"...ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบสถาบันการเงิน-เงินตรา ถึงปี 2025 นั้น มีทั้งหมด 4 ยุทธศาสตร์ ดังต่อไปนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 รักษาเสถียรภาพด้านการเงินให้มั่นคงยาวนาน ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาระบบสถาบันการเงิน-เงินตราให้เข้มแข็งและมั่นคง ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาระบบการชำระแห่งชาติให้เป็นศูนย์กลางการชำระที่ทันสมัยปละปลอดภัย ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาระบบพื้นฐานโครงร่างของระบบสถาบันการเงิน-เงินตรา ให้สอดคล้องกับหลักการสากล และเงื่อนไขของประเทศ..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา นางวัดทะนา ดาลาลอย รองผู้ว่าการธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (BOL) กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ แผนยุทธศาสตร์ของธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ โรงแรมแกรนด์หลวงพระบาง เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในหัวข้อ วิสัยทัศน์ถึงปี 2030 และยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และเงินตรา ถึงปี 2025 เนื่องในงาน BOT Press Trip 2019 จัดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. : BOT)
วิสัยทัศน์ถึงปี 2030
สิ่งที่ BOL กำหนดแผนสิ่งที่จะทำในช่วงระยะเวลาปัจจุบันถึงปี ค.ศ. 2030 ในภาพรวมว่า จะรับประกันเสถียรภาพด้านเงินตราในประเทศให้มีความมั่นคง อีกทั้ง พัฒนาระบบสถาบันการเงินและเงินตราให้มีความเข้มแข็งสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
ส่วน ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบสถาบันการเงิน-เงินตรา ถึงปี 2025 นั้น มีทั้งหมด 4 ยุทธศาสตร์ ดังต่อไปนี้
ยุทธศาสตร์ที่ 1 รักษาเสถียรภาพด้านการเงินให้มั่นคงยาวนาน
1) มีกลไกการคุ้มครองเงินตราระดับมหภาคที่เป็นระบบและดำเนินการได้รวดเร็ว
2) พัฒนาตลาดเงินให้สามารถเป็นเครื่องมือบริหารสภาพคล่องของระบบสถาบันการเงิน-เงินตรา อย่างมีประสิทธิผล
3) ค้นคว้าและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
4) สร้างกลไกการประสานงานด้านเศรษฐกิจมหภาคระหว่างภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ให้มีความเป็นเอกภาพและเชื่อมโยงกันอย่างสามัคคีกัน
ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาระบบสถาบันการเงิน-เงินตราให้เข้มแข็งและมั่นคง
1) ยกระดับคุ้มครองธนาคารธุรกิจ (ธนาคารพาณิชย์) ด้วยหลักการบาเซล 2 และบางมาตรการของบาเซล 3 ภายในปี 2025 พร้อมทั้งมีกลไกการประเมิน ติดตาม และตรวจตรา อย่างเป็นระบบเต็มรูปแบบและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
2) ผลักดันให้ธนาคารธุรกิจปรับปรุงโครงสร้างให้มีความมั่นคงและเข้มแข็ง มุ่งสร้างธนาคารธุรกิจ 1 แห่ง ให้ได้มาตรฐานธนาคารอาเซียน QAB. อีกทั้ง ปรับปรุงโครงสร้างธนาคารธุรกิจรัฐและธนาคารเฉพาะกิจให้ขับเคลื่อนอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ
3) พัฒนาศูนย์ข้อมูลข่าวสารสินเชื่อ (CIB) และศูนย์บริการด้านการเงิน
4) สร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร เพื่อสร้างเงื่อนไขให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้มากขึ้น
5) สร้างความเข้มแข็งให้ตลาดทุน มีการขยายตัวและรับประกันการเชื่อมโยงกับภูมิภาคและสากล
6) ค้นคว้าและสร้างองค์กรการออมให้ครบถ้วน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบสถาบันการเงิน-เงินตรา
ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาระบบการชำระเงินแห่งชาติให้เป็นศูนย์กลางการชำระที่ทันสมัยและปลอดภัย
1) สร้างให้ระบบการชำระแห่งชาติให้มีลักษณะรวมศูนย์และกระจายทั่วถึง สามารถรองรับการชำระที่หลากหลาย มีความปลอดภัย และเที่ยงตรงด้านเวลา
2) เชื่อมโยงตู้ ATM ให้ทั่วถึงระบบธนาคาร
3) ปรับปรุงโครงสร้างธนบัตรให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา พร้อมทั้งเอาใจใส่ในการตรวจสอบปริมาณธนบัตรให้ทั่วถึงและสะดวกยิ่งขึ้น
ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาระบบพื้นฐานโครงร่างของระบบสถาบันการเงิน-เงินตรา ให้สอดคล้องกับหลักการสากล และเงื่อนไขของประเทศ
1) ค้นคว้าพัฒนาระบบพื้นฐานโครงร่างของระบบสถาบันการเงิน-เงินตรา อย่างมีเป้าหมาย และเป็นระบบต่อเนื่อง ให้มีความเพียงพอทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบการรวมข้อมูล ระบบการรายงานสถิติ และระบบการติดตามสถานะทางการเงินอย่างชัดเจนและเหมาะสม
2) พัฒนาอุปกรณ์ให้สามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว มีประสิทธิภาพสูง และคุ้มค่า รวมทั้ง บริหารบุคคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างเงื่อนไขในการยกระดับพนักงาน
3) ค้นคว้า ปรับปรุง และสร้างเงื่อนไขการยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของการดำเนินงานสถาบันค้นคว้าภาคการธนาคาร การดำเนินงานพัฒนาบุคคลากรให้เติบโตขยายตัวในเงื่อนไขที่มีการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคและสากล
ทั้งนี้ BOL ยังมียุทธศาสตร์เพิ่มเติมในปี 2020-2025 อีก 2 ประการ คือ
1) พัฒนาการเข้าถึงบริการทางด้านการเงินอย่างทั่วถึงภายในประเทศ และ 2) มุ่งมั่นสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันการเงินระดับจุลภาค (micro-finance) ด้วย
นางวัดทะนา ดาลาลอย รองผู้ว่าการธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (BOL) และ ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
ภาพจาก : ธนาคารแห่งประเทศไทย