อาณาจักรแห่งหนึ่งปกครองโดยกษัตริย์และราชินีผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและคุณธรรม ทั้งสองมีพระธิดานามว่า สโนว์ไวท์ แต่เมื่อราชินีจากไปอย่างกะทันหัน กษัตริย์จึงทรงอภิเษกใหม่ แม้ว่าพระมเหสีองค์ใหม่จะงามสง่าและเลอโฉม แต่แท้จริงแล้วพระนางมีจิตใจโหดร้ายและเกลียดชังลูกเลี้ยงของตนเอง ไม่นานนัก ราชินีใจร้าย ก็ก้าวขึ้นครองบัลลังก์ และเผยความโหดเหี้ยมของพระนางออกมา เมื่อกระจกวิเศษบอกว่า สโนว์ไวท์ เป็นหญิงที่งามที่สุดในปฐพี พระนางจึงโกรธเกรี้ยวและวางแผนกำจัดเจ้าหญิง สโนว์ไวท์ จึงหนีออกจากปราสาทเพื่อรอดพ้นจากเงื้อมมือของ ราชินีใจร้าย
Snow White (2025) เป็นหนึ่งในหนังที่ถูกจับตามอง ตั้งแต่วินาทีแรกที่มีการเผยตัวนักแสดงมารับ สโนว์ไวท์ เป็น Rachel Zegler นักแสดงผู้มากไปด้วยความสามารถและดราม่า เพราะ Rachel ไม่ได้มีผิวสีขาวเหมือนหิมะแบบต้นฉบับแม้แต่น้อย บวกกับที่ ตัว Rachel ออกมาแสดงจุดยืนว่า สโนว์ไวท์ ฉบับของเธอนั้นไม่ได้เป็นแค่สาวน้อยที่รอเจ้าชายมาช่วย ไม่ได้ใฝ่ฝันถึงรักแท้ เธอหวังที่จะเป็นผู้นำที่มีความเท่าเทียมแก่ประชาชน เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างจากฉบับของปี 1937 โดยสิ้นเชิง แถม Rachel ยังกล่าวอีกว่าเธอไม่ชอบ สโนว์ไวท์ ต้นฉบับเป็นอย่างมาก เพราะเธอเอาแต่ ‘ได้รับการช่วยเหลือ’ จากผู้ชาย ทั้งบรรดาคนแคระ หรือเจ้าชาย แต่ไม่ลงมือทำด้วยตัวเองเลย จนทำให้แฟนๆ สโนว์ไวท์ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทำให้หลายๆคนรอการมาของ Snow White (2025) และหวังจะมาดูความผิดพลาดของหนังเรื่องนี้
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีอาณาจักรแห่งหนึ่งตั้งอยู่ริมป่ามหัศจรรย์ ปกครองโดยกษัตริย์และราชินีผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและคุณธรรม ทั้งสองมีพระธิดานามว่า สโนว์ไวท์ แต่เมื่อราชินีจากไปอย่างกะทันหัน กษัตริย์จึงทรงอภิเษกใหม่ แม้ว่าพระมเหสีองค์ใหม่จะงามสง่าและเลอโฉม แต่แท้จริงแล้วพระนางมีจิตใจโหดร้ายและเกลียดชังลูกเลี้ยงของตนเอง ไม่นานนัก ราชินีใจร้าย ก็ก้าวขึ้นครองบัลลังก์ และเผยความโหดเหี้ยมของพระนางออกมา เมื่อกระจกวิเศษบอกว่า สโนว์ไวท์ เป็นหญิงที่งามที่สุดในปฐพี พระนางจึงโกรธเกรี้ยวและวางแผนกำจัดเจ้าหญิง สโนว์ไวท์ จึงหนีออกจากปราสาทเพื่อรอดพ้นจากเงื้อมมือของ ราชินีใจร้าย และได้พบกับเหล่าสัตว์ป่าใจดีที่พาเธอไปยังกระท่อมเล็กๆ อันงดงามกลางป่า เป็นที่อยู่อาศัยของ คนแคระทั้งเจ็ด ในป่าแห่งนี้เองที่ สโนว์ไวท์ ได้พบกับ โจนาธาน ชายหนุ่มผู้กล้าท้าทายอำนาจของราชสำนัก โจนาธาน หลงใหลในความงามและจิตใจดีของเธอ และร่วมมือกับเหล่าผองเพื่อนที่มีเวทมนตร์ของ สโนว์ไวท์ เพื่อช่วยให้เธอค้นพบเสียงของตัวเอง พร้อมกับความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับ ราชินีใจร้าย
ผมต้องบอกก่อนว่าถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่ได้ชอบ Rachel Zegler มากเท่าไหร่ แต่ต้องยอมรับตามตความเป็นจริงว่า ผมเคยดูหนังที่เธอเล่นมาหลายๆเรื่องก็พอจะทราบอยู่แล้วว่าเธอเป็นคนมีความสามารถพอสมควร ทั้งการร้องและเล่น เพราะงั้นแล้วถ้าผมจะบอกว่าเธอคือตัวแบกเรื่องนี้ ไม่ให้พังไม่ให้เห็นแผลของเรื่อง ก็ไม่เกินจริงซักเท่าไหร่ ถ้าถามถึงคำถามที่หลายคนถามว่าเธอควรจะเป็นสโนว์ไวท์หรือไม่ ผมก็ขอตอบว่า มันคือสโนว์ไวท์คนละตัวกับฉบับ 1937 เพราะในฉบับนี้มีการดัดแปลงให้สโนว์ไวท์พอผมควร ด้วยการใส่พล็อตของการเป็นผู้นำของสโนว์ไวท์ แต่โดยรวมแล้วใจความหลักของเรื่องในการยึดมั่นในความดีของสโนว์ไวท์ก็ไม่ถึงกับหายไปเลย มันเลยเป็นการเลือกนักแสดงที่เหมาะกับบทนี้ แต่อาจไม่ถูกใจแฟนๆรุ่นเก่าเท่าไหร่ อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลายๆคนอาจไม่ชอบเธออาจจะด้วยการออกแบบเสื้อผ้าที่ดูมีความอิงต้นฉบับเยอะเกินไป ทั้งที่เรื่องพยายามจะเป็นสโนว์ไวท์สมัยใหม่
สิ่งที่ผมขอชมในเรื่องนี้คือการพยายาม ที่จะเพิ่มและเขียนตัวละครให้มันลึกลงไปมากกว่าฉบับเก่าหน่อย ด้วยการเพิ่มปมปัญหาของคนแคระ เปลี่ยนเจ้าชายเป็นโจรป่า และอะไรต่างๆในเรื่อง แต่นั่นก็ดันเป็นข้อเสียในอีกด้านคือ มันดันมีส่วนที่เหมือนของเก่าด้วย แต่ทำมาแบบขอไปที ก่อนหน้านี้ในฉากใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา จะเห็นได้ว่าจังหวะการเล่าดูจะตั้งใจเป็นพิเศษมากๆ แต่ในช่วงฉาก Iconic ของเรื่อง เช่นฉากกินแอปเปิลของสโนว์ไวท์ หรือฉากจูบตอนท้าย เหมือนทำไปแบบเพื่อให้มันมี จนเกิดเป็นการตั้งคำถามว่า หากเค้าทำไปแบบเปลี่ยนใหม่ไปสุดทางเลยอาจจะดีกว่านี้ไหมนะ เพราะผมเชื่อว่าการเอาแบบต้นฉบับมาทำแบบแป๊ะๆ มันไม่เวิร์คแน่ๆ แต่ก็หากทำมาใหม่ทั้งหมดเลยคงจะเป็นการยากที่จะขายแฟนๆ
อีกสิ่งที่น่าพูดถึงคือ บทบาทของพระเอกของเรื่องอย่างโจนาธาน ที่ปรับจากเจ้าชายที่โผล่มาสองฉาก มาเป็นหัวหน้าโจรหนุ่ม พร้อมลูกน้องรวม 7 คน ที่มีบทเยอะกว่าเดิม แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันโดนตัดบทไปแน่ๆ บทบาทของตัวละครที่รู้สึกไม่ค่อยมีความปะติดปะต่อกันซักเท่าไหร่ เช่นบทพูดที่พูดเหมือนรู้จักกันมาก่อนแต่เพิ่งเคยคุยกันจริงฉากนี้ฉากแรก บทบาทของคนแคระที่เปลี่ยนไปในภาคนี้เองก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย ข้อดีของบทคนแคระในภาคนี้คงเป็นเรื่องที่ว่าการได้เล่าตัวละคร โดปี้ มากกว่าต้นฉบับพอสมควร เพิ่มบทบาทให้เป็นมากกว่าแค่ตัวละครที่ดูทำอะไรตลกๆ ออกมาแต่นั่นก็นำมาซึ่งข้อเสียคือ นอกจากโดปี้แล้วตัวอื่นแทบไม่มีบาทเลย! แถมยังจะพอดูออกอีก ว่าบทของเหล่าคนแคระมันต้องเพิ่งเพิ่มเข้ามาภายหลัง เพราะตั้งแต่แรกมันเคยมีข่าวลือที่ว่า หนังเรื่องนี้จะไม่มีคนแคระ บวกกับการมาของเหล่ากลุ่มโจทย์ที่ดันมี 7 คนแบบพอดิบพอดี จึงเกิดการเบียดเวลากัน จนเล่าไม่พอ อีกข้อเสียหนึ่งของเหล่าคนแคระคือ CG ของตัวละครที่ชวนดูน่าขนลุกมากกว่าดูน่ารัก
สิ่งที่เรียกว่าเป็นขั้วตรงข้ามอย่าง ราชินีใจร้ายเอง ก็เรียกได้ว่าน่าเป็นอีก 1 จุดบอดใหญ่ของเรื่องก็ว่าได้ ทั้งการแสดงของ Gal Gadot ที่ดูเหมือนว่าไม่ได้เพิ่มมิติหรือความน่าเชื่อถือของตัวละครเท่าไหร่ บวกกับ บทเขียนตัวละครนี้มาอย่างแบนราบ ไร้ซึ่งการสานต่ออย่างตัวละครอื่นๆ
โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เป็นหนังที่ดีมากๆ แต่ก็ไม่ถึงกับว่าแย่ไปเลยซะทีเดียว เพียงแต่ว่ามันไม่สามารถไปสุดทางได้ เนื่องจากแนวทางตั้งแต่ต้นที่กะมาเปลี่ยนมุมมองตัวละครใหม่เลย ดันเพิ่มฉากที่ยังดูมีความเคารพต้นฉบับมาด้วย ทั้งที่มันขัดกับเรื่องราวในเรื่องมากพอสมควร แต่ยังไงสามารถพาลูกหลานของท่านไปรับชมได้แบบไม่เสียดายเงินเท่าไหร่ เพราะแก่นของเรื่องสโนว์ไวท์ก็ยังถือว่าอยู่ครบถ้วนไม่ได้หายไปไหน และไม่ได้มีความคิดยัดเยียดแบบที่หลายๆท่านเป็นห่วงแน่นอน
ภาพจาก : Walt Disney Pictures