"...ไทย จองวัคซีนทั้งหมด 63 ล้านโดส ครอบคลุมประชาชน จำนวน 31.5 ล้านคน คิดเป็น 45.2% ของประชากรทั้งหมด แบ่งเป็น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส และวัคซีนซิโนแวค 2 ล้านโดส..."
...................................................................
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : กระทรวงการอุดมศึกษาา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดทำข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
พบว่า ขณะนี้มีรายงานประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว รวม 555,115 โดส ใน 3 ประเทศ ประกอบด้วย 1.สิงคโปร์ เริ่มฉีดครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2564 รวมสะสมผู้ฉีดวัคซีน จำนวน 113,050 ราย คิดเป็น 1.98% ของประชากรทั้งหมด 2.อินโดนีเซีย ฉีดครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2564 รวมสะสมผู้ฉีดวัคซีน จำนวน 373,786 ราย คิดเป็น 0.14% ของประชากรทั้งหมด 3.เมียนมา ฉีดครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ม.ค.2564 รวมสะสมผู้ฉีดวัคซีน จำนวน 68,279 ราย คิดเป็น 0.13% ของประชากรทั้งหมด
สำหรับ สถานการณ์การจองซื้อวัคซีนโควิดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
1. สิงคโปร์ ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลการจองวัคซีนออกสู่สาธารณะ แต่คาดว่าจะครอบคลุมประชากรคิดเป็น 5-80% ของประชากรทั้งหมด โดยขณะนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 113,050 โดส และเตรียมจองซื้อวัคซีนนอกเหนือจากวัคซีนไฟเซอร์ด้วย
2. อินโดนีเซีย จองวัคซีนทั้งหมด 225 ล้านโดส ครอบคลุมประชาชน จำนวน 133.3 ล้านคน คิดเป็น 50% ของประชากรทั้งหมด แบ่งเป็น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 100 ล้านโดส วันซีนซิโนฟาร์ม 60 ล้านโดส วัคซีนซิโนแวค 50 ล้านโดส และวัคซีนแคนไซโน 15 ล้านโดส
ทั้งนี้ได้รับวัคซีนล็อตแรกจากซิโนแวค 3 ล้านโดส เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2563 และตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากร 180 ล้านคน ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564
3.เมียนมา จองวัคซีนทั้งหมด 32.3 ล้านโดส ครอบคลุมประชาชน จำนวน 16 ล้านคน คิดเป็น 30% ของประชากรทั้งหมด แบ่งเป็น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 32 ล้านโดส และวัคซีนของจีน 300,000 โดส
ทั้งนี้เริ่มฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งผลิตโดย Serum Institute of India ที่บริจาคให้ 1.5 ล้านโดสไปแล้ว เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2564 และตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนครอบคลุม 30% ของประชากรทั้งหมดภายในกลางปี 2564
4.ไทย จองวัคซีนทั้งหมด 63 ล้านโดส ครอบคลุมประชาชน จำนวน 31.5 ล้านคน คิดเป็น 45.2% ของประชากรทั้งหมด แบ่งเป็น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส และวัคซีนซิโนแวค 2 ล้านโดส
ทั้งนี้จะเริ่มฉีดวัคซีนวันที่ 14 ก.พ. 2564 และคาดว่าจะฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชน จำนวน 33 ล้านคน คิดเป็น 50% ของประชาชนทั้งหมดภายในปี 2564 โดยจะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าล็อตแรกประมาณ 50,000-150,000 โดส ขณะเดียวกันจะได้รับวัคซีนซิโนแวคในเดือนกุมภาพันธ์เช่นเดียวกัน ขณะที่วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศไทยจะส่งมอบในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564
5.มาเลเซีย จองวัคซีนทั้งหมด 25.6 ล้านโดส ครอบคลุมประชาชน จำนวน 15 ล้านคน คิดเป็น 46.1% ของประชากรทั้งหมด แบ่งเป็น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 6.4 ล้านโดส วัคซีนไฟเซอร์ 12.8 ล้านโดส และวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์ (Covax) 6.4 ล้านโดส
ทั้งนี้จะเริ่มฉีดวัคซีนวันที่ 26 ก.พ.2564 โดยตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนครอบคลุมประชาชน 60% ของประชากรทั้งหมดภายในกลางปี 2564 และจะครอบคลุมประชากร 80% ภายในปี 2564
6.ฟิลิปปินส์ จองวัคซีนทั้งหมด 67 ล้านโดส ครอบคลุมประชาชน จำนวน 38.9 ล้านคน คิดเป็น 36.2% ของประชากรทั้งหมด แบ่งเป็น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 17 ล้านโดส วัคซีนโนวาแวค 30 ล้านโดส วัคซีนโมเดอร์น่า 20 ล้านโดส และวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์ (Covax) 40 ล้านโดส
ทั้งนี้จะได้รับวัคซีนล็อตแรกจำนวน 1 ล้านโดส ประกอบด้วย วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 200,000-500,000 โดสและวัคซีนซิโนแวค 500,000 และอีกจำนวนหนึ่งจากบรษัทไฟเซอร์ โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนในเดือน ก.พ.2564 และตั้งเป้าหมายการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากร 70% ของประชากรทั้งหมด ภายใน 2564
7.เวียดนาม จองวัคซีนทั้งหมด 30 ล้านโดส ครอบคลุมประชาชน จำนวน 19.8 ล้านคน คิดเป็น 20.6% ของประชากรทั้งหมด แบ่งเป็น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 30 ล้านโดส
ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายพัฒนาวัคซีนภายในประเทศชื่อว่า "นาโนโคแวค (Nanocovax)" ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 2 และมีแผนเปิดตัวภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตหลายรายจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ รัสเซีย และจีน อย่างไรก็ตามเวียดนามอาจจะได้รับวัคซีนแล้วจากบางแหล่ง แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยัน
8.กัมพูชา จองวัคซีนซิโนฟาร์มทั้งหมด 1 ล้านโดส ครอบคลุมประชาชน จำนวน 800,000 คน คิดเป็น 5% ของประชากรทั้งหมด
ทั้งนี้มีกำหนดรับวัคซีนซิโนฟาร์มล็อตแรกจำนวน 300,000 โดสในเดือน ก.พ.2564 และจัดหาวัคซีนผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) โดยตั้งเป้าหมายจะให้วัคซีนครอบคลุมประชากร 20% ภายในปี 2564
9.ลาว ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลการของวัคซีน แต่คาดว่าจะครอบคลุมประชากร 400,000 คน คิดเป็น 5% ของประชากรทั้งหมด ทั้งนี้ได้รับวัคซีนปริมาณเล็กน้อยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูงจากรัสเซียและจีน และตั้งเป้าจัดหารวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร 20% ของประชากรทั้งหมด ภายในกลางปี 2564 ผ่านฌครงการโคแวกซ์
10.บรูไน ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลการของวัคซีน แต่คาดว่าจะครอบคลุมประชากร 20,000 คน คิดเป็น 5% ของประชากรทั้งหมด ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากร 70% ของประชากรภายในปี 2564 โดยจะแบ่งการฉีดวัคซีนเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 จะให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและบุคลากรการแพทย์ในไตรมาสที่ 2 , ระยะที่ 2 จะให้กลุ่มเสี่ยงปานกลางและผู้ปฏิบัติงานอื่นๆ ที่จำเป็นในไตรมาสที่ 2-3 , ระยะที่ 3 จะให้ประชาชนทั่วไปในไตรมาสที่ 3-4
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage