“...โจทย์เหล่านี้ขึ้นมา เป็นเสมือนการบอกล่วงหน้าว่าเราจะทำการเมืองโดยอุดมการณ์ โดยไม่ใช้เงิน เป็นการเมืองแบบใหม่ อดมื้อกินมื้อด้วยกัน ทุกคนต้องรู้แต่แรกว่ามาที่นี่ล้วนจะลำบาก หลายคนตอบดีมาก แต่ทุกวันนี้ก็ย้ายไปอยู่พรรคอื่นแล้ว ทำให้ได้เห็นว่าสภาพการเมืองไทยก็เป็นแบบนี้ ถึงเวลาสุดท้ายก็จบกันที่เงิน…”
..................................................
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : เมื่อวันที่ 22-23 ก.พ. 2564 ทีมงานประชาสัมพันธ์ คณะก้าวหน้า เผยแพร่บางห้วงบางตอนบทสนทนาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ดำเนินรายการโดยนายปกป้อง จันวิทย์ ในแอปพลิเคชั่น Clubhouse จัดโดยเว็บไซต์ The101.world ในหัว้อ ‘หนึ่งปี ‘ปิยบุตร’ อ่านการเมืองไทยหลังไร้อนาคตใหม่’ โดยเฉพาะประเด็นครบรอบ 1 ปี พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ
ในบทสนทนาดังกล่าว นายปิยบุตร สรุปบทเรียนกรณี ‘งูเห่า’ ที่เกิดขึ้น ทั้งในช่วงเป็นพรรคอนาคตใหม่ และกรณีล่าสุดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 10 ราย ระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ. 2564 ที่มี ส.ส.พรรคก้าวไกล 4 ราย โหวตสวนมติพรรคก้าวไกลด้วย สรุปรายละเอียด ดังนี้
ตอนหนึ่ง นายปกป้องถามถึงปรากฏการณ์ ‘งูเห่า’ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่มาจนเป็นพรรคก้าวไกล ว่านายปิยบุตรมองปรากฏการณ์ดังกล่าวว่าอย่างไร โดยนายปิยบุตร ระบุว่า ตั้งแต่ตอนที่ทำพรรคอนาคตใหม่มา ได้เห็นคนที่มาร่วมงานกับอนาคตใหม่ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรค มาสมัครสมาชิก สมัครเป็นผู้สมัคร ส.ส. ไปหาเสียงด้วยกัน จนมาเป็น ส.ส. เรามีเวลาคัดคนแค่ 2-3 เดือน ในการหาผู้สมัคร 350 เขต 350 คน
ในการคัดกรอง นายปิยบุตรเป็นผู้ออกข้อสอบ 3 ข้อ มีข้อ 1) ถ้าคุณเป็น ส.ส. แล้วเกิดรัฐประหารคุณจะทำอย่างไร? 2) ถ้าวันหนึ่งตั้งใจจะทำอะไรเพื่อประโยชน์ของประเทศ แต่เป็นฝ่ายค้านทำไม่ได้ แล้ววันหนึ่งรัฐบาลสืบทอดอำนาจอำนวยความสะดวกให้ทำจะไปกับเขาไหม? 3) ไม่มีเงินเป็นถุงเป็นถังให้ลงไปหาเสียงจะทำอย่างไร?
โดยตั้งโจทย์เหล่านี้ขึ้นมา เป็นเสมือนการบอกล่วงหน้าว่าเราจะทำการเมืองโดยอุดมการณ์ โดยไม่ใช้เงิน เป็นการเมืองแบบใหม่ อดมื้อกินมื้อด้วยกัน ทุกคนต้องรู้แต่แรกว่ามาที่นี่ล้วนจะลำบาก หลายคนตอบดีมาก แต่ทุกวันนี้ก็ย้ายไปอยู่พรรคอื่นแล้ว ทำให้ได้เห็นว่าสภาพการเมืองไทยก็เป็นแบบนี้ ถึงเวลาสุดท้ายก็จบกันที่เงิน
“ผมก็พยายามเข้าใจแต่ละคนนะที่ไป โอเคล่ะ อาจจะตำหนิว่าพรรคระบบไม่ดี พรรคมีปัญหา อะไรก็ตามแต่ แต่ทุก ๆ อย่างที่เขาตั้งข้อวิจารณ์มาเนี่ย สุดท้ายมันจบแค่ที่เงิน ก็พูดกันตรงไปตรงมา ที่คุณทำงานในพื้นที่อะไรไม่ได้ก็เพราะเราไม่มีเงินให้ ไม่นับรวมว่าเราเป็นฝ่ายค้าน แล้วไม่นับรวมว่าเราเป็นฝ่ายค้านที่เป็นเป้าใหญ่ที่ระบอบนี้ไม่ชอบ”
“ผมถึงพยายามเรียกร้องตลอดว่าสุดท้ายเป็น ส.ส. เพื่ออะไร คุณเป็น ส.ส. เพื่อเปลี่ยนแปลง หรือคุณเป็น ส.ส. เพื่ออยากเป็น ส.ส. อีก ถ้าคุณจะเป็น ส.ส. แล้วอยากเป็น ส.ส. อีกอันนี้คุณต้องไปคิดแล้วว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่ได้ แต่ถ้าคุณอยากเป็น ส.ส. เพื่อเปลี่ยนแปลง นี่มันจะเป็นคนละวิธีคิด ก็ไม่เป็นไร ก็อวยพรให้ทุกคนไปดีก็แล้วกันครับ”
นายปิยบุตร ระบุด้วยว่า เชื่อว่าทุกคนเป็นคนดี ตอนที่เขาเริ่มต้นมาเป็นนักการเมืองที่มีความหวังจริงๆ เขามีความหวัง ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่มาลงกับเรา
แต่พอเข้ามาสู่ระบบการเมือง อยู่ไปเรื่อย ๆ มีนักการเมืองต่างพรรคบ้าง มีงูเห่าที่ย้ายไปแล้วบ้าง มาคุยกันว่าได้เงินกันไปคนละเท่าไหร่ ได้งบลงไปทำพื้นที่เท่าไหร่ เจอแบบนี้ก็ใจสั่นขาสั่นได้เหมือนกัน
ถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับการคัดกรองกันต่อไปในอนาคต
อ่านประกอบ :
ก่อนครหา‘งูเห่า’? โพรไฟล์สั้น ๆ 4 ส.ส.ก้าวไกลสวนมติพรรคไว้วางใจ‘เสี่ยหนู’
เช็คเสียง'งูเห่า'-ส.ส.แหกมติพรรค ผลโหวตศึกซักฟอก 10 รัฐมนตรี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/