"...ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนโควิดในยามที่ข้อมูลจำกัดนี้จะสูง ถ้าประชากรมีความเสี่ยงสูง ยิ่งสูงเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยง และฉีดได้ครอบคลุมมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งได้ประโยชน์การลดการป่วยและตายได้มากขึ้นแต่ค่าใช้จ่ายและผลข้างเคียงไม่ขึ้นกับความเสี่ยงต่อโควิด คุณก็จะต้องเสี่ยงจากผลข้างเคียง เท่ากันทั้งนั้น ยิ่งฉีดมากยิ่งเสียประโยชน์มาก ถ้าอยู่ในฐานะที่เสี่ยงต่ำ ความเสี่ยงจากวัคซีนจะสูงกว่าความเสี่ยงจากโควิดแน่นอน..."
...........................................
การประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล (Prince Mahidol Award Conference: PMAC) ซึ่งเป็น จุดรวมของนักวิชาการสุขภาพโลก (global health) จบลงในวันนี้ปีนี้หัวข้อเรื่องที่สำคัญคือ COVID-19 โดยมี ประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจหลายประเด็น ซึ่งเราก็พูดกันเองมากในประเทศไทย เช่น
- วัคซีนผลิตได้ไม่ทันความต้องการจะแบ่งปันกันอย่างไร ให้ความสำคัญกับบุคลากรการแพทย์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังอย่างที่ประเทศส่วนใหญ่กำลังทำ หรือให้ความสำคัญกับหนุ่มสาวแรงงานทางเศรษฐกิจ
- จะทำอย่างไรกับโควิดสายพันธุ์ใหม่จากแอฟริกา และ อังกฤษ ซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายและอาจจะทำให้ และตายมากขึ้น
- วัคซีนมาแล้ว เมื่อไหร่เศรษฐกิจจะฟื้นโดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยว
ในช่วงของการแนะนำการประชุม มีการนำเที่ยวออนไลน์โดย Thai PBS และ Workpoint ให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ ชมเทปและสัมภาษณ์สด นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยมหิดล ทีมสาธารณสุขและประชาชนจากจังหวัดน่านซึ่งภูมิใจ ในการป้องกันไม่ให้โควิดจากนอกจังหวัดเข้ามาแพร่กระจาย จากจังหวัดสงขลาที่ชาวบ้านช่วยกันรับตัวผู้ป่วยที่กลับจากต่างประเทศมากักตัวและรักษา และจากจังหวัดภูเก็ตที่พร้อมที่จะรับกลับมาชมความงาม จัดเตรียมการท่องเที่ยวออนไลน์ทั้งหมดนี้สนับสนุนโดยมูลนิธิรางวีลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล และอำนวยการโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มุ่งหวังที่จะให้ต่างชาติเห็นพลังความร่วมมือของคนไทย และ กลับมาเยือน บ้านเราเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ช่วยให้เศรษฐกิจไทยได้ฟื้นตัว
งานประชุมเลิกไปแล้ว แต่ละประเทศต้องคิดว่าเราจะทำอะไรต่อ
ทางจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นตัวแทนของธุรกิจการท่องเที่ยวเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยเหลือมากขึ้น รวมทั้งขอให้มีการจัดสรรวัคซีนโควิดแบบพิเศษเพื่อให้แก่เมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต สมุย และ กรุงเทพมหานครก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คนที่จะมาท่องเที่ยว นอกจากนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานในภูเก็ต 19 องค์กร จะร่วมลงขันออกเงินซื้อวัคซีนเพื่อฉีดให้ประชาชนของตนร้อยละ 70ด้วย ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่มีหลักฐานว่าได้ฉีดวัคซีน ถูกต้องแล้ว ทางภูเก็ตก็เห็นว่าไม่ควรต้องถูกกักตัว จะได้เข้าออกท่องเที่ยวได้สะดวก ข่าวกล่าวว่าวัคซีนชุดแรก 2 แสนโด๊สจะเข้ามาถึงประเทศไทยในเดือนนี้ แต่รัฐบาลจะฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะ เสียชีวิตจากโรคใน 5 จังหวัดของภาคกลางที่มีโควิดระบาดก่อน แล้วจึงกระจายออกไป โดยปีนี้รัฐบาลตั้งใจว่านำเข้า 63 ล้านโด๊ส
หนังสือพิมพ์ The Straits Times ของสิงคโปร์ประโคมข่าวในวันนี้ว่าภูเก็ตประกาศว่าพร้อมจะรับนักท่องเที่ยว เดือนตุลาคมปีนี้
ผมในฐานะของนักวิชาการภาคใต้ที่เอาใจช่วยภูเก็ตมาตลอดทั้งเรื่องการควบคุมโรคต่างๆ ใน 20 กว่าปีที่ผ่านมา และด้านการส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในการท่องเที่ยว รู้สึกเห็นใจและอยากให้กำลังใจชาวภูเก็ตในการแก้ปัญหาครั้งนี้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม มีแง่มุมที่อยากฝากให้ทั้งชาวภูเก็ตและคนไทยภายนอกได้มองร่วมกัน
ตามหลักของเศรษฐศาสตร์สวัสดิการ ถ้ามีใครในสังคมสามารถได้อรรถประโยชน์จากอะไรสักอย่างหนึ่งโดยไม่มี เสียประโยชน์เลย สวัสดิการของสังคมจะดีขึ้น แต่ถ้าบางคนได้ประโยชน์บางคนเสียประโยชน์ต้องมีการเจรจาหาข้อตกลงร่วมกัน
ถ้าวัคซีนมีมาก หาซื้อง่าย ใครจะจ่ายเงินซื้อก็ได้ รอของรัฐบาลก็ได้ ไม่มีใครเดือดร้อน
แต่ขณะนี้วัคซีนทั่วโลกขาดแคลน ประเทศจีนสัญญาว่าจะทำให้ทั่วโลกก็ไม่เห็นว่าจะให้ประเทศไทยได้ การซื้อวัคซีนจีนก็ไม่ได้ง่ายเสียทีเดียว ราคาก็แพง สำนักงานอาหารและยาและสถาบันวัคซีนแห่งชาติของเราต้องแก้ปัญหาเรื่องการขึ้นทะเบียนซึ่งหวังว่าจะเรียบร้อยในเร็ววัน วัคซีนที่ฉีดกันมากในอเมริกาก็ผลิตไม่ทันใช้เพราะคนแย่งกันซื้อทั่วโลก บริษัทวัคซีนอเมริกันไม่สนใจที่จะขึ้นทะเบียนในประเทศไทยเพราะเขาไม่อยากเสียเวลากับตลาดเล็ก น้อย ๆ อย่างไทย วัคซีนอังกฤษก็ดูเหมือนจะโดนอียูบอกว่าต้องให้อียูก่อน หรือเราจะลองติดต่อวัคซีนรัสเซียและ
อินเดีย ซึ่งก็ต้องถามใจคนไทยว่าถ้ารัฐบาลเอามาฉีดคนไทย คนไทยจะยินดีรับไหม
ภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดไม่ได้มีเฉพาะการท่องเที่ยว ยังมีภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศเช่นกัน ภาคอุตสาหกรรมก็ต้องการให้คนงานของตนได้รับวัคซีน เพื่อให้การผลิตที่ยังคงดำเนินไปได้อยู่ ระดับหนึ่งจะได้ไม่ขาดตอน เขาก็บอกว่ายินดีจ่ายเงินค่าวัคซีนเหมือนชาวภูเก็ตเช่นกัน การตัดสินใจของรัฐจึงต้องฟังเสียงจากหลาย ๆ ด้าน ทั้งพวกที่อยากได้มากในสองภาคธุรกิจนี้ และคนที่ยังอยากรอก่อนอีกจำนวนหนึ่ง
วัคซีนที่ขึ้นทะเบียนทั่วโลกในขณะนี้ เป็นการขี้นทะเบียนสำหรับการใช้ฉุกเฉิน ในกรณีนี้ คือ มีการระบาดหนัก อย่างเช่นในสหรัฐ ยุโรป อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง อินเดีย รัสเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น ถ้าประเทศเหล่านี้ไม่ได้วัคซีนจะมีคนตายอีกจำนวนมาก ระบบสาธารณสุขจะถึงแก่กาลล่มจม ข้อมูลเรื่องประสิทธิผลและความปลอดภัยของวัคซีนได้มาจากการติดตามอาสาสมัครไม่กี่หมื่นคนซึ่งติดตามมาเพียงครึ่งปีเศษ ๆ สำหรับวัคซีนแต่ละชนิด ทำให้เป็นการอนุมัติให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ทั้งที่ยอมให้ใช้ ทั้งที่มีความเสี่ยงจากการใช้วัคซีนซึ่งข้อมูลไม่ครบ ก็เพราะโรคกำลังระบาดอย่างหนัก
ประเทศไทยไม่เหมือนประเทศดังกล่าว เราควบคุมโรคระบาดได้ค่อนข้างดี ทั้งในปีกลาย และต้นปีนี้ แต่ตัวเลขต่างๆ ระบุว่าเรายังมีความเสี่ยงสูงในพื้นที่สมุทรสาคร กทม. และ ภาคตะวันออก หรืออาจจะรวมถึงจังหวัดชายแดน ตะวันตก เชื้ออาจจะระบาดอีกและลามไปทั่วประเทศก็ได้ อย่างนี้มีเหตุผลค่อนข้างหนักแน่นที่จะอนุมัติให้ใช้ออย่างฉุกเฉิน
จังหวัดที่ความเสี่ยงต่ำ ๆ ควรจะใช้อย่างในสถานการณ์ฉุกเฉินไหม แม้กระทั่งคนที่อยู่ในวิชาชีพของผมเอง สถิติในประเทศบอกว่าที่ผ่านมาสองรอบมีการติดเชื้อทั้งหมอและพยาบาลเพียงร้อยกว่าคน ถ้าหมอไม่ได้อยู่ในจังถ้าหวัดที่เสี่ยงสูงน่าจะใช้ไหม ผมเชื่อว่ามีบุคลากรจำนวนหนึ่งยินดีจะรอก่อน อีกไม่กี่วันข้างหน้า กระทรวงสาธารณสุขจะออกแบบสอบถามบุคลากรทางการแพทย์แต่ละคนว่าอยากฉีดไหม ถ้าไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงและไม่อยากฉีด กระทรวงอาจจะคิดว่าก็รอไปก่อนก็ได้ จะได้เอาวัคซีนที่มีอยู่อย่างจำกัดไปใช้กับคนที่จำเป็นและอยากได้ก่อน
แต่อย่าลืมนะครับ วัคซีนสำหรับภาวะฉุกเฉินเสื้อชูชีพบนเครื่องบินเหมือนเอาไว้ใช้เวลาฉุกเฉินห้ามเอามาใส่เล่น และห้ามเอาลงจากอากาศยาน หรือ เหมือนห่วงยางริมสระน้ำที่เอาไว้โยนช่วยชีวิตคนตกน้ำ ไม่ได้เอาไว้ให้ ว่ายน้ำสวมใส่
ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนโควิดในยามที่ข้อมูลจำกัดนี้จะสูง ถ้าประชากรมีความเสี่ยงสูง ยิ่งสูงเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยง และฉีดได้ครอบคลุมมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งได้ประโยชน์ การลดการป่วยและตายได้มากขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายและผลข้างเคียงไม่ขึ้นกับความเสี่ยงต่อโควิด คุณก็จะต้องเสี่ยงจากผลข้างเคียงเท่ากันทั้งนั้น ยิ่งฉีดมากยิ่งเสียประโยชน์มาก ถ้าอยู่ในฐานะที่เสี่ยงต่ำ ความเสี่ยงจากวัคซีนจะสูงกว่าความเสี่ยงจากโควิดแน่นอน
แต่คนเราก็อย่างว่าแหละครับ ชอบเสี่ยง ถ้าอยู่บ้านเฉย ๆ เสี่ยงน้อยไม่สนุก ต้องไปเที่ยวบ้างเสี่ยงเพิ่มขึ้นหน่อยแต่ คนงานยอมทำงานเสี่ยงและไม่ถูกสุขอนามัยหลาย ๆ อย่าง เพราะเขาประเมินว่า ทำงานที่มีความเสี่ยงจะได้รายได้มากขึ้น พวกเล่นหวยหรือเล่นหุ้นก็อยากเสี่ยงเพราะต้องการความสนุกและหวังรวย ถ้าเช่นนั้นเรายอมให้ทุกคนเสี่ยงเพิ่มขึ้น แล้วเอาวัคซีนเป็นตัวช่วยเอ็นจอยความเสี่ยงดีไหม ไอเดียนี้ดีถ้าเรารู้จักวัคซีนดีพอ แต่ไม่ดีถ้าเรายังมีความไม่รู้อีกมากมาย เริ่มต้นเราอาจจะรักสนุกแต่ลงท้ายแล้วทุกข์ถนัด
เราจะเสี่ยงเพิ่มขึ้นแน่นอน ถ้าเราเปิดประเทศนำนักท่องเที่ยวที่ผ่านการฉีดวัคซีนเข้ามาโดยยังไม่รู้ประสิทธิภาพที่แน่นอนของวัคซีน วัคซีนกันได้อย่างเก่งก็เก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ ยังมีอีกตั้งเกือบสิบเปอร์เซ็นต์วัคซีนพิสูจน์ในเบื้องต้นแล้วว่า ป้องกันการเจ็บป่วยและการตาย แต่ไม่มีข้อมูลเลยว่า วัคซีนระงับการแพร่เชื้อได้ดีเพียงไร
ความไม่แน่นอนสองสามอย่างนี้ทำให้เรามีโอกาสรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อเข้ามาในประเทศไทยได้แน่นอน การรับนักท่องเที่ยวมาน้อย ๆ แก้เศรษฐกิจไทยไม่ได้ ต้องรับมาจำนวนมากพอ ยิ่งรับมามากเท่าไหร่ก็เพิ่มนักท่องเที่ยวที่มีเชื้อเข้ามาได้มากเท่านั้น ประชาชนจากพื้นที่ซึ่งเขาปลอดภัยกว่าเรา เช่นขาใหญ่อย่างจีน เขาคงยังไม่อยากเสี่ยงในช่วงนี้ รัฐบาลจีนก็คงยังไม่อยากส่งคนออกมาเที่ยวข้างนอกเพิ่มเพราะมีโอกาสรับเชื้อเข้าประเทศ
อย่างนั้นเราก็คงได้ฝรั่งหรืออาหรับมาเที่ยว ซึ่งเป็นประชากรที่ยังมีเชื้ออยู่มาก ถึงแม้วอาจจะลดเชื้อลงไปเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เชื้อของเขาก็ยังมากกว่าเชื้อของคนไทยอยู่มาก แพร่เชื้อในภูเก็ตสักไม่กี่ราย คนภูเก็ตส่วนใหญ่ที่เคยถูกล็อดาวน์ทั้งเกาะเป็นแรมเดือนเมื่อปีกลายจนเข็ดหลาบกับโควิดคงจะไม่เอาด้วยแล้ว
เราให้เขาเข้ามาแล้ว จะให้อยู่เฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวเท่านั้น เพราะพื้นที่นี้ประชาชนฉีดวัคซีนแล้ว ไปจังหวัดอื่นเพื่อกระจายรายได้บ้างหรือถ้าให้ออกนอกพื้นที่ จังหวัดอื่น ๆ เขายังไม่ได้ฉีดวัคซีน เขาจะเสี่ยงเพิ่มขึ้นแน่นอน เขาอาจจะไม่อยากแลกความเสี่ยงต่อโควิดกับรายได้จากการท่องเที่ยวเหมือนจังหวัดที่ต้องพึ้งการท่องเที่ยวเป็นหลัก
แหม ผมมองโลกแต่ในแง่ร้ายและใจร้ายจัง ที่คุยมาทั้งหมดไม่เห็นช่วยอะไรจังหวัดท่องเที่ยวเลย ไปภูเก็ตมีคนรู้จะมาแบกป้ายไล่ไหมเนี่ย
ผมคิดว่าไหน ๆ กระแสวัคซีนก็มาแรงจนขนาดนี้แล้ว ไทยเราแม้จะปลอดภัยก็เริ่มคิดฉีดวัคซีนกันเถอะครับ ขอให้แต่ละคนแต่ละภาคส่วน ช่วยรัฐบาลคิดถึงความคุ้มระหว่างความเสี่ยงจากโควิดจังหวัดที่เสี่ยงมาก ๆ ก็ต้องได้วัคซีนก่อน ถ้าวัคซีนเข้ามาไทยเมื่อกลางปีกลายนี้ ผมโหวตให้ภูเก็ตก่อนแน่นอนผม เพราะภูเก็ตเป็นจังหวัดปราการของโควิดในรอบนั้น กว่าชาวบ้านและราชการจะเอาอยู่ได้ภูเก็ตก็สะบักสะบอมมาก ตอนนี้ธุรกิจท่องเที่ยวหายไปโควิดก็หายไปด้วย ผมขอโหวตให้สมุทรสาครก่อนครับ
ผมเห็นด้วยกับทางภูเก็ตนะครับ ถ้าได้วัคซีนที่ป้องกันได้ดีและปลอดภัย ควรให้พนักงานที่ดูแลนักท่องเที่ยวก่อน ไม่ต้องรอให้เปิดประเทศหรอกครับ นักท่องเที่ยวไทยก็จะได้ประโยชน์ด้วย ผมไม่เชื่อองค์การอนามัยโลกว่าควรฉีด หมอ คนป่วย และ ผู้สูงอายุก่อน ผมว่าพนักงานเหล่านี้ควรได้ก่อน เพราะผมเชื่อว่าคนหนุ่มสาวนี่แหละตัวดี มีชีวิตรวมหมู่ยามค่ำคืน ถึงตัวเองไม่ป่วยแต่จะแพร่เชื้อทำให้คนอื่นป่วย
ขอโทษลูก ๆ หลานขอโทษๆ ที่จะเปรียบเทียบกับการฉีดวัคซีนโรคบางชนิด เช่น โรคกลัวน้ำ ที่เราฉีดให้สุนัขและแมวเป็นหลัก เพราะพวกนี้ไปซนที่ไหนต่อไหนไปทั่วถ้าติดเชื้อกลับมาเจ้าของก็ไม่รู้ โรคกลัวน้ำเป็นแล้วตายทุกคน แต่เราจะจะฉีดให้สัตว์เลี้ยงเป็นหลัก จะฉีดให้คนเป็นพิเศษถ้ามีอาชีพที่เสี่ยงต่อการถูกสุนัขหรือแมวกัด เช่นสัตว์แพทย์ และ บุรุษไปรษณีย์ สมมติว่าถ้าเราต้องซื้อวัคซีนโควิดเองมาฉีดให้คนในบ้านโดยมีเงินจำกัดไม่สามารถฉีดทุกคน ผมก็จะฉีดคนเฉพาะที่ออกไปทำงานนอก บ้านซึ่งเสี่ยงที่จะรับเชื้อกลับมาแพร่ให้คนในบ้าน ส่วน คุณทวด คุณย่า คุณยายที่เป็นโรคเรื้อรังจะฉีดใหh เงินมากพอเท่านั้น
สรุปว่า ผมยังเห็นด้วยกับทางภูเก็ตเรื่องฉีดวัคซีนอยู่นะครับจะขอรัฐบาลให้ฉีดพนักงานท่องเที่ยวทั่วประเทศก่อน หรือ จะหาซื้อวัคซีนหาหมอมาฉีดโดยกระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบแล้วก็แล้วแต่ คุยกันให้ดีก็แล้วกัน
แต่ขอย้ำวกันว่าที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง คือ การกดดันให้รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวที่มีหลักฐานว่าฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาประเทศไทยโดยไม่กักตัว อย่างที่ได้เรียนให้ทราบแล้วว่าวัคซีนไม่ได้ป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และยังไม่รู้ว่าป้องกันการแพร่เชื้อได้แค่ไหน ตอนนี้ในยุโรปเริ่มมีคนทำหลักฐานเท็จกันมากขึ้น มีเชื้อกลายพันธุ์จากแอฟริกา และอังกฤษรอเข้ามาเมืองไทยอยู่มาก ถ้าท่านปล่อยให้พวกนี้เข้ามาง่าย ๆ ท่านมีโอกาสต้องปิดเกาะภูเก็ต ที่อาจจะยาวกว่าเดิมอีกก็ได้
อย่าหาว่าหล่อไม่เตือน
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากไทยรัฐ