'สาทิตย์'เผย 1 สัปดาห์สภาอนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงิน พบหน่วยงานแห่ขอใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ 3.1 หมื่นโครงการ วงเงินรวม 7.8 แสนล้านบาท ห่วงใช้งบไม่ตรงวัตถุประสงค์ หลังพบตั้งงบขอซื้อโทรทัศน์-ทำป้ายประชาสัมพันธ์-ปรับภูมิทัศน์
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติด่วน เรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณและมาตรการแก้ไขปัญหาภายใต้วิกฤติการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ประชาธิปัตย์ อภิปรายเหตุผลความจำเป็นในการตั้ง กมธ. พร้อมแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการใช้งบประมาณไม่ตรงวัตถุประสงค์ของเงินกู้
นายสาทิตย์ กล่าวว่า กมธ.ชุดนี้ต้องทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบว่าโครงการที่มีการอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรีว่าจะตรงตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.ก.เงินกู้วงเงิน 1 ล้านล้านบาทตามที่สภาอนุมัติหรือไม่ อย่างไรก็ตามการเสนอขอโครงการเริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่บอกว่ามีความไม่ชอบมาพากล ดังนั้น กมธ.ที่จะตั้งขึ้นจำเป็นต้องทำงานหนักมาก ระหว่างที่สภากำลังพิจารณาขณะนี้ ก็มีหนังสือชี้แจงไปทุกจังหวัดให้เสนอขอโครงการไปที่คณะกรรมการกลั่นกรองที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อย่างไรก็ตามในการอภิปรายกฎหมายฉบับดังกล่าว ตนเคยพูดว่า เงื่อนไขในการใช้เงิน 4 แสนล้านบาทค่อนข้างกว้าง อาจทำให้มีการหยิบโครงการเก่าขึ้นมาปัดฝุ่น
“ที่น่ากังวลที่สุดก็คือเป็นการตกลงกันระหว่างจังหวัดกับผู้รับเหมา แทนที่จะตรงตามวัตถุประสงค์ว่าต้องการสร้างงาน สร้างรายได้ แต่กลับกลายเป็นการสร้างงานให้กับผู้รับเหมาหรือสร้างรายได้ให้กับผู้มีอิทธิพลต่อผู้รับเหมาในท้องถิ่นนั้นๆไป ซึ่งจะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์กับกฎหมายฉบับนี้” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ในเว็บไซต์ไทยมี ซึ่งจัดทำขึ้นโดย สศช.เพื่อใช้รายงานความคืบหน้าการขอใช้เงินกู้ ข้อมูล ณ วันที่ 9 มิ.ย. พบว่า มีผู้เสนอขอใช้เงินมาแล้ว 31,801 โครงการ วงเงินรวม 783,348 ล้านบาท สัปดาห์เดียวหลังจากสภาอนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงิน ทุกพื้นที่ก็เสนอขอโครงการจนเกินกรอบวงเงินไปเกือบเท่าตัว และเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากในขณะนี้ เพราะมีความไม่ชอบมาพากลเพราะมีโครงการที่เสนอเข้ามามีรูปแบบหลากหลายเช่นกัน
“กู้เงินไปซื้อโทรทัศน์ก็มี เสนอโครงการ 3 หมื่นกว่าบาท หลายโครงการด้วย ทำป้ายก็มี มีโครงการหลายที่กลายเป็นเรื่องปรับภูมิทัศน์ ชัดเจนว่า อาจจะมีบริษัทรับเหมาเข้าไปทำสิ่งเหล่านี้เป็นต้น บางสื่อก็นำเสนอว่าโครงการเท่ากันไปหมด ดังนั้น กมธ.ชุดนี้จึงมีความจำเป็นอย่างมาก” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ตนมี 2 ข้อเสนอในการใช้เงินกู้นี้ คือ 1.สำหรับโครงการที่ต้องการทำให้เกิดการสร้างงาน สร้งารายได้ เห็นควรให้รัฐบาลเป็นผู้จัดทำโครงการให้กับท้องถิ่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาปัดฝุ่นโครงการเก่ามาเสนอใหม่ และ 2.ขอให้ กมธ.ที่จะจัดตั้งขึ้น ทำงานคู่ขนานกับการทำงานของคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการกลั่นกรอง โดยขอให้มีอำนาจในการชะลอหรือขอให้ทบทวนโครงการได้ด้วย ซึ่งคิดว่าจะช่วยทำให้เงินกู้ถูกใช้ตรงกับวัตถุประสงค์ทีรัฐบาลและสภาที่ได้พิจารณามาแล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/