าผู้กระทำผิดจะได้เงินไปประมาณ 7 ล้านบาท
ในขณะนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนจิตอาสาทั้ง 19 คนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ขอความร่วมมือกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อสอบสวนหาหลักฐานเชิงลึกและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
และเพื่อเป็นการแก้ไขหรือป้องกันการเกิดทุจริตดังกล่าวในอนาคต ทางศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ คือ
1.ยกเลิกนัดล่วงหน้าที่ผิดปกติซึ่งตรวจพบระหว่างวันที่ 28-31 ก.ค.ทั้งหมด
2.ยกเลิกล็อกอินและยูสเซอร์เดิมทั้งหมดและให้สิทธิในการเพิ่มเติมหรือแก้ไขข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ไอที ภายในของกรมการแพทย์และสถาบันโรคผิวหนังเท่านั้น
3.ปิดระบบทำการทั้งหมดในช่วงกลางคืนเพื่อป้องกันการวีพีเอ็น (vpn) เข้ามาทำการนอกเวลางาน
4.ตรวจสอบข้อมูลความผิดปกติของการนัดล่วงหน้าและการนำเข้าข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยในขณะนี้ได้ยกเลิกการนัดผิดปกติเพิ่มเติมถึงวันที่ 8 ส.ค.2564
ทางกรมการแพทย์และศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ขอขอบคุณจิตอาสาตลอดจนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง 4 แห่ง ที่ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด และพร้อมร่วมมือกันต่อไป โดยขอย้ำกับประชาชนว่าการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ไม่มีการเรียกรับเงินทุกกรณี และหากจะมีเบาะแสการทุจริตใดๆ ก็ตาม โปรดแจ้งให้ทางศูนย์ฯ ทราบเพื่อที่จะได้ดำเนินการจับกุมและแก้ไขต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/