"...นอกจากความแตกต่างแล้ว ความเหมือนที่เป็น บทเรียนซ้ำเดิมที่สังคมควรมีส่วนร่วมในการควบคุมไม่ให้เป็นปัจจัยที่กระทบรุนแรงอีก คือ สาเหตุการกระจายโรค ที่ผ่านมามาจาก แหล่งบันเทิง แหล่งการพนัน และ แรงงานต่างชาติ แม้จะสามารถจัดการควบคุมได้ แต่สามารถสังเกตได้ไม่ยากว่า แหล่งกระจายโรคที่นำสู่การระบาดรุนแรง ปีที่แล้วและปีนี้ คือ การกระจายของผู้ตรวจพบเชื้อจากแหล่งบันเทิง เป็นสาเหตุที่ไม่ต่างกัน โดยในปีนี้จำนวนและการกระจายมากกว่า ..."
..............................
ในสถานการณ์โควิดระบาด มีอะไรที่เหมือน และ มีอะไรที่ต่าง ระหว่าง เม.ย. สองปี เมื่อเวลาผ่านไปจึงค่อยคลี่คลายให้เห็นเรื่องราวของความต่างความเหมือน ในสถานการณ์ปีที่แล้วอาจมองเห็นไม่ชัดเจน ผ่านมาหนึ่งปี เมื่อได้มาทบทวน อาจมองเห็นเป็นบทเรียน บทความนี้ประมวลความต่างไว้หกด้าน ได้แก่ มาตรการของรัฐ ความรู้สึกของประชาชน การขาดแคลนปัจจัยในการอยู่รอด ความช่วยเหลือจากรัฐ การได้รับวัคซีน และ เชื้อกลายพันธ์ อย่างไรก็ตาม ในบรรดาความแตกต่าง มีความเหมือนดำรงอยู่
หนึ่ง มาตรการของรัฐ ในปีที่แล้ว ใช้ Top Down Policy โดย การ Lock down ทันที มีผลดี โรคสงบ และ เศรษฐกิจถดถอยต่อมา แตกต่างจากปีนี้ เปิดให้พื้นที่ระดับจังหวัด กำกับมาตรการ การเปิดให้การสัญจรเดินทางยังคงมีอยู่ การปิดกั้นการเข้าพื้นที่ไม่เข้มข้นเท่าปีที่แล้ว ในปีที่แล้วก่อนสงกรานต์ ถกกันหนัก ระหว่าง การ Lock down ทันที กับ การทอดระยะเวลาโดยเลือกใช้มาตรการสำคัญที่มีผลในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบการทำมาหากินอย่างรุนแรง ในปีที่ผ่านมาผล คือ Lock down ชนะ
หากดูภาพเชิงปริมาณการเกิดผู้ตรวจพบโควิด ปีนี้กับปีที่แล้ว ( ภาพ จาก Worldmeter Covid 19 April 12, 2021) ปีนี้มีจำนวนและการกระจายกว้างขวางกว่ามาก นโยบาย Hammer and Dance ที่เคยมีการพูดถึง คือ เมื่อจำนวนมาก ตีแรงด้วยฆ้อน เมื่อจำนวนน้อย ผันผ่อนด้วยการเริงระบำ ปัจจุบัน ดูจะเป็นแนวทางปฏิบัติ และ เปิดให้พื้นที่ตัดสินใจ แทนการดำเนินการเหมือนกันทั้งประเทศในรูปแบบของปีที่แล้ว
สอง ความรู้สึกของประชาชน ภาพความรู้สึก เม.ย. 2563 ดูจะวิตกกังวลมากกว่าปีนี้ จากภาพ เริ่มจากประเทศจีน มีคนป่วยคนเสียชีวิต มีการปิดเมืองเข้มข้นที่อูฮั่น การตั้งโรงพยาบาลสนามและมาตรการควบคุมที่เข้มงวด ต่อมามีการเสียชีวิตในยุโรป อเมริกา บราซิล และ นานาประเทศ ตลอดจน ในประเทศมีการสร้างความตื่นตัวในวิถีปฏิบัติใหม่ หรือ New normal เพื่อความอยู่รอดปลอดภัย
ความตระหนกความวิตกกังวลเหล่านี้ ลดน้อยถอยลง และแปรเปลี่ยนเป็นความตระหนัก เช่น การมีพฤติกรรมเชิงบวก ทั้ง การใส่หน้ากาก การล้างมือ การทิ้งระยะห่าง การทำงานที่บ้าน และมาตรการลดความเสี่ยงต่อบุคคล ชุมชน สถานที่ ทำให้ ประเทศไทย คุมโรคได้โดดเด่น ระดับโลก เป็นที่ยอมรับหนึ่งในห้าของโลกโดยองค์การอนามัยโลก แม้ คนไทยเสียชีวิต จำนวนร้อยคน จากจำนวนผู้ตรวจพบกว่าสามหมื่น ตลอดระยะหลังการเกิดโรค แต่ก็เป็นจำนวนที่ต่ำมาก คือ ร้อยละ 0.3 ของผู้ที่ตรวจพบเชื้อ รวมทั้งผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยมีโรคร่วมหรือสูงวัย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่งเฉพาะบุคคลรวมอยู่ด้วย ความตระหนกเปลี่ยนเป็นตระหนัก ความกลัวลดลง ผ่อนคลายมากขึ้น
สาม การขาดแคลนปัจจัยจำเป็นในการดำรงชีวิต ในปีที่แล้ว การปิดบ้านปิดเมืองในทันที กระทบผู้คนจำนวนมาก ภาพการแจกจ่ายอาหาร มีขึ้นในหลายพื้นที่ มีตู้ปันสุข ผู้คนแสวงหาความช่วยเหลือ และรอการสนับสนุนจากรัฐที่จะบรรเทาความเดือดร้อน ในปีนี้ ภาพความรุนแรงไม่เข้มข้นเท่าปีที่แล้ว อาจด้วยการกระจายความช่วยเหลือได้ออกไปถึงตัวแล้ว แม้จะมีการเข้าไม่ถึงบ้าง ตลอดจนมาตรการการผ่อนคลายในการทำมาหากินที่ไม่เข้มเหมือนปีที่ผ่านมา ประชาชนจึงยังมีช่องทางโอกาส ต่างจากการปิดเมืองในระยะแรก ทั้งเวลาที่จะใช้มาตรการเข้มข้นสั้นกว่า ความรุนแรงจึงไม่เท่าปีที่แล้ว
สี่ ความช่วยเหลือจากรัฐ ในปีที่แล้ว ระยะแรก ยังมองกันไม่ออก ว่าจะเป็นอย่างไร เมื่อเวลาผ่านไป และรัฐได้เงินกู้มาดำเนินการ เกิดโครงการของรัฐบรรเทาความขาดแคลนความเดือดร้อน โครงการกระจายตามแต่ละกลุ่ม กระจายเงินสู่ประชาชน และมีนวัตกรรมการจ่ายเงินให้ทั้งประชาชน และ ผู้ขาย ในระบบ Fin tech เป็นที่ยอมรับมากขึ้น การช่วยเหลือของรัฐจึงเป็นรูปธรรมมากกว่าในช่วงสงกรานต์ปีที่ผ่านมา
ระยะต่อไป เป็นที่ต้องคำนึงว่า หากการระบาดยังต่อเนื่อง รัฐจะมีอะไรในมือมาช่วยอีก ภาพการช่วยเหลือนี้ในอนาคตอาจยังไม่ชัดเจน หรือ อาจไม่มีต่อ เนื่องจากคาดว่าโรคใกล้สงบ จากการเปลี่ยนแปลงระดับโลกที่มีแนวโน้มลดลง ตลอดจนการมีวัคซีนที่ครอบคลุมมากขึ้น
ห้า วัคซีน ในปีนี้เป็นเรื่องแตกต่างอย่างที่เทียบกันไม่ได้เลยกับปีที่แล้ว ที่ผ่านมา หลายสำนักคาดกันว่าหลายปีจึงจะมีวัคซีน หลายสำนักคาดไปยาวเลย ในปีนี้ต่างไป วัคซีนออกมาได้เร็วขึ้น ประเทศไทย เริ่มมีแล้ว แม้จะพร่องไม่พอ แต่ก็มีให้ได้เห็น หลายประเทศแสดงผลว่า วัคซีนดึงการระบาดลง ตัวอย่างเช่น จำนวนร้อยละการได้รับวัคซีนที่สูง ในอังกฤษ อเมริกา อิสราเอล มีผลต่อการลดลงของ ผู้ตรวจพบเชื้อรายใหม่ เปรียบเทียบกับ บราซิล ที่ยังได้รับวัคซีนน้อย และยังไม่มีผลต่อการลดผู้ตรวจพบเชื้อรายใหม่ ( ภาพจาก ศ นพ เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม Vaccine Research Center (VRC) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย April 12, 2021 )
วัคซีนจึงเป็น ความหวังที่ดูเป็นรูปธรรม กว่าปีที่แล้ว แม้จะมีข่าวคราวเรื่องผลข้างเคียงแต่ก็มีจำนวนที่เป็นอัตราส่วนน้อยมาก ประโยชน์ของวัคซีนจึงเหนือกว่าความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม มีข้อพึงสังวรณ์ว่า เพียงมาตรการให้วัคซีนอย่างเดียว และ ผ่อนคลายมาตรการอื่นอย่างรวดเร็วเกินไป จะมีผลกระทบต่อการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากการรับเชื้อโควิด ซึ่งสังเกตได้จากการให้วัคซีนในอิสราเอล โดยยังดำเนินการมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดในเรื่องการรวมกลุ่ม การเว้นระยะห่าง พฤติกรรมบุคคล ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่ ในประเทศชิลี มีการให้วัคซีนแต่ลดมาตรการควบคุม จึงไม่ได้ผลต่อการลดจำนวนผู้เสียชีวิต
หก เชื้อต่างสายพันธ์ มีคำนี้บ่อยขึ้นกว่าปีที่แล้ว และ มีเพิ่มขึ้น เช่น ปัจจุบัน สายพันธ์ที่มาระบาดที่ทองหล่อ อาจไม่เหมือนสายพันธ์ที่ผ่านมา อาจทำให้เชื้อดื้อวัคซีน อาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อวัคซีนลดลง แต่ภาพเหล่านี้ยังไม่ชัดเจนมากนัก ว่าจะมีผลกระทบต่อการฉีดวัคซีน ในระยะสั้นนี้อย่างไร ประกอบกับ ประสบการณ์การพัฒนาวัคซีน น่าจะให้ความเชื่อมั่นได้ว่า แม้การมีปัญหาเชื้อกลายพันธ์ ผู้ผลิตและบรรดานักวิจัยที่ทำงานอย่างแข็งขันน่าจะรับมือกับเรื่องนี้ได้
ทั้งหกประการเป็นความแตกต่าง ที่เห็นได้ว่า ในภาพรวมสถานการณ์เชิงเปรียบเทียบได้พัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะมุมมองด้านการควบคุมโรค แต่แน่นอนว่า ความรุนแรงด้านเศรษฐกิจยังคงดำรงอยู่อย่างน่ากังวลไม่น้อย ในระยะสั้นยังคงไม่สามารถกลับคืนไปได้เหมือนก่อนการระบาด การท่องเที่ยว การทำมาค้าขายยังคงไม่สามารถเป็นแหล่งรายได้ที่ดีแบบเดิม และยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
นอกจากความแตกต่างแล้ว ความเหมือนที่เป็น บทเรียนซ้ำเดิมที่สังคมควรมีส่วนร่วมในการควบคุมไม่ให้เป็นปัจจัยที่กระทบรุนแรงอีก คือ สาเหตุการกระจายโรค ที่ผ่านมามาจาก แหล่งบันเทิง แหล่งการพนัน และ แรงงานต่างชาติ แม้จะสามารถจัดการควบคุมได้ แต่สามารถสังเกตได้ไม่ยากว่า แหล่งกระจายโรคที่นำสู่การระบาดรุนแรง ปีที่แล้วและปีนี้ คือ การกระจายของผู้ตรวจพบเชื้อจากแหล่งบันเทิง เป็นสาเหตุที่ไม่ต่างกัน โดยในปีนี้จำนวนและการกระจายมากกว่า
เป็นที่น่าเสียดาย ที่ประเทศไทยมีศักยภาพในมาตรการที่ดำเนินการได้ดีในหลายด้าน เช่น ผู้ที่เข้ามาในช่องทางที่ถูกกฎหมายผ่านตรวจคนเข้าเมือง การเฝ้าระวังในพื้นที่โดย อสม ระบบรักษาพยาบาลที่เข้มแข็ง มาตรการด้านระบาดวิทยาที่มีประสิทธิภาพ และความร่วมมือของประชาชน แต่ก็มาเสียทีในเรื่องของการระบาดที่กระจายจากสถานบันเทิง ทำให้วุ่นวายกันต่อไป
ในการดำเนินการล่าสุด การกำหนดมาตรการของภาครัฐ ( ภาพ ผลการศึกษา จำนวนผู้ป่วยใหม่รายวัน ในหนึ่งเดือนข้างหน้า ที่มา ศบค 12 เมย 2564) ในบรรดาทางเลือกที่มีตามกรณี พบว่า กรณีที่ 2 การปิดสถานบันเทิงในจังหวัดเสี่ยง สามารถลดจำนวนผู้ป่วยรายวันได้อย่างมาก เทียบกับการไม่มีมาตรการ ประมาณหนึ่งในสาม หรือ เก้าพันคนเหลือสามพันคน และ หากมีมาตรการอื่น อาจลดได้อีกเกือบสิบเท่า เหลือสี่ร้อยคนต่อวัน
ในเมษายนปีที่แล้ว มีการตั้งคำถามกันว่า ว่า โควิดจะหนักจนประเทศไทยจะเอาอยู่ไหม ภาครัฐได้ให้ความเชื่อมั่นว่าเอาอยู่ หนึ่งปีผ่านมาก็เอาอยู่ ลอดรั่วเป็นพักแล้วก็ซาไป เนื่องจากสังคมไทยได้ผ่านสนามรบกับโควิดมาหนึ่งปีแล้ว ประสบการณ์ที่มีน่าจะพอต่อการรับมือ ประกอบกับสถานการณ์ที่เป็นคุณ เช่น การมีวัคซีน การเลือกใช้มาตรการที่ตอบสนองการระบาดตามพื้นที่เสี่ยงและกลุ่มเสี่ยงโดยไม่เหมารวม และ ความรับรู้ของประชาชนต่อสาเหตุของการระบาด ต่อสถานที่เสี่ยง น่าจะทำให้ตื่นตัวต่อการลดละพฤติกรรมเสี่ยงกันมากขึ้น
เวลาผ่านไปเร็ว คนไทยได้เรียนจบหลักสูตรโควิดอีกหนึ่งปี เป็นประสบการณ์สำหรับการประเมินสถานการณ์ในปีต่อไป หลังสงกรานต์เมษายนปีนี้ ประเทศไทยจะก้าวข้ามไปได้หรือไม่ คล้ายคำถามเดิมกลับมาว่า โควิดจะหนักจนเอาอยู่ไหม ความรุนแรงครั้งต่อไปจะยังมีเหตุจากสถานบันเทิงอีกหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นได้ว่า หลังสงกรานต์ ปีใหม่ไทยในปีนี้ ประชาชนคนไทยน่าจะมีกำลังใจและความหวังมากกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน
13 เม.ย. 2564