
"...การออกกฎหมายรองรับวิธีการทำลายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งชั่วคราวและถาวร เพื่อการดำเนินการจริง จึงสามารถเป็นนโยบายเร่งด่วนที่หากทำสำเร็จจะเป็นผลงานของรัฐบาลปัจจุบัน นอกเหนือจากการจับกุมที่ได้รับการชื่นชมจากสังคมอยู่แล้ว และ เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการนำบุหรี่ไฟฟ้าที่จับกุมได้มาขายต่อไปอีก..."
บทความโดย : วิทยา กุลสมบูรณ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.),ทั้งนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียน ไม่ผูกพันองค์กร สสส.
“ เป็นน่ายินดีว่า รัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ได้กำหนด ปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในสี่เป้าหมายของรัฐบาล ประกอบด้วย เศรษฐกิจหรือรายได้ ความมั่นคงโดยเฉพาะกรณีความขัดแย้งชายแดน ปัญหาภัยพิบัติโดยเฉพาะน้ำท่วมที่รุนแรง และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งควรรวมถึง บุหรี่ไฟฟ้าที่เป็น ประตูนำทางสารเสพติดและยาเสพติดอื่นๆ”
สังคมไทย ควร ชื่นชม ตำรวจไซเบอร์ สรรพสามิต ฝ่ายปกครอง และ ตำรวจ สภ วิหารแดง สระบุรี ที่ได้ยึดบุหรี่ไฟฟ้า 6 แสนชิ้น มูลค่ากว่า 90 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวในวันที่ 10 กย 2568 รวมทั้ง วันที่ 9 กย 2568 ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ) ได้บุกจับฐานการผลิตบุหรี่ไฟฟ้า ได้ของกลาง 20000 ชิ้น ผู้ต้องหา ผู้จัดการสัญชาติจีน 2 ราย และ แรงงานพม่า 11 ราย ในย่านบางขุนเทียน การจับกุมเหล่านี้ สะท้อนว่า ในช่วงรัฐบาลเปลี่ยนผ่านขณะนี้ พลังของข้าราชการประจำทั้งฝ่ายตำรวจ สรรพสามิต ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงดำเนินการในเรื่องที่เป็นปัญหาของสังคม มิได้เพียงดำเนินการตอบสนองตามนโยบายของรัฐบาลเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลที่ผ่านมาที่มีนโยบายในเรื่องการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มข้น
ข่าวที่ปรากฏในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่ พื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบล บ้านลำ อำเภอ วิหารแดง จังหวัด สระบุรี และ ที่ ซอยสะแกงาม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ในสองวันที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่อง ไม่เพียงมาจากนโยบาย หากแต่เป็นพลังของข้าราชการประจำที่มีความตระหนักต่อพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดและเป็นประตูนำทางสู่การติดยาเสพติดที่เป็นปัญหาของสังคมอย่างมากในปัจจุบัน
เนื่องด้วยเป็นที่ปรากฏว่าในรัฐบาลที่ผ่านมารัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร และรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาว จิราพร สินธุไพร กำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (ดู สำนักข่าวอิศรา บทบาทผู้นำสตรีไทยในการปกป้องเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า วันศุกร์ ที่ 7 มีนาคม 2568 https://www.isranews.org/article/isranews-article/136243-women.html)
ได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ตำรวจ กระทรวงต่างๆที่กวดขันนักเรียนในโรงเรียน เช่น กระทรวงศึกษาธิการ และ กรุงเทพมหานคร ตลอดจน กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่างมีความจริงจังในการดำเนินการในเรื่องนี้
บรรดาองค์กรที่ทำหน้าที่ในการสร้างเสริมสุขภาพ ปกป้องภัยปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากบุหรี่ไฟฟ้า อาจมีความกังวลว่าในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลในขณะนี้ว่า ภัยจากบุหรี่ไฟฟ้าที่คุกคามต่อเยาวชนนั้น ต่อไปจะมีการจับกุมปราบปรามแหล่งผลิต จำหน่าย ในพื้นที่ ตลอดจน การขายออนไลน์ อย่างจริงจังต่อเนื่องต่อไปหรือไม่
การจับกุมใหญ่ ที่ สระบุรี และ บางขุนเทียน จึงเป็นประจักษ์พยานอีกครั้งหนึ่งว่า ต่อไปนี้ การปราบปรามภัยบุหรี่ไฟฟ้า ไม่เพียงเพราะนโยบาย แต่จะเป็น ดีเอ็นเอ ของ เจ้าหน้าที่ ข้าราชการในบ้านเมือง ที่ตระหนักต่อผลกระทบที่รุนแรงต่อเด็กและเยาชนซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า นโยบายของรัฐบาล เป็น ธงสำคัญ ที่ชี้นำทิศทางและหมุดหมาย ให้ หน่วยงานของรัฐมุ่งมั่นตอบสนองนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในรัฐบาลที่มีกำหนดภารกิจในเวลาสี่เดือนตามกำหนดที่มีการสัญญาไว้ต่อประชาคม
เป็นน่ายินดีว่า รัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ได้กำหนด ปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในสี่เป้าหมายสี่ด้านของรัฐบาล ประกอบด้วย เศรษฐกิจหรือรายได้ ความมั่นคงโดยเฉพาะกรณีความขัดแย้งชายแดน ปัญหาภัยพิบัติโดยเฉพาะน้ำท่วมที่รุนแรง และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งควรต้องรวมถึง บุหรี่ไฟฟ้าที่เป็น ประตูนำทางสารเสพติดและยาเสพติดต่างๆ
การปราบปรามจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีนิโคตินที่เป็นสารเสพติด และในปัจจุบันได้มีสารเสพติดใหม่ที่มีลักษณะเสมือนนิโคติน (Nicotin Like) และการนำนิโคตินรูปแบบต่างๆ ทำรูปแบบดึงดูดเด็กและเยาวชน มาผลิต กระจาย และจำหน่าย จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
หากการดำเนินการดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดความเข้าใจในการมองปัญหาร่วมกันของสังคม ก็จะเป็นพลังการสร้างเสริมสุขภาพที่เข้มแข็ง และ ต่อยอดการการลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ ยาเส้น แอลกอฮอล์การพนัน และ ปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพเชิงลบอื่นๆ ทำให้สามารถนำพลังการสร้างสร้างเสริมสุขภาพไปสู่ปัจจัยบวก เช่น การออกกำลังกาย การกินอาหารสุขภาพ การสร้างเสริมสุขภาพจิต การสร้างสิ่งแวดล้อมชุมชนและสังคมที่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้เกิดสุขภาวะของสังคมโดยรวม
อย่างไรก็ตามในการปราบปรามเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ายังมีข้อจำกัดหลังจากที่จับกุมได้ว่าจะสามารถทำลายสิ่งที่เป็นส่วนประกอบของบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีลักษณะต่างๆนั้น โดยวิธีการอย่างไร เช่น บุหรี่ไฟฟ้าดูดแล้วทิ้ง เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าหัวพอร์ตต่างๆ เหล่านี้จะทำลายอย่างไร
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะที่ผ่านมาได้มีข่าวเกี่ยวกับการจับกุมสินค้าเป็นจำนวนมากได้แล้ว และเก็บไว้ในโกดังเพื่อรอการทำลาย แต่ได้มีการลักลอบนำเอาบุหรี่ไฟฟ้าจากโกดังเพื่อนำออกไปขายต่อ เพราะมีมูลค่ามากมหาศาล เป็นข่าวใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา การดำเนินการในเรื่องนี้ อาจต้องมีการพิจารณาโดยเร่งด่วน ไม่ให้เกิดการเข้ามาลักลอบขโมยนำบุหรี่ไฟฟ้าที่จับกุมได้แล้วนั้นออกไปขายต่ออีก
การทำลายบุหรี่ไฟฟ้าที่จับกุมได้ เป็นภาระมาก เพราะ หัวพอร์ต เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้าที่ดูดแล้วทิ้งเหล่านั้น มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากประกอบด้วย แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขดลวดทำความร้อน วัสดุซับน้ำ วงจรควบคุม พอต และ ปากสูบ ส่วนน้ำยาก็มีสารหลายอย่าง ทั้งโปรปีลีนไกลคอล นิโคติน ฟอร์มัลดีไฮด์ สารแต่งรสแต่งกลิ่น เป็นต้น การทำลายสินค้าอันตรายนี้ ด้วยการทุบทำลาย การใช้รถบดทับในแลนส์ฟิลด์ ตลอดจนการเผา มีการวิจารณ์ว่ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากขยะอิเล็กทรอนิคส์และสารเคมีที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องเร่งหารือวิธีการทำลายที่เหมาะสมต่อไป
ในการรอทำลาย มีผู้เชี่ยวชาญให้ข้อเสนอว่าให้นำหัวพอร์ต เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้าที่ดูดแล้วทิ้งเหล่านั้น แช่ลงในน้ำจนใช้ไม่ได้อีก ซึ่งถือได้ว่าเป็นวิธีการทำลายชั่วคราวเพื่อให้หมดสภาพการใช้งาน ซึ่งต้องหาข้อสรุปความเหมาะสมโดยเร็ว หากทำได้จะป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำออกไปขายต่ออีก อย่างที่เคยเกิดขึ้น
การออกกฎหมายรองรับวิธีการทำลายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งชั่วคราวและถาวร เพื่อการดำเนินการจริง จึงสามารถเป็นนโยบายเร่งด่วนที่หากทำสำเร็จจะเป็นผลงานของรัฐบาลปัจจุบัน นอกเหนือจากการจับกุมที่ได้รับการชื่นชมจากสังคมอยู่แล้ว และ เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการนำบุหรี่ไฟฟ้าที่จับกุมได้มาขายต่อไปอีก.
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก bangkokhospital.com

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา