ป่วยโควิดพุ่ง 13,002 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 439,477 ราย เสียชีวิต 108 ราย โดยไม่มีโรคประจำตัวถึง 14 ราย ด้าน ศบค.ให้พิจารณาสั่งปิด 10 สถานที่ ในจังหวัดสีแดงเข้ม ขณะที่ กทม.รายงานผลการปฏิบัติงาน CCRT ลงพื้นที่ตรวจเพิ่ม 139 ชุมชน พบติดเชื้อ 37 ราย ฉีดวัคซีนกว่า 4 พันราย
-------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,002 ราย ติดเชื้อในประเทศ 11,922 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 9,012 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 2,910 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 1,049 ราย และอีก 31 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 439,477 ราย หายป่วยเพิ่ม 8,248 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 131,411 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 3,786 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 879 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 108 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 3,610 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 108 ราย มาจาก กทม. 40 ราย สมุทรสาคร 13 ราย นครปฐม 4 ราย ปทุมธานี 4 ราย สมุทรปราการ 3 ราย สงขลา 7 ราย ยะลา 6 ราย ปราจีนบุรี 4 ราย นครนายก 3 ราย เพชรบุรี กาญจนบุรี ชลบุรี นราธิวาส ปัตตานี และอยุธยา จังหวัดละ 2 ราย ขอนแก่น อุบลราชธานี นนทบุรี สระแก้ว กำแพงเพชร นครสวรรค์ ชัยนาท พิษณุโลก สุโขทัน และนครศรีธรรมราช จังหวัดละ 1 ราย โดยมีอายุระหว่าง 25-96 ปี
โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ประกอบด้วย ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง โรคปอด ติดเตียง และไม่มีโรคประจำตัว 14 ราย ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนอื่นๆ ได้แก่ เพื่อนร่วมงาน พนักงาน ผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ผู้ดูแล อาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด เข้าไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน และมีอาชีพเสี่ยง เช่น ค้าขาย ตม. และเก็บของเก่า
โดย 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,921 ราย สมุทรสาคร 932 ราย นนทบุรี 661 ราย สมุทรปราการ 656 ราย ชลบุรี 636 ราย ฉะเชิงเทรา 374 ราย ปทุมธานี 350 ราย ระยอง 305 ราย ปัตตานี 282 ราย พระนครศรีอยุธยา 235 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 31 ราย แบ่งเป็น สหราชอาณาจักร 2 ราย สิงคโปร์ 2 ราย กัมพูชา 5 ราย และเมียนมา 22 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 20 ก.ค.2564 พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 225,061 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 32,815 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 14,805,120 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 11,292,579 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 3,512,541 ราย
@ จับตา ระยองพบคลัสเตอร์ใหม่ในบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ติดเชื้อวันเดียวพุ่ง 92 ราย
สำหรับสถานการณ์การระบาดในต่างจังหวัด พบ 4 คลัสเตอร์ใหม่ กระจาย 3 จังหวัด ติดเชื้อรวม 168 ราย ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรสาคร พบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงานห้องเย็น อ.เมืองสมุทรสาคร ติดเชื้อ 24 ราย จังหวัดสมุทรปราการ พบคลัสเตอร์ใหม่โรงงานอาหารสัตว์เลี้ยง อ.บางเสาธง ติดเชื้อ 40 ราย และจังหวัดระยอง พบคลัสเตอร์ใหม่ในบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า อ.ปลวกแดง ติดเชื้อ 92 ราย และพบคลัสเตอร์ใหม่ในตลาดสิริภิบาลพัฒนา อ.แกลง ติดเชื้อ 12 ราย
@ ทีม CCRT ตรวจเพิ่ม 139 ชุมชน พบติดเชื้อ 37 ราย ฉีดวัคซีนกว่า 4 พันราย
ส่วนผลการดำเนินงานของทีม CCRT พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา กทม.จัดทีมลงพื้นที่ 139 ชุมชน ตรวจหาเชื้อ 383 ราย พบผลติดเขื้อ 37 ราย ส่งเข้าสู่ระบบการรักษาเรียบร้อยแล้ว และได้ฉีดวัคซีนเพิ่ม 4,070 ราย แบ่งเป็น ผู้สูงอายุ 2,420 ราย ผู้มีโรคประจำตัว 1,640 ราย และหญิงตั้งครรภ์ 10 ราย
@ ศบค.ให้พิจารณาสั่งปิด 10 สถานที่ ในจังหวัดสีแดงเข้ม
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการควบคุมตามประกาศฉบับใหม่ มีประเภทกิจการที่ถูกสั่งปิดแล้ว 23 รายการ และวันนี้ศบค.ให้จังหวัดพิจารณาปิดเพิ่มอีก 10 สถานที่ ได้แก่ สนามกีฬาทุกประเภท, สระว่ายน้ำ, ลานกีฬา, ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม, ศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ, พิพิธภัณฑ์ แหล่ประวัติศาสตร์ หรือโบราณสถาน, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและเด็กอ่อนก่อนวัยเรียน, ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านทำเล็บ ร้านสักทั้งในและนอกห้าง, และสวนสาธารณะ
ในส่วนของตลาดสด ตลาดนัด แม้มีความเป็นห่วง แต่มีความจำเป็น ขอให้ทางจังหวัดเฝ้าระวัง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถพิจารณาสั่งปิดสถานที่หากพบความเสี่ยงได้ พร้อมขอเน้นย้ำให้ประชาชนช่วยรักษามาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันโรคด้วย
@ เปิดแผนฉีดวัคซีนหญิงตั้งครรภ์-ชาวต่างชาติ
สำหรับแผนการฉีดวัคซีนสำหรับหญิงตั้งครรภ์ และชาวต่างชาติ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรจะฉีดวัคซีนหลังตั้งครรภ์ 12 สับดาห์ โดยหญิงที่ไม่มั่นใจว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ควรไปตรวจเช็คก่อนเข้ารับวัคซีน ส่วนคนต่างชาติที่อาศัยในแผ่นดินไทย อาทิ คู่สมรสประชาชนชาวไทย หรือผู้ประกอบอาชีพในเมืองไทย จะมีลำดับถัดไปในการฉีดวัคซีน
@ ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 510,108 รวมสะสม 192.22 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 510,108 ราย รวม 192,228,307 ราย อาการหนัก 81,822 ราย หายป่วย 174,923,420 ราย เสียชีวิต 4,133,324 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 44,232 ราย รวม 35,081,719 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 256 ราย รวม 625,363 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 42,123 ราย รวม 31,215,142 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 489 ราย รวม 418,511 ราย บราซิล พบเพิ่ม 27,896 ราย รวม 19,419,741 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,425 ราย รวม 544,302 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 51 ของโลก
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/