"...สิ่งนี้นั้นเป็นสิ่งที่ต้องมี ส่วนจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งในนานาประเทศนั้นเขามีการจัดทำวัคซีนพาสปอร์ตเป็นรูปแบบดิจิทัล แต่ของประเทศไทยก็กำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่..."
.........................
"คนไทยทุกคนที่ได้รับวัคซีนจะได้รับสมุดประจำตัว ที่เรียกว่า ‘สมุดปกเหลือง’ แสดงว่าเป็นผู้ได้รับวัคซีนแล้ว เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการจัดทำหนังสือเดินทาง หรือเอกสารราชการต่างๆ ที่จำเป็น สร้างความเชื่อมั่นให้สำหรับผู้คนที่จะพบเจอกันด้วย"
คือ คำยืนยันของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เกี่ยวกับประเด็นวัคซีนพาสปอร์ตโควิด-19 ที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน หลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา
นายอนุทิน ยังย้ำว่า คนไทยรวมถึงผู้อาศัยภายในประเทศที่ไม่สัญชาติไทย เมื่อได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม จะได้รับใบรับรองการฉีดวัคซีน เพื่อใช้ในการเดินทางข้ามประเทศ รวมถึงจะช่วยลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน และในอนาคตอาจจะมีมาตรการเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ผลการฉีดวัคซีนจากทั่วโลก
(อ่านประกอบ:ส่องสถานการณ์โลกกับการใช้ 'วัคซีนพาสปอร์ต' แผนระยะยาวที่ใช้รับมือโควิด)
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) มีโอกาสสอบถามความเห็นจาก นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศถึงการใช้วัคซีนพาสปอร์ตของประเทศไทยดังกล่าว
นายดอนกล่าวยืนยันว่า "สิ่งนี้นั้นเป็นสิ่งที่ต้องมี ส่วนจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งในนานาประเทศนั้นเขามีการจัดทำวัคซีนพาสปอร์ตเป็นรูปแบบดิจิทัล แต่ของประเทศไทยก็กำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่"
เมื่อถามว่า ในต่างประเทศนั้นมีการเอาบริษัทไอทีเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบหนังสือเดินทางที่ว่านี้ด้วย
นายดอนกล่าวว่า "นี่ก็เป็นแนวทางสมัยใหม่ การจะไปใช้เอกสารแบบสมุดปกเหลืองสมัยก่อน นั้นถือเป็นสิ่งที่หมดยุคไปแล้ว"
"ตอนนี้มันเป็นยุคไอที ยุคดิจิทัลไปแล้ว มันอาจจะต้องมีสิ่งที่มีลักษณะแบบคิวอาร์โค้ดที่ระบุข้อมูลส่วนตัวบุคคล"
ณ เวลานี้อาเซียนเขาก็อยากให้มีสิ่งที่เรียกว่า Mutual Recognition Agreement หรือก็คือข้อตกลงที่มีการยอมรับร่วมกัน ขณะที่ประเทศจีนเองเขาก็ต้องการจะให้มีสิ่งนี้เช่นกัน"
"ดังนั้นเรื่องนี้หลายประเทศในอาเซียนก็ต้องมาคุยกันเสียก่อนจึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำวัคซีนพาสปอร์ตร่วมกันที่ง่ายที่สุด" นายดอนระบุ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage