คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เคาะจัดหาวัคซีนโควิดเพิ่มอีก 120 ล้านโดสในปี 2565-เร่งหาให้ครบ 100 ล้านโดสในปีนี้ พร้อมเห็นชอบหลักการกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนออกนอกราชอาณาจักร สั่งพิจารณาผลกระทบ-ความเป็นไปได้เพิ่ม
.................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2564 นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2564 ว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาสำคัญ 2 วาระ ดังนี้
วาระที่ 1 ที่ประชุมเห็นชอบและอนุมัติกรอบการจัดหาวัคซีนปี 2565 ให้จัดหาวัคซีนอีก 120 ล้านโดส โดยให้จัดหาในรูปแบบวัคซีนกลุ่ม mRNA ไวรัล เวกเตอร์ โปรตีนซับยูนิต และรูปแบบอื่นๆ โดยคำนึงถึงความเหมาะสม และตอบสนองกับไวรัสกลายพันธุ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป โดยให้มีการจัดหาเพื่อให้มีเพียงพอ ฉีดกับประชากรที่ยังเข้าไม่ถึง และฉีดเพิ่มเติมกรณีกระตุ้นภูมิคุ้มกันในปีถัดไป รวมทั้ง เป็นการสำรองกรณีระบาด นอกจากนี้ มีมติให้กรมควบคุมโรค และสถาบันวัคซีนแห่งชาติเร่งจัดหาวัคซีนปี 2564 ให้ได้ 100 ล้านโดสด้วย
ส่วนวาระที่ 2 การพิจารณาร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้มาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ในการกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนป้องกันโควิดไปภายนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ที่ประชุมได้พิจารณาผลกระทบ และความเป็นไปได้ รวมทั้งเรื่ององค์ประกอบอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาต่อไปข้างหน้า ได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้ออกประกาศนี้ โดย ณ เวลานี้ มอบให้ฝ่ายเลขานุการ คือ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมควบคุมโรค พิจารณาทบทวนเนื้อหาของร่างประกาศนี้ โดยพิจารณาผลกระทบ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศด้านต่างๆ และของประชาชนเป็นหลัก ให้ดำเนินการเจรจาเต็มที่กับผู้ผลิตวัคซีนให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมกับสถานการณ์การระบาดของโรคในประเทศ เมื่อได้ผลอย่างไรให้กับมารายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เพื่อพิจารณาเห็นชอบร่างประกาศต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับกรณีจำกัดวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยออกนอกราชอาณาจักร จะห้ามทั้งหมดหรือกำหนดสัดส่วนอย่างไร นายแพทย์นคร กล่าวว่า ขณะนี้ร่างประกาศดังกล่าวยังไม่ออกมา เพียงแต่ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการ แต่ในส่วนเนื้อหาจะต้องไปพิจารณาทบทวนเรื่องผลกระทบด้านต่างๆ ให้รอบคอบอีกครั้ง และระหว่างนี้ให้ไปเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนเพื่อให้มีการส่งมอบให้กับประเทศไทยให้เหมาะสมกับสถานการณ์การระบาดภายในประเทศ
นอกจากนี้ นพ.นคร ตอบคำถามกรณีที่ผ่านมามีการเจรจากับผู้ผลิตว่าจะต้องส่งวัคซีนให้ไทยในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละเดือนในสัดส่วนอย่างไร ว่า จากการเจรจาแนวทางการจัดสรร คือ 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศ เพราะยอดการสั่งซื้ออยู่ในสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของยอดกำลังการผลิตโดยรวมทั้งหมดในแต่ละช่วงเวลา เพราะการผลิตไม่ได้มีจำนวนโดสของวัคซีนที่แน่นอนตายตัวในแต่ละช่วงเวลา ขึ้นอยู่กับกำลังการผลิต สถานการณ์การผลิต และการผลิตได้จริงในแต่ละช่วงเวลา จึงเป็นข้อตกลงเรื่องสัดส่วนที่ 1 ใน 3 ของการผลิตในแต่ละช่วงเวลา
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage