"...ในเรื่องทางธุรกิจ ไม่มีผลกระทบ แต่สำหรับตัวดิฉันเอง ได้มีการเปิดเผยชื่อจริง นามสกุลจริง สถานที่ทำงาน และมีคนบางกลุ่มเข้ามาคุกคามดิฉันว่าให้จบเรื่องนี้ไป ไม่งั้นจะมีเรื่องใหญ่กลับมา ถามว่ากลัวไหม ก็กลัว แต่สำหรับธุรกิจก็ไม่มีอะไร เพราะเชื่อมั่นว่าเมื่อทางผู้ว่าฯและรองผู้ว่าฯ เมื่อเห็นคดีแล้วมันไม่ใช่คดีใหญ่โต แล้วก็มีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งตัวดิฉัน ตัวบริษัท ฝ่ายกฎหมาย ต่างก็เชื่อว่าเราต้องได้รับความเป็นธรรมจากทางผู้ว่าฯและรองผู้ว่าฯแน่นอน..."
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีผู้นำคลิปเสียงสนทนาความยาวกว่า 21 นาที ของผู้หญิงรายหนึ่ง ชื่อ การ์ตูน ระบุสถานะตนเองในคลิปเสียงว่า เป็นลูกน้องนักธุรกิจชาวต่างประเทศ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกระทำความผิดบุกรุกที่สาธารณะในจังหวัดภูเก็ต กับอัยการรายหนึ่ง กำลังเจรจาต่อรองเรื่องการจ่ายเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการช่วยวิ่งเต้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ทำความเห็นแย้งเห็นตามความเห็นของอัยการที่จะไม่สั่งฟ้องคดีนี้ ในวงเงิน 10 ล้านบาท ไปร้องเรียนต่ออัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2562 ที่ผ่านมา ผู้หญิงรายนี้ หรือที่มีชื่อว่า 'การ์ตูน' ได้ไปออกรายการตอบโจทย์ ทางช่องโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดยมีผู้ดำเนินรายการ คือ นายวราวิทย์ ฉิมมณี
สำนักข่าวอิศรา ได้ถอดรายละเอียดการให้สัมภาษณ์ของ 'การ์ตูน' มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบ โดยมีรายละเอียดดังนี้
/////////
ผู้ดำเนินรายการ : ทำไมถึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้
การ์ตูน: ก็อยากจะชี้แจงให้ทางสื่อทราบว่าสิ่งที่ทำนั้นก็เพื่อดูแลและปกป้องบริษัท และชีวิตของตัวเองที่อยู่ที่นี่ และอยากจะชี้แจงว่าไม่ได้มีการกลั่นแกล้งใคร
ผู้ดำเนินรายการ : ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ทำไมคุณถึงไปพบกับบุคคลนี้
การ์ตูน: "เดิมที่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการ จ.ภูเก็ต บอกให้ดิฉันไปพบอัยการจังหวัด พอวันที่ 2 กรกฎาคม ดิฉันก็ได้ไปพบกับอัยการเวลา 10.00 น. หลังจากนั้นดิฉันก็ได้พบกับอัยการจังหวัดและอัยการท่านหนึ่ง พอเข้าไปในห้องอัยการแล้ว เขาก็แจ้งว่าคดีนี้ทางอัยการภาคส่งมา และบอกว่าทางตำรวจเขามีความเห็นแย้งมาเราก็รับฟัง"
"อัยการอีกท่านหนึ่งที่อยู่ในห้องนั้นซึ่งไม่ใช่อัยการจังหวัดเขาก็เล่าว่าคดีนี้มันยังไม่เป็นที่สิ้นสุด มันเป็นแบบนี้ๆ สิ่งที่อธิบดีอัยการฟ้องมาเป็นการที่ดิฉันคงต้องไปคุยกับทางอธิบดีอัยการ แล้วเขาก็บอกว่า อสส.(อัยการสูงสุด) เขาฟ้องแน่ ซึ่งเขาจะฟ้องก็คงต้องผ่านไปทางผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งอัยการท่านนี้ก็แจ้งมาว่าตัวเขาเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด ตัวภรรยาก็เป็นเลขานุการให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด หลังจากนั้นคนที่เป็นอัยการจังหวัดก็แจ้งว่าถ้าไม่อยากให้เรื่องมันไปไกลขนาดนั้น เพราะยังไงก็ตามตัวผู้ว่าราชการจังหวัดก็ต้องทำความเห็นแย้งแน่ พอไปถึง อสส. ก็คงจะทำความเห็นแย้งออกมาเช่นกัน ตามที่อัยการอีกท่านหนึ่งพูด เพราะอัยการท่านนั้นแจ้งว่าตัวเขามีความสนิทสนมกับผู้ใหญ่ระดับสูงใน อสส.ท่านหนึ่ง ดิฉันก็กลัว"
"ในวันนั้นอัยการจังหวัดก็พูดต่อว่าถ้าไม่อยากให้เรื่องมันแก้ไขไม่ได้ ก็ต้องดูแลผู้ว่าราชการจังหวัด ดิฉันก็ถามว่าเท่าไรล่ะ ท่านก็ไม่ได้ตอบให้ดิฉันคิดเอง ฉันก็บอกไปประมาณเท่าไรดิฉันไม่รู้ ท่านก็เลยตอบมาว่าเริ่มแรกเดิมที่เจ็ดหลัก"
/////////
ผู้ดำเนินรายการ : ถ้าเราฟังจากคลิปในห้องทำงาน เขายังไม่ได้พูดเรื่องตัวเลข
การ์ตูน: "เขาพูดแค่ว่า 7 หลัก แต่ตอนที่พูดว่า 7 หลักนั้น ดิฉันไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้"
ผู้ดำเนินรายการ : พอเราบันทึกเสียงในห้องประชุมออกมาแล้ว รู้ตัวหรือไม่ว่าแบบนี้คือการเรียกรับผลประโยชน์
การ์ตูน: "ใช่ค่ะ แล้วดิฉันยังบอกว่าตอบไม่ได้ ขอเวลาถึงวันที่ 5 เพื่อนำเรื่องนี้ไปเสนอเจ้านาย พอมาถึงวันที่ 5 ทางอัยการจังหวัดก็โทรมา ดิฉันก็บอกว่าเอาอย่างนี้ดีกว่า เจ้านายยังไม่กลับมา จะกลับมาวันที่ 19 ขอให้ดิฉันพูดกับเจ้านายต่อหน้าดีกว่าว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะเจ้านายเขาทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศอยู่ เดี๋ยวจะตกใจ"
"พอวันที่ 19 ท่านก็โทรมาอีก คือ ท่านโทรมาเยอะมากในระยะเวลาที่ผ่านมา จนดิฉันรู้สึกว่าไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ในระหว่างนั้นดิฉันไปปรึกษากับหลายคนว่าเรื่องนี้อธิบดีท่านสั่งมาแล้ว แล้วทำไมเราจะต้องมานั่งให้อัยการพวกนี้ช่วยเหลือเรา แล้วเขาจะเอาไปให้ผู้ว่าฯจริงหรือ ทางผู้ใหญ่ที่เจอก็บอกว่าไม่จริงหรอก เราก็บอกว่าท่านผู้ว่าฯจะรู้ไหม หลายๆท่านก็พูดว่าไม่รู้หรอก เรื่องนี้ยังอยู่ที่สำนักงานอัยการอยู่เลย หลังจากนั้นเขาโทรมาวันที่ 20 ทางผู้ใหญ่ทางฝั่งเราก็บอกว่างั้นก็ให้ถามจริงจังเลยว่าคุณเอาไปให้ใครกันแน่ เขาก็ยืนยันว่าเอาไปให้ผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ เราก็บอกว่าแล้วจะถึงท่านผู้ว่าฯหรอ ตามคลิป ก็มีการยืนยันยอดกันใหม่ก็เป็นเลข 7 หลัก 2 ตัว ดิฉันก็ตอบไปถามว่าจะต้องจ่ายไหม เรียนตามตรงดิฉันไม่จ่ายหรอก ที่ดิฉันอัดคลิปไว้ ความต้องการของดิฉันก็แค่จะป้องกันตัว แล้วถ้าวันหนึ่งเขารังแกเรามา เราก็จะได้ไปยืนยันกับทางผู้บังคับบัญเขาได้ว่าอัยการของท่านนั้นมีพฤติกรรมแบบนี้"
ผู้ดำเนินรายการ : คลิปเสียงที่ 2 ที่เป็นเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ อัดวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ระหว่างวันที่ 2 ที่ไปพบเขาครั้งแรกก่อนวันที่ 20 เขาก็มีการโทรมาเป็นระยะๆ
การ์ตูน: "ถูกต้องค่ะ ดิฉันก็ไม่ได้รับ ให้เลขานุการส่วนตัวรับบ้าง ก็พยายามจะหลบเลี่ยงหนี แต่สุดท้ายจริงๆเราหนีปัญหาไม่ได้ เราต้องคุยกันให้ชัดเจนและต้องมีหลักฐานให้ชัดเจนเพื่อที่จะไปคุยกับหน่วยงานของเขา"
ผู้ดำเนินรายการ : ในคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ที่ผมได้ยิน ฟังความได้ว่าเราพยายามจะต่อรองเหมือนกับเราถ้าได้ราคาที่ดีกว่าเช่นสี่ล้านหรือห้าล้าน ทางบริษัทจะยอมจ่ายหรือไม่ ถ้าได้ราคาที่เหมาะสม
การ์ตูน: "ไม่จ่ายค่ะ เพราะว่าทางท่านอัยการจังหวัดพูดไม่ยอมวางเลย ดิฉันก็ไม่รู้ว่าจะต่อไปอย่างไร ท่านก็จะเอาคำตอบให้ได้ แล้วก็บอกต้องรีบมา จนดิฉันนึกถึงข้อความหนึ่งได้ว่าต้องเอานาย ให้นายไปพบดีกว่า ไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้วางโทรศัพท์เสียที"
ผู้ดำเนินรายการ : ในคลิปเห็นมีการพูดถึงผลกระทบที่จะเกิดกับนักลงทุนต่างชาติด้วย เขาบอกว่าอย่างไร
การ์ตูน: "เขาบอกว่าการจ่ายครั้งนี้มันคือการซื้อความเสี่ยง ซึ่งยังไงก็ต้องฟ้อง เห็นแย้งแน่ ซึ่งนายคุณจะเข้าประเทศไม่ได้เลย มีปัญหาเรื่องการเดินทาง มีปัญหาในเรื่องการทำธุรกิจ ติดแบล็คลิสต์ (บัญชีดำ) โดนส่งตัวกลับ ถ้าหากมีความเห็นแย้งจาก อสส.ออกมา"
////////////
ผู้ดำเนินรายการ : ในแง่ของคดี ทางบริษัทประเมินแนวทางการต่อสู้ว่าอย่างไร คิดว่ามีความเสี่ยงที่จะต้องรับโทษ ต้องชดใช้ให้กับทางอุทยานหรือไม่ หรือคิดว่าเรามีหลักฐานมากพอที่จะต่อสู้ว่าแนวหญ้านี้มันไม่ใช่การรุกพื้นที่อุทยาน
การ์ตูน: "เราเชื่อมั่นในฝ่ายกฎหมายของเรา ประกอบกับเราได้ความเป็นธรรมจากทางอธิบดีอัยการภาค 8 คดีของเราไม่น่ากังวล เพราะว่าเป็นคดีแค่บุกรุกแผ้วถาง และตรงนั้นไม่ใช่บริษัทเราที่ถือครองอยู่ แต่เป็นของทางโรงแรมที่มีความสุ่มเสี่ยงมากกว่า แต่สุดท้ายแล้วเขาก็แจ้งมียังบริษัทเรา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรา"
ผู้ดำเนินรายการ : แต่ในสำนวนมันเป็นชื่อบริษัท เซ็นทรัล แอนด์ ซิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ส จำกัด
การ์ตูน: ใช่ค่ะ
ผู้ดำเนินรายการ : แต่ว่าเราก็จะต่อสู้ในเชิงเทคนิคว่าตกลงฟ้องถูกฟ้องผิด ใครปรับปรุงแนวหญ้าตรงนี้กันแน่
การ์ตูน: "ขออนุญาตค่ะ มันมีอีกประเด็นด้วยที่เขาพยายามจะทำให้ดิฉันกลัว เขามาแจ้งว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งดิฉันรู้ตัวอยู่แล้วว่าคดีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับดีเอสไอเลย มันเป็นคดีระหว่างดิฉันกับอุทยาน แต่ในการพบกันในวันที่ 2 เขาก็พยายามเชื่อมโยงเรื่องนี้"
ผู้ดำเนินรายการ : พอคลิปเสียงครั้งที่ 2 ที่เราได้คุยกับเขาแล้วได้มีการบันทึกเสียงสนทนาเอาไว้ ซึ่งก็คือวันที่ 20 กรกฎาคม แล้วมีการต่อรองเรื่องหลักเงินที่จะจ่าย พอหลังจากวางสายวันนั้นเราทำอย่างไรต่อ
การ์ตูน: "ก็โทรหาผู้ใหญ่ใน อสส.บอกเขาว่าเราโดนลักษณะแบบนี้ ยังไงก็ขอความช่วยเหลือ ก็เลยมีการส่งคลิปตัวนี้ให้กับ อสส.ทันทีในวันนั้น ต่อมาวันที่ 22 กรกฎาคม ก็มีโทรศัพท์มาว่าทางอัยการทั้ง 2 คนที่มีข้อพิพาทกับเรา เขารู้ตัวแล้ว และจะส่งสำนวนออกไปในวันที่ 23 กรกฎาคม ไปให้กับทางผู้ว่าฯ พอมาถึงวันที่ 31 กรกฎาคม ดิฉันก็ไปพบกับผู้ใหญ่ที่ดูแลการลงโทษอัยการที่สำนักงาน อสส.ที่กรุงเทพ โดยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง"
ผู้ดำเนินรายการ : หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ ก็เห็นข่าวว่าสำนักงาน อสส.เขาย้ายข้าราชการอัยการจำนวน 11 คน ซึ่ง 2 คนในนั้นเป็นคู่กรณีกับเรา
การ์ตูน: ใช่ค่ะ
/////////
ผู้ดำเนินรายการ : พอมันเป็นข่าวใหญ่ไปแล้วว่ามีประเด็นเรื่องการเรียกเงินสิบล้านบาทจากเรา ผลกระทบที่เกิดกับบริษัทหรือกับตัวคุณการ์ตูนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
การ์ตูน: "ในเรื่องทางธุรกิจ ไม่มีผลกระทบ แต่สำหรับตัวดิฉันเอง ได้มีการเปิดเผยชื่อจริง นามสกุลจริง สถานที่ทำงาน และมีคนบางกลุ่มเข้ามาคุกคามดิฉันว่าให้จบเรื่องนี้ไป ไม่งั้นจะมีเรื่องใหญ่กลับมา ถามว่ากลัวไหม ก็กลัว แต่สำหรับธุรกิจก็ไม่มีอะไร เพราะเชื่อมั่นว่าเมื่อทางผู้ว่าฯและรองผู้ว่าฯ เมื่อเห็นคดีแล้วมันไม่ใช่คดีใหญ่โต แล้วก็มีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งตัวดิฉัน ตัวบริษัท ฝ่ายกฎหมาย ต่างก็เชื่อว่าเราต้องได้รับความเป็นธรรมจากทางผู้ว่าฯและรองผู้ว่าฯแน่นอน"
ผู้ดำเนินรายการ : คุณการ์ตูนเคยบอกว่ามีโทรศัพท์แปลกๆเข้ามา เขาโทรมาหาใคร พูดเรื่องอะไรครับ
การ์ตูน: เขาโทรมาหาคนสนิทของดิฉัน บอกว่าให้หยุดเรื่องนี้ไป ให้เลิกแล้วต่อกัน เพราะว่าเป็นคนรู้จักของเขา ก็ไม่อยากให้เรื่องราวมันใหญ่โตไปกว่านี้
ผู้ดำเนินรายการ : เขาข่มขู่ด้วยวิธีอื่นๆอีกหรือไม่
การ์ตูน: "ดิฉันก็ให้คนไปสืบประวัติว่าเบอร์นี้เป็นใครมาจากไหน มีพื้นฐานเป็นอย่างไร มีพรรคพวกเป็นใคร ส่งให้ตำรวจหาข้อมูล"
ผู้ดำเนินรายการ : แล้วสุดท้ายพบข้อมูลว่าอย่างไร สำหรับคนที่เขาโทรเข้ามา
การ์ตูน: "สำหรับคนที่เขาโทรเข้ามา เขาน่าจะเป็นคนที่ช่วยเหลือคนไว้เยอะทั้งดีและไม่ดี เขาก็จะมีทีมของเขาที่จะแบบเป็นสีเทา และดิฉันก็พอรู้ประวัติว่ามีคนๆนี้ที่อยู่ในทีมของเขา เรามีอาการกลัวมากในวันแรกๆ ถึงขนาดว่าไปแจ้งความว่าถ้าครอบครัวเรา ลูกเราเป็นอะไรไป ก็ต้องเป็นเขา เพราะเขาขอแต่ทางอัยการคนนี้คนเดียว แต่ไม่ได้ขออัยการจังหวัด"
ผู้ดำเนินรายการ : สรุปก็คือบริษัทไม่ว่าจะเท่าไรก็ไม่จ่าย และพร้อมจะสู้คดีกันไป
การ์ตูน: "ไม่จ่าย ถ้าคดีนี้ท่านผู้ว่าฯมีความเห็นเป็นอย่างอื่นแล้วมันเป็นถึง อสส. ดิฉันก็พร้อมจะสู้คดีต่อไป แต่เรารับไม่ได้ที่จะมาใช้วิธีรีดไถแบบนี้"
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
แฉคลิปเรียก10ล.ชุดสอง! เรียกตัวพบห้องทำงาน อ้าง อสส. ตั้งธงฟ้องแล้ว มีอัยการนั่งคุย 2 ราย
อ้างทำแผลอยู่! อัยการคดีคลิป10 ล. ปัดแจง 'อิศรา' ด้าน คกก.สอบปากคำผู้ว่า-รองฯ ภูเก็ตแล้ว
แฉคลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10 ล.วิ่งเต้นผู้ว่าฯ ไม่สั่งฟ้องคดีรุกที่สาธารณะ
EXCLUSIVE : ฉบับเต็ม! คลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10ล.วิ่งเต้นคดีรุกที่สาธารณะ
โวยแอบอ้างชื่อ! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต มอบรองฯ แจ้งความร้องทุกข์ปมคลิปเสียงเรียกเงิน 10ล.
โชว์บันทึกตร.! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ร้องทุกข์คลิปเสียงแอบอ้างเรียก10ล. - ตัวละครเอกชื่อ 'การ์ตูน'
ก่อนโดนขอ10ล.! เปิดตัวเอกชนคลิปเรียกเงินล้มคดีรุกที่อุทยานฯสิรินาถ โชว์รายได้ 738 ล.
ขอพบผู้ว่าฯ ภูเก็ตแล้ว! อสส.ตั้งกก.สอบอัยการคลิปเรียกเงิน10ล.ภายใน30วัน-ย้ายด่วน 24ชม.