"...วิกฤตโควิด-19 เที่ยวนี้ ก็ทำให้ได้เห็นความสำคัญของความ “พอเพียง” กันอีกครั้งหนึ่ง ในแง่ที่จะอาศัยแต่เพียง “ตลาด”โดยเฉพาะ “ตลาดโลก” มาจัดหาหยูกยา วัคซีน วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ ไม่ได้ ในยามที่วิกฤตเกิดทั้งโลกนั้น ถึงเรามีเงิน เขาก็ต้องเก็บ”ของ” ไว้ใช้กันเอง ไม่ยอมขายให้เรา เงินทองกลายเป็น “มายา” ไปอีกรอบ และ “หยูกยา” ต่างหาก คือ “ของจริง”..."
เมื่อคราววิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 เราได้เห็นความสำคัญของชนบทและภาคเกษตร ที่รองรับคนว่างงานจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ความลำบากในยามนั้น ทำให้เราคิดกันได้ว่า เงินทองนั้นเป็นเพียง “มายา” ข้าวปลาอาหารต่างๆ คือ “ของจริง” แม้อยาก “ทันโลก” อยาก “รุ่งเรือง” ปานใด ก็จะทิ้งภาคเกษตร-อาหารไม่ได้
วิกฤตโควิด-19 เที่ยวนี้ ก็ทำให้ได้เห็นความสำคัญของความ “พอเพียง” กันอีกครั้งหนึ่ง ในแง่ที่จะอาศัยแต่เพียง “ตลาด”โดยเฉพาะ “ตลาดโลก” มาจัดหาหยูกยา วัคซีน วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ ไม่ได้ ในยามที่วิกฤตเกิดทั้งโลกนั้น ถึงเรามีเงิน เขาก็ต้องเก็บ”ของ” ไว้ใช้กันเอง ไม่ยอมขายให้เรา เงินทองกลายเป็น “มายา” ไปอีกรอบ และ “หยูกยา” ต่างหาก คือ “ของจริง”
สักวันสองวันที่ผ่านมานี้ ก็มีข่าวดีว่ากองทัพเรือประดิษฐ์เครื่องขนส่งผู้ป่วยที่มี “ความดันลบ” สำหรับขนส่งผู้ป่วยโควิด-19 ได้ เป็นแบบง่ายๆ อาศัยประสบการณ์ของทหารเรือในการทำอุปกรณ์ดำน้ำ ผมลองคุยกับหมอๆ ทั้งหลายดู ก็ไม่แน่ใจว่า เขาจะใช้ “ของใน” แทน ”ของนอก” กันโดยง่าย ไหม
ก็ด้วยวิธีคิดกัน “แบบเดิม” นั่นแหละ แทนที่จะพากันตื่นเต้น และวางแผนให้เกิดห้องความดันลบแบบ “เมด อิน ไทยแลนด์” ให้จงได้ แพงหน่อยก็ต้องทำ รัฐต้องวางแผนสนับสนุน แม้ไม่ดีหน่อย เราก็ให้โอกาส ให้ปรับปรุงไป ทำให้การแพทย์-สาธารณสุขของไทยไม่เพียงจะ “ทันสมัย” หรือ “เก่งระดับโลก” อย่างที่คุยกันอยู่ แต่ยังจะ ”พอเพียง-พึ่งตนเอง” ได้มากขึ้น ด้วย แน่นอน ครับ เราย่อมไม่ปิดกั้นการเอาต่างชาติมาร่วมทำร่วมลงทุน เพียงเราต้องเป็นหุ้นใหญ่ และผลิตใช้ในประเทศเป็นสำคัญ ในยามคับขัน ก็ห้าม “ส่งออก” ได้ และ เรานั้นไม่ปฏิเสธ “ ตลาด” แต่ก็ไม่อาศัยเพียง “ตลาด” และระบบ “โลกาภิวัตน์” มาจัดหาหรือจัดสร้างหยูกยา และอุปกรณ์การแพทย์-สาธารณสุขที่สำคัญ
ก่อนหน้าเรื่องนี้ ก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ผลิตเครื่องช่วยหายใจแบบง่ายๆ ขึ้นมาได้ มีคนชื่นชมและให้กำลังใจมากมาย แต่ก็มีคุณหมอจำนวนหนึ่ง ทั้งที่ยังไม่เห็นเครื่อง ก็อดเป็นห่วงก่อนว่ามาตรฐานอาจจะไม่ถึง ช่วยชีวิตไม่ได้จริง หากคิดแบบเดิม คุณหมอ และคุณพยาบาล ย่อมไม่ค่อยอยากลอง เพราะ ยัง”สู้ของนอกไม่ได้”
เรามีวิศวกร ช่างฝีมือ นักประดิษฐ์ที่มีความสามารถไม่น้อย วิกฤตโควิดที่เกิดแทบทั้งโลกเช่นนี้ รัฐบาลและสังคมต้องเปลี่ยนหลักคิด พลิกวิกฤตมาเป็นโอกาส เวลานี้เห็นชัดว่าเราอยู่แถวหน้าของโลกทางอาหารและทางแพทย์-สาธารณสุข อีกในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ อาหารรวมทั้งข้าวจะแพง หายากกันทั้งโลก ถ้าเราทำเป็น ทำทัน ไม่สาละวนกับไวรัสเพียงอย่างเดียว ดูน้ำให้ดี เร่งทำการเพาะปลูก จะมีรายได้มหาศาลกัน แต่อย่าลืม: คนไทยเองต้องมีอาหารพอเพียงด้วย ขณะเดียวกัน ได้เห็นแล้วว่าการแพทย์-สาธารณสุขของเรานั้นดีจริง แต่ก็ต้องเปลี่ยนให้ “พึ่งตนเอง” ให้ได้มากขึ้น
สุดท้าย ภาคท่องเที่ยว ที่เคยทำรายได้ให้ประเทศมากมายนั้น ก็ต้องฟื้นขึ้นมา อย่าปล่อยให้ฟุบอยู่นานเกินไป เฉพาะหน้านี้ อาจทำ “การท่องเที่ยวเชิงสุขอนามัย” เป็นที่ “กักเก็บตัว” ที่สะดวกสบายของคนชั้นกลางชั้นสูงทั่วโลก โดยชี้ให้โลกเห็นว่า นักท่องเที่ยวเหล่านั้น จะได้อยู่กับระบบการแพทย์และสุขอนามัยที่ดีในระดับโลก ด้วย
ทั้งหมดนี้มีรายละเอียด ซึ่งต้องคิดกันต่อไป ฝรั่งมักจะพูดว่าถ้าจะตามหา “พระเจ้า” มาช่วยทำเรื่องแสนยากแสนยุ่งให้เกิดขึ้นได้นั้น จะไปหาท่านได้ที่ไหน คำตอบ: ท่านสถิตย์อยู่ในสิ่งที่เรียกว่า “รายละเอียด” อยู่แล้วครับ ฉะนั้นช่วยกันคิดต่อไปด้วยนะครับ
ที่มา: https://www.facebook.com/914519875360345/posts/2143378239141163/?d=n