ติดเชื้อพุ่ง 15,376 ราย รวมป่วยสะสม 512,678 ราย อาการหนัก 4,289 ราย หายป่วยแล้ว 6,782 ราย และเสียชีวิตอีก 87 ราย ด้าน ศบค.จัดศูนย์แยกกักชุมชน รองรับผู้ตรวจพบเชื้อด้วย ATK แก้ปัญหารอผล RT-PCR พร้อมขอสถานีกลางบางซื่อทบทวนชะลอฉีดวัคซีน หลังปชช.วอล์กอินหนาแน่น
----------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,376 ราย ติดเชื้อในประเทศ 14,321 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 11,064 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 3,247 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 1,041 ราย และอีก 14 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 512,678 ราย หายป่วยเพิ่ม 6,782 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 167,057 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 4,289 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 967 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 87 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 4,146 ราย
ซึ่งรายงานสถานการณ์ดังกล่าว ยังไม่ได้นำผลการตรวจ Antigen Test Kit มารวมด้วย ซึ่งภายในสัปดาห์นี้จะมีการรวบรวมตัวเลขให้ได้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับผู้เสียชีวิต 108 ราย มาจาก กทม.และปริมณฑล 56 ราย ชายแดนใต้ 7 ราย จังหวัดอื่น (67 จังหวัด) 24 ราย โดยมีอายุระหว่าง 28-96 ปี มีปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ประกอบด้วย ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง โรคปอด ติดเตียง และไม่มีโรคประจำตัว 4 ราย ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนอื่นๆ ได้แก่ เพื่อนร่วมงาน เพื่อน อู่รถ อาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด เข้าไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน และมีอาชีพเสี่ยง เช่น ส่งเอกสาร
"ยอดผู้เสียชีวิตในวันนี้ ตัวเลขใหญ่ยังอยู่ที่กทม.และเริ่มกระจายอยู่ทั่วประเทศ ที่สำคัญยังอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว มีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 5 ราย ถ้าเทียบตัวเลขทั้งประเทศจะเห็นได้ว่าตัวเลขของกทม.และปริมณฑลอยู่ที่ 41 % ต่างจังหวัดจากตัวเลขที่เล็กๆ ตอนนี้แซงกทม.ไปแล้วอยู่ 59 % สาเหตุมาผู้ติดเชื้อจากพื้นที่สีแดงเข้มเดินทางกลับภูมิลำเนา และการรักษาในพื้นที่ต่างจังหวัดตอนนี้มีบางจังหวัดค่อนข้างตึง และมีการครองเตียงนานขึ้น" พญ.อภิสมัย กล่าว
โดย 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,573 ราย สมุทรสาคร 1,074 ราย สมุทรปราการ 970 ราย ชลบุรี 867 ราย นนทบุรี 719 ราย ระยอง 411 ราย ฉะเชิงเทรา 320 ราย นครปฐม 311 ราย ปทุมธานี 301 ราย และอยุธยา 290 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 14 ราย แบ่งเป็น รัสเซีย 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย มาเลเซีย 10 ราย กัมพูชา 2 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 25 ก.ค.2564 พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 80,943 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 9,991 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 15,960,778 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 12,307,788 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 3,652,990 ราย
@ พบคลัสเตอร์ใหม่ 5 แห่ง กระจาย 4 จังหวัด
กทม.พบคลัสเตอร์ใหม่ระบาด 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป เขตสาทร และบริษัทผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป เขตธนบุรี ทำให้ต้องเฝ้าระวังอีก 142 แห่ง
ส่วนสถานการณ์การระบาดในต่างจังหวัด พบ 3 คลัสเตอร์ใหม่ กระจาย 3 จังหวัด ติดเชื้อรวม 129 ราย ประกอบด้วย จังหวัดระยอง โรงงานล้อรถยนต์ อ.ปลวกแดง ติดเชื้อ 11 ราย จังหวัดนครศรีธรมราช โรงงานไม้ยางพารา อ.บางขัน 91 ราย จังหวัดสุพรรณบุรี บริษัทจานดาวเทียม อ.สองพี่น้อง ติดเชื้อ 27 ราย
@ ทีม CCRT ตรวจเพิ่ม 57 ชุมชน ติดเชื้อ 132 ฉีดวัคซีนกว่า 3 พันราย
ส่วนผลการดำเนินงานของทีม CCRT พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร รายงานว่า เมื่อวันที่ 15-25 ก.ค.ที่ผ่านมา กทม.จัดทีมลงพื้นที่เพิ่ม 57 ชุมชน รวมสะสม 1,374 ชุมชน ตรวจหาเชื้อ 896 ราย พบผลติดเขื้อ 132 ราย รวมสะสม 1,093 ราย ส่งเข้าสู่ระบบการรักษาเรียบร้อยแล้ว และได้ฉีดวัคซีนเพิ่ม 3,897 ราย แบ่งเป็น ผู้สูงอายุ 1,982 ราย ผู้มีโรคประจำตัว 1,903 ราย และหญิงตั้งครรภ์ 12 ราย รวมสะสม 45,977 ราย
@ จัดศูนย์แยกกักชุมชน รองรับผู้ตรวจพบเชื้อด้วย ATK แก้ปัญหารอผล RT-PCR
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า กรณีประชาชนตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit ตามแลปเอกชน และการที่บริษัทหรือเอ็นจีโอ ซื้อกันไปตรวจเอง เมื่อพบผลบวก แล้วไม่สามารถเข้าสู่ระบบการรักษาได้ เนื่องจากต้องมีผลตรวจ RT-PCR ก่อนนั้น ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ประชาชนหลายคนหาที่ตรวจไม่ได้ หรือหากตรวจแล้วต้องใช้เวลารอ 1-2 วัน ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้นำไปพิจารณา และเบื้องต้นได้ขอให้ศูนย์แยกกักชุมชน (Community Isolation) รับผู้พบเชื้อจากการตรวจด้วย Antigen Test Kit ก่อน แต่อาจให้แยกจากกลุ่มผู้ป่วยที่อยู่ภายในศูนย์แยกกักชุมชน (Commumity Isolation) ส่วนจะยกเลิกขอผลตรวจแบบมาตรฐาน RT-PCR หรือไม่นั้น ตรงนี้กระทรวงสาธารณสุขยังมีความเป็นห่วงในความไม่แม่นยำของ Antigen Test Kit อย่างไรก็ตามขอให้รอติตตามฟังผลการประชุมกันต่อไป เนื่องจากหลายหน่วยงานยังพิจารณากันอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้อาจมีการอบรมให้ชุมชนสามารถตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit ได้อย่างถูกต้อง และกทม.ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขในการจัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit เพิ่มอีก 8.5 ล้านชุด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจหาเชื้อให้ได้มากที่สุด
@ เร่งขยายเตียงเพิ่มใน รพ.หลัก-ไอซียูสนาม-รพ.สนาม
นอกจากนั้น พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศบค.ยังได้หารือเรื่องการขยายเตียงในโรงพยาบาลหลัก 32 แห่ง ไอซียูสนาม 4 แห่ง และโรงพยาบาลสนาม 7 แห่ง
โดยโรงพยาบาลบางปะกอก 1 นำเสนอแผนการเพิ่มศูนย์กักกันตัวในชุมชนอีก 200 เตียง ที่เขตทุ่งครุ ในช่วงต้นเดือน ส.ค.2564, ฮอสพิเทล เพิ่ม 2 แห่ง รวม 800 เตียง, โรงพยาบาลสนาม 140 เตียง ในพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ แบ่งเป็น เตียงสำหรับผู้ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย 50 เตียง อาการปานกลาง 60 เตียง และอาการรุนแรง 30 เตียง โดยจะเปิดในช่วงเดือน ส.ค.2564 พร้อมปรับวอร์ดรองรับผู้ป่วยระดับสีเหลือง อีก 100 เตียง ในเดือน ก.ย.2564
ขณะที่ รพ.ปิยะเวท อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่รองรับผู้ป่วยทั้งระดับสีเหลือง แดง ทั้งในย่านสี่มุมเมือง สุขสวัสดิ์ บางบอน รามอินทรา และรังสิต ส่วนโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ มีแผนเพิ่มเตียงอีก 3,320 เตียง ภายในเดือน ส.ค.2564 โดยสามารถดูแลกลุ่มผู้ป่วยได้ถึงระดับที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ เครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องไต และผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดทำคลอด ส่วนโรงพยาบาลพลังแผ่นดิน 2 เปิดเพิ่มอีก 720 เตียง และโรงพยาบาลพลังแผ่นดิน 3 เปิดเพิ่ม 1,800 เตียง และโรงพยาบาลสนามกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 เพิ่มจาก 320 เตียง เป็น 400 เตียง
@ ขอสถานีกลางบางซื่อทบทวนชะลอฉีดวัคซีน หลังปชช.วอล์กอินหนาแน่น
ขณะเดียวกัน พญ.อภิสมัย ได้กล่าวถึงข้อห่วงใยในการวอล์กอินฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อที่มีผู้คนจำนวนมาก และแออัด ซึ่งอาจกลายเป็นจุดแพร่เชื้อได้ ในช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมามีการรายงานว่านอกจากประชาชนในพื้นที่กทม.จะวอล์กอินเข้ามาแล้ว แต่ยังมีประชาชนเดินทางมาจากต่างจังหวัดด้วย เช่น ราชบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี เป็นต้น ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วง และเราอยู่ในช่วงของมาตรการเข้มงวด ห้ามเคลื่อนย้ายการเดินทางเข้าออกในพื้นที่สีแดง แต่การฉีดวัคซีนก็ถือเป็นนโยบายด่วน จึงขอฝากสถานีกลางบางซื่อ ให้ทบทวนเรื่องการชะลอการฉีดวัคซีน เนื่องจากการที่ประชาชนจำนวนมากมาออกันเยอะๆ การจัดระเบียบ การเว้นระยะ ทำได้ค่อนข้างจำกัด
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เน้นย้ำว่า ทุกจังหวัดทั่วประเทศจะฉีดวัคซีนเข็มหนึ่งให้ได้ 50 % แต่ตัวเลขตอนนี้เดินช้าอยู่ ซึ่งกรมควบคุมโรคได้รายงานว่า จังหวัดอื่นๆได้จัดส่งไปแล้ว และการจัดส่งวัคซีนยังรอค้างอยู่ 2 ล้านโดส ขอให้เร่งระดมฉีดด้วย และขอให้เว้นระยะห่าง ถ้าประชาชนมาหนาแน่นอาจจะกลายเป็นจุดแพร่เชื้อได้
@ ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 427,082 รวมสะสม 194.82 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 427,082 ราย รวม 194,825,130 ราย อาการหนัก 84,405 ราย หายป่วย 176,767,088 ราย เสียชีวิต 4,175,080 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 13,818 ราย รวม 35,199,465 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 49 ราย รวม 626,762 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 38,153 ราย รวม 31,409,639 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 411 ราย รวม 420,996 ราย บราซิล พบเพิ่ม 18,129 ราย รวม 19,688,663 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 499 ราย รวม 549,999 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 47 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage