ประธาน รพ.ธรรมศาสตร์ ชี้สถานการณ์ผู้ป่วยโควิดไทยหนักหนามากขึ้นเรื่อยๆ อาจทะลุหมื่นใน 1 - 2 วันนี้ กักตัวทีมแพทย์นับสิบราย ยอดคนตายเพิ่มจนล้นห้องเก็บศพ เตรียมเช่าคอนเทนเนอร์เพิ่ม 2 ตู้ ปรับระบบป้องกันรับมือสถานการณ์เลวร้ายระบบสาธารณสุขที่จะมาถึงในไม่ช้านี้
...................................
ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เมื่อที่ 12 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลต้องกักตัวทีมแพทย์ออร์โธปิดิกส์อีกนับสิบราย เนื่องจากมีบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยตรวจพบผลเป็นบวกติดเชื้อโควิดจากผู้ป่วย และมีผู้ช่วยพยาบาลอีกสองรายในสองหน่วยงานก็มีผลตรวจเป็นบวกด้วยเช่นกัน
ศ.ดร.สุรพล กล่าวว่า ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ทั่วประเทศของวันที่ 12 ก.ค. ที่มีมากกว่า 8,600 ราย เสียชีวิต 80 ราย ยังอยู่ในเกณฑ์มากผิดปกติตามที่ได้ประเมินเอาไว้ คาดว่าในวันที่ 13 ก.ค. หรืออีก 2 วัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงสูงกว่านี้มากและน่าจะผ่านหลัก 10,000 รายไป เพราะรัฐเริ่มนโยบายตรวจมากและให้ใช้ชุดตรวจโควิดแบบด่วน หรือrapid test ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตก็คงจะสูงตามไปด้วย
“เมื่อวานมีการส่งผู้ป่วยโควิดอาการหนักถึงขนาดต้อง CPR (ปั๊มหัวใจ) กันในห้องฉุกเฉินเข้ามาที่โรงพยาบาลถึงสี่ราย แต่สามารถปั๊มหัวใจจนมีสัญญาณชีพกลับคืนมา และส่งเข้ารักษาต่อในห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) ได้เพียงสองรายเท่านั้น สถานการณ์ที่หนักหนาขึ้นเรื่อยๆทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโควิดในโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน" ศ.ดร.สุรพล กล่าว
ศ.ดร.สุรพล กล่าวด้วยว่า "การที่ธรรมศาสตร์มีหน่วยนิติเวชที่รับผิดชอบครอบคลุมพื้นที่ปทุมธานีและใกล้เคียงอยู่ แม้จะมีเคสผู้ป่วยเสียชีวิตที่บ้าน แต่ก็จะต้องถูกส่งมาตรวจชันสูตรที่นี่ด้วย จำนวนผู้เสียชีวิตที่มากขึ้นทำให้เราเริ่มมีปัญหาความพอเพียงของสถานที่เก็บศพวันนี้ เราจึงได้เตรียมเช่าตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มสำหรับการนี้อีกสองตู้แล้ว"
ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ กล่าวย้ำว่า "ความจริงเรื่องทำนองนี้ไม่ควรจะบอกต่อสาธารณะ แต่การแจ้งเรื่องนี้ให้ทราบก็เป็นความตั้งใจที่จะบอกเล่าความเป็นจริงที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ หรือที่จะต้องเผชิญต่อไปในอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์หน้าให้ทุกๆฝ่ายทราบ และเตรียมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นกับระบบสาธารณสุขของเราในอีกไม่กี่วันที่จะมาถึงนี้"
"โรงพยาบาลไม่ได้นิ่งเฉยรอรับสถานการณ์ด้วยการเตรียมคอนเทนเนอร์เพิ่มไว้เท่านั้น ได้พยายามขวนขวาย ขุดสนามเพลาะ ปรับปรุงค่ายคูประตูหอรบ เตรียมหาอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่ม และปรับกำลังรบกัน เพื่อเตรียมรบแตกหักครั้งสุดท้ายในสัปดาห์สองสัปดาห์นี้ด้วยเหมือนกัน เช่น ตัดสินใจสร้างห้องความดันลบ (negative pressure ) ขนาด 150 ตรม.ขึ้นที่ห้องฉุกเฉินเพื่อรองรับ และกลั่นกรองผู้ป่วยฉุกเฉินที่ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ก่อนที่จะผ่านเข้าไปใน รพ. การเพิ่มพื้นที่เฉพาะไว้รองรับผู้ป่วยฉุกเฉินได้ระดับสูงสุดถึง 15 คน น่าจะทำให้มาตรการป้องกันการติดเชื้อของเรามีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น โดยเฉพาะภายในฉุกเฉินซึ่งเป็นประตูเดียวที่จะผ่านเข้าสู่ทุกวอร์ดผู้ป่วยในของโรงพยาบาลได้" ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ระบุ
(ดูรายละเอียดในลิงค์นี้เพิ่มเติม https://www.facebook.com/100001114032104/posts/4037882172925544/?d=n)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/