
"...การลาออกมากกว่าการเกษียณ สะท้อนถึงความท้าทายในการรักษาบุคลากร โดยเฉพาะกลุ่มวิชาชีพด้านสาธารณสุขที่อาจเผชิญกับภาระงานสูง ความกดดัน และปัญหาความสมดุลชีวิต-งาน ควรมีมาตรการ Retention Policy เช่น สวัสดิการที่เหมาะสม เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ และการกระจายงานอย่างสมดุล..."
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : เมื่อเร็วๆ คลังสารสนเทศรัฐสภา เผยแพร่ข้อมูลสถิติการสูญเสียของข้าราชการพลเรือนสามัญ กระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2567 ผ่านเฟซบุุ๊ก PRT : คลังสารสนเทศรัฐสภามีรายละเอียด ดังนี้
การสูญเสียของข้าราชการพลเรือนสามัญ กระทรวงสาธารณสุข
- 2567 รวม 9,115 เกษียณอายุ 4,237 ลาออก 4,674 ออกด้วยเหตุผิดวินัย 35 เสียชีวิต 169
- 2566 รวม 9,308 เกษียณอายุ 3,843 ลาออก 5,268 ออกด้วยเหตุผิดวินัย 9 เสียชีวิต 188
- 2565 รวม 8,393 เกษียณอายุ 3,684 ลาออก 4,505 ออกด้วยเหตุผิดวินัย 10 เสียชีวิต 194
- 2564 รวม 7,037 เกษียณอายุ 3,680 ลาออก 3,112 ออกด้วยเหตุผิดวินัย 44 เสียชีวิต 201
ภาพรวมตัวเลขการสูญเสีย
- จำนวนการสูญเสีย เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 7,037 คน (2564) - 9,115 คน (2567)
- ปัจจัยหลักคือ การลาออกและเกษียณอายุ ที่คิดรวมกันกว่า 95% ของทุกปี
- การออกด้วยเหตุผิดวินัย อยู่ในระดับต่ำมาก (ไม่ถึง 1% ของแต่ละปี)
- การเสียชีวิต คงที่ประมาณ 2% ต่อปี
วิเคราะห์เชิงนโยบาย
- การลาออกมากกว่าการเกษียณ
สะท้อนถึงความท้าทายในการรักษาบุคลากร โดยเฉพาะกลุ่มวิชาชีพด้านสาธารณสุขที่อาจเผชิญกับภาระงานสูง ความกดดัน และปัญหาความสมดุลชีวิต-งาน ควรมีมาตรการ Retention Policy เช่น สวัสดิการที่เหมาะสม เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ และการกระจายงานอย่างสมดุล
- การเกษียณอายุ
อยู่ในระดับคงที่ประมาณ 3,600–4,200 คนต่อปี ถือเป็นการสูญเสียตามธรรมชาติ จำเป็นต้องวาง แผนทดแทนกำลังคน อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในพื้นที่ขาดแคลน
- การเสียชีวิต
แม้มีเพียง 2% แต่สะท้อนความเสี่ยงด้านสุขภาพของบุคลากร ควรเสริมระบบการดูแลสุขภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
- การออกด้วยเหตุผิดวินัย
ตัวเลขต่ำ แสดงถึงวินัยและจรรยาบรรณที่ดีของบุคลากรส่วนใหญ่ แต่ยังจำเป็นต้องมีมาตรการกำกับดูแลเชิงป้องกัน.

สำหรับ ประเภทกำลังคนภาครัฐในภาพรวม ประกอบด้วย ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ พนักงานจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานกระทรวงสาธาธารณสุข และพนักงานองค์การมหาชน ที่สังกัดกระทรวง กรม ทั้งในสังกัดบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น
โดยกำลังคนภาครัฐ ปึงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,004,485 คน แบ่งเป็น
- ข้าราชการ 1,756,606 คน (ร้อยละ 58.47)
- ลูกจ้างชั่วคราว 271,917 คน (ร้อยละ 9.05)
- พนักงานจ้าง 223,528 คน (ร้อยละ 7.44)
- พนักงานรัฐวิสาหกิจ 219,014 คน (ร้อยละ 7.29)
- พนักงานราชการ 179,567 คน (ร้อยละ 5.98)
- พนักงานมหาวิทยาลัย 136.859 คน (ร้อยละ 4.56)
- พนักงานกระทรวงสาธารณสุข 121,285 คน (ร้อยละ 4.04)
- ลูกจ้างประจำ 82,111 คน (ร้อยละ 2.73)
- พนักงานองค์การมหาชน 13,598 คน (ร้อยละ 0.45)
โดยข้าราชการ จำนวน 1,756,606 คน นั้นส่วนใหญ่สังกัดบริหารราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ร้อยละ 84.74 และสังกัดบริหารราชการส่วนท้องถิ่นร้อยละ 15.26

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2568 นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา และรองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Veerapun Suvannamai ระบุว่า 4 ปี วงการสาธารณสุขสูญเสียบุคลากรไป 3.3 หมื่นคน นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ
เหตุผลที่คนจะลาออกมีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุด คือ “งานหนักเกินมนุษย์คนหนึ่งจะรับไหว” ทั้งงานบริการ งานเอกสาร งานคุณภาพ รวมต้องเตรียมงาน event ต้อนรับคนใหญ่คนโต หลายคนบอกว่าก็เพิ่มเงินให้สิ! จะแก้ปัญหาได้ ขอตอบแทนชาวสาธารณสุขเลยครับ ว่าไม่จริง! เงินเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่ง แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะเอาเงินมาให้แล้วจะให้ทำอะไรก็ได้
“คนท้อง 8 เดือนยังต้องขึ้นเวรบ่าย ต่อดึก ต่อเช้า ถามว่าเขาต้องการเวลาพักผ่อน หรือต้องการเงิน แล้วเขาทำไปทำไม? เหตุที่ทำเพราะถูกบังคับให้ทำ เพราะถ้าเขาไม่ทำก็จะไม่มีใครดูแลคนไข้!”
ก่อนจะต้องรบกวนประชาชน 10,000 รายชื่อ พยายามทำสิ่งที่ง่ายกว่าคือ
1. ใช้กลไกของกรรมาธิการ ซึ่งตนได้เรียนท่านประธานกรรมาธิการการสาธารณสุขวุฒิสภา นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล โดยส่วนตัวแล้ว และมีแผนว่าจะส่งเรื่องถึงกรรมาธิการการสาธารณสุขสภาผู้แทนราษฎร โดย ได้โทรศัพท์เรียนนพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธานกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรแล้วเช่นกัน
2. ได้โทรหาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน สส. หลายท่านแล้ว อย่างน้อยก็เสนอไอเดียนี้ให้ท่านช่วยขบคิดกันต่อในแต่ละพรรค
- สส. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ พรรคเพื่อไทย ประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข
- สส. กัณวีร์ สืบแสง พรรคเป็นธรรม
- สส. ภราดร ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทย
- สส. นพ.โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย พรรคเพื่อไทย
- สส.วิโรจน์ ลักษณอดิศร พรรคประชาชน
- สส. พญ.กัลยพัช รจิตโรจน์ พรรคประชาชน (คุยกันทางไลน์)
ประเด็นร่างกฎหมายน่าจะมีรายละเอียดที่ต้องคุยและแก้ไขกันอีกเยอะ แต่ถ้าเราไม่เริ่มแก้ไขตอนนี้ ปัญหานี้ก็จะไม่มีใครมาแก้ซักที ผมเหลือเวลาทำงานอีก 4 ปี ในสภานิติบัญญัติ จะพยายามผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อพี่น้องประชาชนและชาวสาธารณสุขนะครับ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา