
"...การตรวจพบสาร เอโทมิเดต โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นประจักษ์พยานหลักฐานสำคัญ สนับสนุนนโยบายและมาตรการต่างๆของรัฐ ที่จะสร้างกลไกแก้ปัญหาทั้งป้องกันและปราบปราม เนื่องด้วยผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนถือเป็นความรุนแรงที่ไม่สามารถประนีประนอมได้..."
บุหรี่ไฟฟ้า เป็นปัญหาในสังคมไทย มีผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน นิโคตินทำให้ผู้ใช้เสพติด เป็นประตูสู่สารเสพติดและยาเสพติดต่อไป ไม่เพียงอันตรายจากนิโคติน แต่ยังมีสารอันตราย แต่งรส แต่งกลิ่น ผสมอยู่ ล้วนมีผลเสีย มีอันตรายต่อผู้เสพผู้ใช้รุนแรง
รัฐมีการปราบปรามแข็งขันต่อเนื่อง การปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล
แม้เปลี่ยนผ่าน ทั้ง เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนรัฐมนตรีที่ดูแล จนต่อมารัฐบาลปัจจุบัน ยังคงให้ความสำคัญ รัฐบาล นายกรัฐมนตรี นาย อนุทิน ชาญวีรกุล ยืนยันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า และ ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย รองนายกรัฐมนตรี นายโสภณ ซารัม ประกาศแก้ปัญหายาเสพติดและบุหรี่ไฟฟ้า มีนโยบายบูรณาการเพื่อเป้าหมายขจัดปัญหา คืนผู้เสพยาสู่สังคม ระดมทรัพยากรงบประมาณทุกหน่วยงานให้ใช้จ่ายตรงจุดตามข้อมูลแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ อย่างมีประสิทธิภาพ
การพบอันตรายในเด็กและเยาวชน จากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า โดยแพทย์ในโรงพยาบาลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อุบลราชธานี บุรีรัมย์ กาฬสินธ์ ทำให้เกิดข้อมูลจริงจากผู้ป่วยเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ การจับกุมต่อเนื่องผู้ผลิตผู้ขายได้สินค้าผิดกฎหมายจำนวนมหาศาล แสดงขนาดปัญหาที่มาจากอุปสงค์ (Supply) เหล่านี้ กระทำต่อเด็กและเยาชน ที่ถูกกระทำให้เป็นอุปทาน (Demand) จากการสร้างค่านิยมและแรงจูงใจที่ผิดเพื่อผลประโยชน์จากการขายสินค้าผิดกฎหมาย
เหตุการณ์ร้ายแรงรุนแรง มาเร็วกว่าที่คาดคิด
ตามข่าว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจจับ “เอโทมิเดต” ปนในบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ทุกภูมิภาค ระบุว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ตรวจพบการลักลอบผสม “เอโทมิเดต” ซึ่งเป็นยาสลบและวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ในบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะชนิดใช้แล้วทิ้ง หลังตรวจตัวอย่าง 83 ตัวอย่าง ระหว่าง ต.ค. 2567–มิ.ย. 2568 พบว่ากลุ่มที่ไม่มีฉลากหรือฉลากปลอม 56 ตัวอย่างมีการปนปลอมสารดังกล่าว พร้อมทั้งได้พัฒนาวิธีตรวจเฉพาะ และถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนการปราบปรามและปกป้องประชาชนจากอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าที่ปนสารอันตราย.
การตรวจพบสาร เอโทมิเดต โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นประจักษ์พยานหลักฐานสำคัญ สนับสนุนนโยบายและมาตรการต่างๆของรัฐ ที่จะสร้างกลไกแก้ปัญหาทั้งป้องกันและปราบปราม เนื่องด้วยผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนถือเป็นความรุนแรงที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ ปัจจุบันมีข่าวว่า รัฐบาลได้มีความริเริ่มจัดให้มีกลไกเชิงนโยยายกำกับดูแลแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างได้ผลจริงจัง
ในวันนี้ เป็นที่น่าชื่นชม ที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้สร้างเครื่องมือตรวจสารยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ เช่น อิโทมิเดต เป็น สัญญาณแจ้ง (Signal Generation) เพื่อเตือนภัย (Harninger) กรมวิทยาศาวตร์การแพทย์ ทำหน้าที่ ถอดรหัสความคลุมเครือของความสงสัย( Decoding Enigma) ในปัญหาการปลอมปนยาเสพติดในบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้มีความมั่นคงทางนโยบายที่รัฐจะใช้อำนาจงบประมาณและความร่วมมือ ต่อสู้กับปัญหาอย่างเด็ดขาด จริงจังและต่อเนื่องต่อไป
เมื่อพิจารณา การจับกุม ผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเสพติด ในวันที่ 21 มิย 2568
สืบนครบาล รวบหนุ่มสาวขายพอตเค สารภาพคนจีนสอนผสมยาเสพติด ก่อนส่งขายผ่านออนไลน์
ตามข่าวระบุว่า ตำรวจ บก.สส. บช.น. บุกจับเครือข่ายลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาผสมสารเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ พบของกลางเป็นหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า RELX จำนวนมาก พร้อมอุปกรณ์ผสม และผลตรวจเบื้องต้นบ่งชี้ว่าน้ำยาบางส่วนมีส่วนผสมของ ยาเสพติด ยาบ้า เมทแอมเฟตามีน ผู้ต้องหารวม 3 คนรับว่าได้รับคำสั่งจากชายชาวจีนให้ผสมน้ำยาแบบพ็อตเคและจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และข้อหาตาม พ.ร.บ.ศุลกากร จากการซ่อนเร้นสินค้าต้องห้าม พร้อมขยายผลว่าอาจเกี่ยวข้องกับเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติที่นำบุหรี่ไฟฟ้าผสมสารเสพติดมาปล่อยขายในไทยหรือไม่.
เหตุการณ์จับกุมนี้ สะท้อนว่า บุหรี่ไฟฟ้าได้ก้าวสู่ระยะที่มีการนำยาเสพติดมาผสมรวม เพื่อทำให้ผู้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นเด็กและเยาวชนเสพติดต่อเนื่องจากนิโคตินสู่แอมเฟตามีน เอโทมีเดต และ อื่นๆ ในข่าวระบุ ผู้ขายชาวไทยได้รับการสอนจากชาวจีนในวิธีกาานำยาเสพติดยาบ้าแอมเฟตามีนมาผสม ถือเป็น หลักฐานเชิงประจักษ์ที่แสดงความไม่กล้วเกรงทั้งกฎหมายบ้านเมืองตลอดจนไม่สนใจใยดีใดใดต่อผลกระทบที่จะมีกับเด็กและเยาวชน
ในการนี้ อาจจำเป็นต้องพิจารณาโทษในขั้นสูงสำหรับผู้ผิดที่เป็นผู้ผลิตและขายเหล่านี้ เพื่อให้เกิดความเกรงกลัว ด้วยมีผลกระทบรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนไทยอันเป็นทรัพยากรที่ขาดแคลนจากประชากรลดจำนวน
การไม่ประนีประนอม การไม่ปล่อยปละละเลย ของ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ในการปราบปราม และ การป้องกัน ทั้งระดับครอบครัว โรงเรียน สถาบันการศึกษา หน่วยงานทุกส่วน สอดส่อง สืบทราบ แจ้งเตือนภัยอย่างจริงจัง ถือเป็นภารกิจเร่งด่วน ที่คุกคามสังคม เนื่องจาก บุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเสพติด มาเร็วเกินคาด มองในเชิงโอกาส เหตุการณ์นี้จะทำให้สังคมตื่นตัวพร้อมต่อสู้กับปัญหาร่วมกัน.
บทความโดย :
วิทยา กุลสมบูรณ์
กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส)*
*กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส), ทั้งนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียน ไม่ผูกพันองค์กร สสส .

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา