
"...“ยาเสพติดรูปลาบูบู้” ไม่ใช่แค่ปัญหายาเสพติดธรรมดา แต่เป็นสัญญาณเตือนภัยครั้งใหญ่ว่าอาชญากรพร้อมใช้ทุกวิถีทาง หลอกลวงและทำลายอนาคตของประเทศ ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งปรับมาตรการ ปกป้องเยาวชน และไม่ให้ “ความน่ารัก” กลายเป็นเครื่องมือคร่าชีวิตอีกต่อไป..."
Labubu คาแรกเตอร์ดังจากฮ่องกง ผลงานของศิลปิน Kasing Lung ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในกลุ่มวัยรุ่นไทย ด้วยรูปลักษณ์น่ารักแปลกตา จนกลายเป็นไอเท็มสะสมที่มีมูลค่าหลักหมื่นบาท ในขณะนี้ มิจฉาชีพได้นำวัฒนธรรมป๊อปมาบิดเบือน โดยนำ รูป Labubu มาทำยาเสพติดเลียนรูปแบบ
โดย ความเป็น“ของเล่นน่ารัก”ถูกกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ทำให้เป็น“ภัยเสพติดยุคใหม่” โดยนำรูปแบบมาใช้สร้าง เม็ดยาผสม ยาอี Ecstacy และ ยาอื่น เช่น โคเคน ยาบ้า ใน รูป Labubu เพื่ออำพรางการค้าในชื่อ “ยาลาบูบู้” สร้างความเข้าใจผิดในหมู่เยาวชน อาจคิดไปว่าเป็นขนมกินได้ปลอดภัย ทว่าซ่อนฤทธิ์ร้ายแรงของยาเสพติดไว้เต็มเม็ด รวมทั้ง อาจกลบเกลื่อนเพื่อขายยาเสพติดในหมู่ผู้เสพยา
สำหรับยาเสพติดสูตรผสมก่อนมาเป็นรูปแบบยาในรูปลาบูบู้นี้ ในปี 2564 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เคยรายงานว่า มี ผู้เสียชีวิต มากถึง 7 คน จากยาเสพติดรูปแบบผสม รูปแบบใหม่ ทำเป็นเม็ด รูปต่างๆ แม้แต่ รูปเศียรพระ โดยในรายงานแจ้งว่า เป็นครั้งแรกที่พบมี โคเคน ด้วยร่วมกับ ยาอี Ecstacy คาเฟอีน และ แป้ง
ทัังนึ้ ฤทธิ์ของยาที่ ผสมทั้ง ยาอี หรือ MDMA ( 3,4-methylenedioxymethamphetamine) และโคเคน จะ ก่อให้เกิดภาวะหัวใจและระบบประสาทล้มเหลวเฉียบพลัน อันตรายถึงชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว สร้างความน่ากังวลอย่างมาก
สำหรับ ยาเสพติดผสม รูปแบบเสมือนลาบูบู้นี้ ได้มีรายงานข่าวการระบาด ในปี 2567 พบการระบาดใน เชียงราย, อยุธยา, และ ภูเก็ต มาแล้ว และ ที่สุดมาเกิดวิกฤติคร่าชีวิตผู้เสพเป็นโศกนาฏกรรม ในปี 2568 จากการรายงานของ ศูนย์พิษวิทยา รพ รามาธิบดี ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามีกรณีผู้ที่ไปเล่นน้ำในงานเทศกาลในเขตกรุงเทพมหานครและใช้สารเสพติดที่มีชื่อแสลงว่า “ขนม” และ/หรือ “ลาบูบู้” แล้วมีอาการหมดสติ กล้ามเนื้อเกร็ง หยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้น เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ยังอยู่ในไอซียูอีก 1 ราย
เป็นที่ประจักษ์ว่า “ยาเสพติดรูปเสมือนลาบูบู้” มีอันตรายมากและยากต่อการควบคุม และ เพื่อที่มิจฉาชีพผู้ขายจะหาประโยชน์จากผู้ซื้อ จึงดำเนินการตามจุดมุ่งหมายเหล่านี้ ประกอบด้วย
1. การพรางตัวอย่างแนบเนียน โดยทำรูปแบบขนมเหมือนของเล่น ทำให้ตรวจจับยาก
2. การจูงใจดึงดูดเยาวชนเป็นเป้าหมาย โดยอาศัยความน่ารักเป็นกับดัก
3. การยกระดับในตลาดมืด เพื่อขายได้ราคาสูงกว่ายาเสพติดทั่วไป
4. การบิดเบือนภาพลักษณ์ ทำให้ผู้เสพประมาท ไม่ตระหนักถึงอันตราย
การดำเนินการดังกล่าว สร้างผลกระทบกับสังคมไทยอย่างมหาศาล ประการแรก การเสี่ยงต่อการสูญเสียคนรุ่นใหม่ ทำให้ เยาวชนติดยาและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ประการที่สอง ภาระเศรษฐกิจและสาธารณสุข ทำให้มีค่าใช้จ่ายการรักษาและการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญต่อสังคม ประการที่สาม ท้าทายมาตรการควบคุมยาเสพติดเดิม โดยหน่วยงานรัฐที่ควบคุมต้องเผชิญกลยุทธ์ใหม่ของเครือข่ายค้ายา
ด้วยมหาภัยยาเสพติดรูปแบบใหม่ที่รุนแรงนี้ หน่วยงานรัฐ ที่ดูแลด้านป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้โทษ จึงควรมีบทบาทเร่งด่วน ดังนี้
(1) สร้างความร่วมมือของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ปปส ตำรวจ สคบ สาธารณสุข ยกระดับการเฝ้าระวังยาเสพติดเลียนแบบ ตรวจสอบขนม ของกิน ของเล่น สินค้าสะสม และสินค้าแนว Art Toy อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจากช่องทางออนไลน์และตลาดมือสอง ที่อาจมีการผสมหรือใส่ยาเสพติด ลักษณะนึ้ คล้ายกับ การจำหน่ายสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า ที่ทำในรูป กลิ่น สี รส ดึงดูดเยาวชน
(2) จัดระบบเตือนภัยสาธารณะเชิงรุก ที่ทันการรวดเร็ว เนืีองจากภัยนี้เป็น แผ่นดินไหวทางสังคมที่อาจมีเหตุต่อเนื่องหลังเหตุการณ์อีก โดยเร่งให้ข้อมูลภัยยาเสพติดรูปแบบใหม่ต่อสังคมผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเข้าถึงเยาวชนอย่างรวดเร็ว
(3) พัฒนากฎหมายให้ทันกับเทคนิคพรางตัวเหล่านี้ โดยเร่งออกกฎหมายเฉพาะที่มีบทลงโทษรุนแรง (Deterrent Effect) มีผลมากพอไม่ให้คนผิดเลือกเสี่ยง เกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายยาเสพติดที่พรางตัวด้วยรูปแบบสินค้าในชีวิตประจำวัน
(4) เร่งฟื้นฟูและสร้างภูมิคุ้มกันเยาวชน ให้มีกิจกรรมเชิงป้องกัน เพิ่มโครงการเสริมสร้างความตระหนักในโรงเรียน ชุมชน และมหาวิทยาลัย
(5) ปราบปรามแหล่งผลิตยาเสพติดผิดกฎหมายและ ปิดกั้นแหล่งผลิตต้นทาง รวมทั้ง ผลักดันความร่วมมือปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ การนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ลักลอบเข้ามาผ่านตลาดมืดมาทางชายแดน
“ยาเสพติดรูปลาบูบู้” ไม่ใช่แค่ปัญหายาเสพติดธรรมดา แต่เป็นสัญญาณเตือนภัยครั้งใหญ่ว่าอาชญากรพร้อมใช้ทุกวิถีทาง หลอกลวงและทำลายอนาคตของประเทศ ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งปรับมาตรการ ปกป้องเยาวชน และไม่ให้ “ความน่ารัก” กลายเป็นเครื่องมือคร่าชีวิตอีกต่อไป
สังคมไทย จึงต้องไม่ปล่อยให้ผู้ค้ายานำ “ความน่ารัก” มาทำให้กลายเป็น “ความตาย” ของ คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นเด็กและเยาวชน
วิทยา กุลสมบูรณ์
มูลนิธิเภสัชชนบท
ที่มา:
Thai PBS News, “ลาบูบู้ ยาอีผสมโคเคน ‘อาร์ตทอย’ ฤทธิ์ร้าย ‘เสี่ยงตาย’ สูง”, 18 เมษายน 2568
มติชนออนไลน์, “ยาบ้าลาบูบู้ ระบาดอีก คนซื้อเสพดับแล้ว 2 ราย นอนไอซียูอีก 1”, 18 เมษายน 2568
The Nation, “Ecstasy pills looking like Labubu toy character found in three provinces”, 28 กรกฎาคม 2567
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก pptvhd36.com

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา