"...ชีวิตของหมูเด้งเป็นวงจรชีวิตของสัตว์โลกที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เธอกลายเป็นฮิปโปแคระที่เกิดมาพร้อมกับความร่ำรวยชื่อเสียงและคุณค่าที่ไม่ได้เกิดจากการแสวงหาจากตัวเธอเอง แต่เป็นชื่อเสียงที่มนุษย์เป็นผู้ร่วมสร้างขึ้นและมนุษย์ได้รับประโยชน์จากเธออย่างประมาณค่ามิได้ แม้แต่มิจฉาชีพก็ไม่เว้นที่จะหากินกับชื่อเสียงของเธอ..."
แม้ว่า “หมูเด้ง” ลูกฮิปโปโปเตมัสแคระเพศเมียจะเกิดมาลืมตาดูโลกได้เพียง 5 เดือนเศษ แต่ชื่อเสียงของเธอกลับดังกระฉ่อนจนคนทั่วโลกต้องหันมาสนใจความน่าเอ็นดูของเธออย่างล้นหลาม ความดังของหมูเด้งกลายเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดผู้คนให้เดินทางมายังสวนสัตว์เปิดเขาเขียวอย่างไม่ขาดสาย เธอจึงเป็นเหมือนตัวแทนแห่งมิตรภาพที่เชื่อมโยงระหว่างคนกับสัตว์และเป็น ซอฟต์พาวเวอร์ ที่เป็นผลผลิตจาก ธรรมชาติ การจัดการ รวมทั้งพลังของสื่อและฝูงชนดิจิทัล ที่ร่วมกันสร้างกระแสจนทำให้เธอกลายเป็นฮิปโปแคระที่ครองใจคนทั้งโลก
ชื่อ “หมูเด้ง” ยึดพื้นที่ทั้งสื่อไทยและสื่อเทศ จนกลายเป็นชื่อที่ถูกตีพิมพ์และถูกค้นหามากชื่อหนึ่งบนโลกออนไลน์ทั้ง ภาษาไทย จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ สเปน ฯลฯภายในเวลาแค่ไม่กี่เดือนและนอกจากการได้ขึ้นจอไทม์สแควร์กลางกรุงนิวยอร์คแล้ว ปลายปีนี้ หมูเด้ง ยังถูกจัดอันดับจากสื่อ เดอะนิวยอร์กไทมส์ ให้เธอเป็นหนึ่งในชื่อ 63 ผู้มีสไตล์แห่งปี 2024 (The 63 Most Stylish People of 2024) ร่วมกับสไตล์ลิสระดับโลกอีกด้วย (1) นับว่าชื่อเสียงของเธอโด่งดังไม่ธรรมดาเลย
เรื่องราวของหมูเด้ง
“หมูเด้ง” มีประวัติความเป็นมาที่สั้นมากเพราะเป็นฮิปโปแคระที่เกิดมาเพียงไม่กี่เดือนภายในสวนสัตว์ แต่เธอกลับเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว วิกิพีเดีย ให้ข้อมูลว่า “หมูเด้ง” เป็นฮิปโปโปเตมัสแคระเพศเมียที่อาศัยอยู่ใน สวนสัตว์เปิดเขาเขียว อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีชื่อเสียงขึ้นในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 เมื่อมีภาพของหมูเด้งเป็นอินเทอร์เน็ตมีม(2) “หมูเด้ง” เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 มีพ่อแม่คือโทนี่และโจน่า ชื่อของหมูเด้งได้รับเลือกผ่านการลงคะแนนของประชาชน โดยมีผู้ลงคะแนนให้กับชื่อ "หมูเด้ง" มากกว่า 20,000 คน หมูเด้งมีพี่หกตัว รวมถึง หมูตุ๋น ซึ่งเป็นฮิปโปโปเตมัสแคระที่ได้รับความนิยมของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเช่นกัน(2)
เส้นทางสู่ดวงดาว
ชีวิตของหมูเด้งเป็นวงจรชีวิตของสัตว์โลกที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เธอกลายเป็นฮิปโปแคระที่เกิดมาพร้อมกับความร่ำรวยชื่อเสียงและคุณค่าที่ไม่ได้เกิดจากการแสวงหาจากตัวเธอเอง แต่เป็นชื่อเสียงที่มนุษย์เป็นผู้ร่วมสร้างขึ้นและมนุษย์ได้รับประโยชน์จากเธออย่างประมาณค่ามิได้ แม้แต่มิจฉาชีพก็ไม่เว้นที่จะหากินกับชื่อเสียงของเธอ
การที่ใครสักคนจะกลายเป็นที่รู้จัก นอกจากความพิเศษเฉพาะตัวแล้ว ความบังเอิญและโชค ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน หลายคนอาจมีชื่อเสียงเพียงชั่วข้ามคืน แต่คนจำนวนไม่น้อยกลับไม่มีใครรู้จักหรือกลายเป็นบุคคลที่ถูกลืมทั้งที่มีคุณสมบัติหรือผลงานยอดเยี่ยมไม่ต่างกันหรืออาจดีกว่าคนมีชื่อเสียงหลายคนด้วยซ้ำ นอกจากนี้องค์ประกอบทางสภาพแวดล้อมก็เป็นส่วนสำคัญที่สร้างจุดเปลี่ยนชีวิตให้ใครบางคนกลายเป็นคนมีชื่อเสียงได้ เป็นต้นว่า คนนั้น เกิดที่ไหน เกิดเมื่อใด ได้พบกับใครบ้างในชีวิต ใครเป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน ใครช่วยเหลือ ใครสร้างแรงบันดาลใจ ใครส่งยิ้มให้ ใครเป็นที่รัก ใครยื่นแสงให้ ใครเป็นผู้สนับสนุน ฯลฯ
ความมีชื่อเสียงจึงเป็นเหมือนการถูกดึงเข้าไปอยู่ในจุดกึ่งกลางของแสงสปอร์ตไลท์ด้วยปัจจัยต่างๆที่มาบรรจบกันพอดี เป็นความลงตัวที่เกิดขึ้นทั้งจาก ความบังเอิญ โชค สภาพแวดล้อมและการจัดการที่สอดประสานกัน ในขณะที่คนบางคนสปอร์ตไลท์ไม่เคยส่องถึง เพราะแสงจากสปอร์ตไลท์นั้นมักเกิดขึ้นในบางช่วงเวลา บางโอกาส ซึ่งยากที่จะคาดการณ์ได้
ความดังของหมูเด้งสอดคล้องกับองค์ประกอบของความมีชื่อเสียงอย่างลงตัว ส่งผลให้หมูเด้งกลายเป็นลูกฮิปโปแคระที่ใครๆก็ต้องพูดถึงและอย่างน้อยที่สุดองค์ประกอบต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ หมูเด้ง กลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ฮิปโปแคระที่ทั้งโลกรู้จัก…
- หมูเด้งไม่ได้เกิดในป่าดงดิบ แต่เธอเกิดใน สวนเปิดสัตว์เขาเขียว จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการบริหารจัดการเกี่ยวกับสัตว์จากบุคลากรมืออาชีพและอยู่ในสถานที่ที่เปิดให้ผู้คนเข้าชมสัตว์นานาชนิดได้
- หมูเด้งเกิดในยุคที่ ผู้คนเดินทางสะดวกสบาย ภายใต้โลกออนไลน์ที่อยู่คู่กับโลกแห่งความจริง ใครต่อใครจึงสามารถเผยแพร่ชีวิตความเป็นอยู่ของหมูเด้งผ่านโทรศัพท์มือถือสู่คนทั้งโลกได้ในทันที
- หมูเด้งเกิดมาพบกับพี่เลี้ยงซึ่งคอยดูแลเธอด้วยความเอาใจใส่รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารสวนสัตว์
- พี่เลี้ยงของหมูเด้งมีความตั้งใจที่จะปั้นฮิปโปแคระตัวนี้ให้มีชื่อเสียงมาตั้งแต่แรก(3)
- หมูเด้งมีสื่อเฟซบุ๊กของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวและเฟซบุ๊ก ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง คอยอัปเดตการเคลื่อนไหวของเธออยู่เป็นระยะ
- หมูเด้งเป็นลูกฮิปโปแคระที่มีแต่คนรักเพราะเป็นผู้ให้ความสุขและไม่มีพิษภัย ผู้คนจึงไม่ลังเลที่จะเข้าใกล้และเต็มใจที่จะทำอะไรก็ตามที่นำเธอเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของตัวเองเสมอ
- หมูเด้งมีแรงเชียร์จาก ผู้มีชื่อเสียง/เซเลบ ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ
- สื่อไทย สื่อเทศ รวมทั้งโซเชียลมีเดียของคนทั่วไปคอยเกาะติดและจับจ้องอิริยาบถของเธออยู่ไม่ขาด
- คลิป มีม ภาพ และข่าวของหมูเด้งไม่มีแรงต้านจากสังคม ทุกอย่างจึงลื่นไหลไปตามกระแสความนิยมของผู้คน แม้ว่าจะมีดรามาเรื่องการใช้สัตว์มาหาผลประโยชน์อยู่บ้าง ก็ไม่ได้ลดทอนความนิยมของผู้คนลงแต่อย่างใด
- เน็ตเวิร์ก เอฟเฟ็กต์(Network effect) หรือ ปฏิกิริยาโครงข่าย เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ชื่อเสียงของหมูเด้งแพร่ไปทั่วโลก การที่มีคนจำนวนมากมาเยี่ยมชมหมูเด้งที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวหรือการช่วยกันเผยแพร่ข่าวหมูเด้งออกไปตามสื่อต่างๆอย่างกว้างขวางแสดงให้เห็นว่า เน็ตเวิร์ก เอฟเฟ็กต์ ที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของผู้คนที่มากขึ้นย่อมเพิ่มพลังให้ความมีชื่อเสียงของหมูเด้งเป็นที่รับรู้มากขึ้นตามลำดับ เพราะทุกคนต้องการมีส่วนร่วมในสิ่งที่คนจำนวนมากกำลังให้ความสนใจเพื่อไม่ให้ตัวเองตกขบวนหรือถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ตัวตนและองค์ประกอบที่สร้างชื่อเสียงให้ “หมูเด้ง”
ด้วยตัวตนและองค์ประกอบข้างต้นจึงช่วยให้ หมูเด้ง เข้าไปอยู่ในแสงสปอร์ตไลท์ที่ผู้คนจับตาราวกับกำลังมองหาสิ่งจรรโลงใจสักอย่างที่มนุษย์กำลังขาดแคลน
ปฏิกิริยา “ลูกบอลหิมะ”
ประมาณการกันว่าในโลกนี้มีฮิปโปแคระเหลืออยู่ในป่าอยู่ราว 2,000 ตัวและฮิปโปแคระอีกราว 350 ตัวมีชีวิตอยู่ตามสวนสัตว์ในประเทศต่างๆ
แต่ฮิปโปแคระที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติในป่ากำลังเผชิญกับภาวะที่เสี่ยงสูญพันธุ์จาก การไร้ที่อยู่อาศัย ขาดอาหาร ขาดแหล่งน้ำ และถูกล่าเป็นอาหาร มีเรื่องเล่าปรัมปราในแถบแอฟริกาที่เล่าต่อๆกันมาว่า ฮิปโปแคระสามารถเดินในป่าตอนกลางคืนได้อย่างสบาย เพราะพวกมันคาบเพชรเอาไว้ในปาก ซึ่งประกายของเพชรสามารถใช้ส่องทางเดินให้กับพวกมันได้ เมื่อพวกนักล่าจับฮิปโปแคระได้พวกเขาจึงได้ทั้งเพชรและอาหารในเวลาเดียวกัน(4)
ในช่วงเวลาที่หมูเด้งกำลังโดดเด่นก้องโลก แต่ฮิปโปแคระในป่าจำนวนหนึ่งกำลังอดอยากและถูกไล่ล่าเพื่อเป็นอาหาร เพราะเนื้อของฮิปโปแคระเป็นเนื้อคุณภาพเยี่ยมที่มีรสชาติอร่อยเลิศ ฮิปโปแคระในป่าจึงเป็นเป้าหมายของการล่าอยู่ตลอดเวลา
ขณะที่ฮิปโปแคระในสวนสัตว์อื่นๆ แม้จะมีข่าวถูกนำเสนออยู่บ้าง แต่ฮิปโปแคระเหล่านั้นยังไม่สามารถถูกนำมาสร้างเรื่องราวในระดับที่ผู้คนให้ความสนใจได้มากพอ เป็นต้นว่า ลูกฮิปโปแคระที่ชื่อ Haggis ซึ่งเพิ่งคลอดเมื่อปลายเดือน ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมาในสวนสัตว์ เอดินเบอระ(Edinburgh) สกอตแลนด์
หลังจาก Haggis เกิด สวนสัตว์มีการสร้างแคมเปญ “Moo Deng? Who deng?” เพื่อดึงความปังของหมูเด้งไปเปรียบเทียบกับ Haggis
สื่อบางสำนักเรียก Haggis ว่า หมูเด้งตัวใหม่(New MooDeng) แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นความสนใจได้เท่าหมูเด้งและภายหลังสวนสัตว์ต้องออกมาขอโทษที่ไม่ควรขโมยตัวตนหมูเด้งไปประชันกับ Haggis หรือ ฮิปโปแคระในเมืองไทย เช่น สาวสวยจากศรีสะเกษ “น้องหอมแดง” (น้องสาวศรี) ฮิปโปแคระเกิดใหม่ที่สวนสัตว์ศรีสะเกษและแม้แต่พี่ๆทั้งหกตัวของหมูเด้งที่เกิดจาก พ่อ แม่ เดียวกันก็ยังไม่อยู่ในรัศมีของความนิยมมากเท่ากับหมูเด้งได้
หมูเด้งอาจไม่ถูกแสงจากสปอร์ตไลท์ส่องเลยหรืออาจถูกล่าเป็นอาหาร หากเธอไม่ได้เกิดที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว หมูเด้งคงไม่มีโอกาสให้ใครได้รู้จักหากพี่เลี้ยงของเธอไม่ได้มีความตั้งใจปั้นเธอให้ดังตั้งแต่แรก หมูเด้งอาจเป็นเพียงลูกฮิปโปแคระธรรมดาๆหากเธอเกิดในยุคที่ไม่มีโซเชียลมีเดียและการสื่อสารยังมีข้อจำกัด หมูเด้งคงจะเป็นที่รู้จักเฉพาะเมืองไทยหากสื่อทั้งโลกไม่ได้ประโคมข่าวของเธอ ฯลฯ
ความโด่งดังของหมูเด้งจึงมีองค์ประกอบและจังหวะเวลาที่เหมาะสมเพียงพอที่ผลักดันเธอให้เป็นฮิปโปแคระดาวเด่นได้ ความมีชื่อเสียงของหมูเด้งจึงเกิดจากองค์ประกอบหลากหลายที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน หมูเด้งจึงเกิดมาถูกที่และถูกเวลาจริงๆ
เมื่อใดก็ตามที่ความมีชื่อเสียงเกิดขึ้นถึงจุดหนึ่ง ชื่อเสียงนั้นจะถูกยกระดับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว(Snowball) (5) คล้ายกับหิมะก้อนเล็กๆก้อนหนึ่งที่กลิ้งไปและสะสมจำนวนหิมะจนมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆที่ เรียกกันว่า ปฏิกิริยาลูกบอลหิมะ(Snowball effect) ซึ่งเกิดขึ้นได้เสมอในสังคมที่มีการสื่อสารกันด้วยข้อมูลทั้งในโลกแห่งความจริงและในโลกโซเชียลที่ทุกคนต่างได้รับรู้ข้อมูลจากการบอกต่อของคนอื่นและมีการขยายความต่อๆกันไป
ชื่อเสียงของหมูเด้งจึงไม่ต่างจากการเคลื่อนที่ของลูกบอลหิมะที่ใหญ่ขึ้นๆและข่มแสงฮิปโปแคระตัวอื่นๆให้หมองลงในเวลาเดียวกัน
ตัวตนของหมูเด้ง
หมูเด้งเป็นลูกฮิปโปแคระเกิดใหม่ ไม่ต่างจากเด็กเล็กที่เพิ่งลืมตาดูโลก กระแสของหมูเด้งทำให้เกิดคำถามว่า เหตุใดหมูเด้งจึงได้รับความสนใจอย่างมากมายเช่นนี้
สำนักข่าว เดอะวอชิงตันโพสต์ ได้อธิบายถึง ลักษณะที่แสดงถึงความเป็นเด็กเล็กหรือหน้าตาที่คล้ายกับทารก คือ การกระตุ้นสัญชาตญาณของการทนุถนอมและเลี้ยงดูของมนุษย์และด้วยดวงตาที่กลมโตและรูปร่างอ้วนจ้ำม่ำ ผู้คนจึงอดไม่ได้ที่อยากจะเข้าไปสัมผัส(6) สอดคล้องกับความเห็นของนักวิจัยด้านวิวัฒนาการจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและ The State University of New York at Buffalo ซึ่งให้ความเห็นว่า ด้วยดวงตาที่ใหญ่ หน้าผากกว้าง คางเล็ก ตัวอ้วนกลมและหน้าตาคล้ายกับเด็กทารกที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งพาผู้อื่น จึงเป็นสัญญาณที่กระตุ้นให้ผู้คนต้องดูแลและปกป้องเธอ(6)
ศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัย Oxford เคยให้ความเห็นไว้ตั้งแต่ปี 2016 ว่า ความน่ารักเป็นการกระตุ้นพื้นที่ส่วนที่เกี่ยวกับอารมณ์และความพึงพอใจในสมองของมนุษย์ ซึ่งสามารถนำมาอธิบายได้ว่า เหตุใดทารกและสัตว์ที่มีความน่ารักอย่างหมูเด้งจึงทำให้คนทั่วไปอดไม่ได้ที่จะหันมามองและหลงเสน่ห์เธอ (6)
ความเป็นสัตว์ไร้เดียงสาและเป็นมิตรต่อมนุษย์เป็นปัจจัยส่งเสริมให้หมูเด้งกลายเป็นขวัญใจของคนทั้งโลก เป็นความสะอาดของชีวิตสัตว์ที่ไม่มีความแปดเปื้อนใดๆ เธอจึงสามารถดึงดูดผู้คนให้เข้าใกล้ได้อย่างสนิทใจ ต่างจากมนุษย์ที่มีความน่ากลัวที่จะเข้าใกล้เข้าไปทุกที ตัวตนของเธอร่วมกับองค์ประกอบอื่นๆจึงสร้างกระแสความนิยมขึ้นมาได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งเป็นความประจวบเหมาะที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก
ชื่อนั้นสำคัญไฉน
เมื่อแรกเกิด หมูเด้ง ยังไม่มีชื่อเป็นทางการ จึงมีการเรียกชื่อกันหลายชื่อตาม รูปร่าง ท่าทาง และการแสดงออกของลูกฮิปโปแคระ เช่น น้องอ้วน เด็กอ้วน น้องใหม่ หมูอ้วน ฯลฯ ซึ่งเป็นชื่อทั่วไปที่ยังไม่ได้บ่งบอกตัวตนชัดเจน เมื่อสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเชิญชวนให้มีการโหวตชื่อลูกฮิปโปโปเตมัสแคระทาง เฟซบุ๊ก โดยมี 3 ชื่อให้เลือก คือ หมูเด้ง หมูแดง หมูสับ ซึ่งปรากฏว่าชื่อ “หมูเด้ง” ได้รับการโหวตมากกว่า 20,000 รายชื่อ จึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นชื่อของลูกฮิปโปแคระเกิดใหม่(7)
ทันทีที่ชื่อ “หมูเด้ง” ได้รับการคัดเลือกและประกาศเป็นทางการจากผลการโหวต ชื่อของหมูเด้งกลายเป็นชื่อที่ถูกโพสต์และถูกแชร์จากเฟซบุ๊กของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวและขาหมู แอนด์เดอะแก๊งสู่โลกโซเชียลและสื่อต่างๆ อย่างกว้างขวาง และคำว่า “หมูเด้ง” กลายเป็นที่รู้จักและสามารถค้นหาบน เครื่องมือสืบค้น ( Search engine) ได้เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น เพราะตัวตนของฮิปโปแคระตัวใหม่ได้ถูกประกาศแล้วในชื่อ “หมูเด้ง” หรือ “MooDeng” หรือ “bouncy pork” ชื่อเหล่านี้จึงเป็นที่รู้กันทั่วไปว่ากำลังพูดถึงใครอยู่
ด้วยความเป็นชื่อไทยซึ่ง เรียกง่ายและจำง่าย คล้ายเมนูอาหาร ชื่อนี้จึงติดหูผู้คนเพราะเป็นคำคุ้นหู เชิงตลก มีชีวิตชีวา สะท้อนตัวตน มีความเป็นมิตรและคล้องจองกับชื่อฮิปโปแคระตัวพี่คือ “หมูตุ๋น”
คำว่า “หมูเด้ง” เมื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษคือ bouncy pig หรือ bouncy pork ก็ยังเป็นคำตลกและมีความเป็นเด็กแฝงอยู่ เมื่อเขียนทับศัพท์เป็นคำภาษาอังกฤษ “MooDeng” ก็สะกดและจำไม่ยากและมีลักษณะคำคล้ายกับ คำว่า กูเกิล (Google) ซึ่งเป็นชื่อที่ทำให้บริษัทกูเกิลประสบความสำเร็จมาแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งชื่อให้ความเห็นว่าแบรนด์ Google เป็นคำที่สะท้อนถึงความไร้เดียงสาของเด็กและตัวอักษร “oo” เป็นคำที่สามารถผสมเป็นคำตลกและน่ารักที่จำง่ายได้อีกหลายคำ เช่น คำว่า Oodle (อูเดิล-สุนัขพันธุ์ผสมข้ามสายพันธุ์ที่พ่อหรือแม่เป็นพันธุ์พุดเดิล(Poodle)ผสมกับสุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่ง) (8) เป็นต้น
แฮซแท็ก-พลังเสริมความดัง
หนึ่งในเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้เมื่อโลกโซเชียลพูดถึง “หมูเด้ง” คือ เครื่องหมาย แฮซแท็ก (Hashtag) ซึ่งเป็นเครื่องหมาย # ที่วางอยู่นำหน้าคำหรือวลี ที่ช่วยให้คำหรือวลี นั้นถูกมองเห็นและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แฮซแท็ก จึงสร้างพื้นที่ของความใกล้ชิดระหว่างกันและนำไปสู่การดึงดูดความสนใจได้อย่างรวดเร็ว จากการทดลองของนักวิจัยพบว่า แฮซแท็กแต่ละประเภทเดินทางด้วยความเร็วที่ไม่เท่ากัน(9) แฮซแท็กบางประเภทเดินทางได้เร็ว ในขณะที่แฮซแท็กบางประเภทเดินทางช้ากว่า
ทั้งแฮซแท็ก #หมูเด้ง และ #moodeng เป็นแฮซแท็กที่อยู่ในประเภท “ไร้แรงต้าน” จึงสามารถเดินทางจากบัญชีโซเชียลมีเดียของคนหนึ่งไปสู่บัญชีอื่นๆหรือข้ามแพลตฟอร์มได้ไม่ยาก เพราะเป็นแฮซแท็กที่มี ความเป็นกลาง ไม่โน้มเอียงหรือเลือกข้าง การเดินทางจึงค่อนข้างรวดเร็วและกลายเป็นไวรัลได้ ซึ่งเป็นการแพร่ของคอนเทนต์ในลักษณะที่ไม่มีความซับซ้อน (Simple contagion) คนนำไปใช้ต่อไม่ต้องคิดมาก เช่นเดียวกับรูปภาพของเธอที่ถูกแชร์ไปมากมาย เพราะคอนเทนต์รูปภาพของเธอไม่ได้สร้างข้อสงสัยใดๆต่อการนำไปใช้ จึงเป็นการแพร่คอนเทนต์ในลักษณะเดียวกัน
แฮซแท็ก #หมูเด้ง #moodeng และ # bouncy pork มีลักษณะคล้ายกับ แฮซแท็ก ที่เรียกกันว่า Idiom Hashtag (9) ซึ่งเป็นแฮซแท็กที่ปลอดภัยและมักใช้แสดงความหมายของศิลปะหรือดนตรี ( เช่น #musicmonday ) แฮซแท็กประเภทนี้มักจะถูกนำไปใช้ในทันทีที่ผู้คนได้เห็นเพียงครั้งเดียว เพราะเป็นแฮซแท็กที่ ไม่มีความเสี่ยง ไม่ต้องการการยืนยันและการพิสูจน์จากผู้อื่นไม่มีแรงต้านต่อความน่าเชื่อถือที่ผู้คนจะนำไปใช้และไม่สร้างความขัดแย้งซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ แฮซแท็ก #หมูเด้ง และ #moodeng กลายเป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงแทบจะทุกมุมโลกและเป็นหนึ่งในแฮซแท็กยอดนิยมแห่งปี 2567 ของโซเชียลมีเดียในบ้านเรา
ความสำเร็จในชีวิตของใครก็ตามเหมือนกับการหยิบลอตเตอรี่ที่ถูกใบ ความมีชื่อเสียงของหมูเด้งจึงเป็นเสมือนการถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่จากการเลือกของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ทำให้ลูกฮิปโปแคระและสวนสัตว์เปิดเขาเขียวมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและยกระดับสวนสัตว์ไทยแห่งอื่นๆให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เป็นลอตเตอรี่ที่แบ่งรางวัลให้คนไทยได้รับกันถ้วนหน้า รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้
นอกจาก ความบังเอิญ โชคและตัวตนของของหมูเด้งเองแล้ว ความตั้งใจของผู้ดูแล การบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่และองค์ประกอบแวดล้อมที่ลงตัวคือปัจจัยร่วมที่ สร้าง “หมูเด้ง” ให้เป็นไอคอนของฮิปโปแคระและกลายเป็น “ปรากฏการณ์หมูเด้ง” ซึ่งเป็น ซอฟต์พาวเวอร์ ที่ช่วยปรุงรสและเพิ่มเสน่ห์ให้กับเมืองไทยโดยไม่ต้องลงทุนมากมายเลย
อ้างอิง
1.https://www.nytimes.com/2024/12/05/style/best-dressed-people-2024.html#:~:text=Moo%20Deng&text=She%20bit.,conquered%20hearts%20the%20world%20over.
2.วิกิพีเดีย - หมูเด้ง
3. https://www.theguardian.com/world/2024/sep/13/moo-deng-hippo-tiktok-khao-kheow-open-zoo-thailand-viral
4.https://pygmyhippofoundation.org/pygmy-hippos/
5. How to become famous โดย Cass R. Sunstein
6. https://midas-pr.com/unpacking-the-hype-how-moo-deng-broke-the-internet/
7.เฟซบุ๊ก สวนสัตว์เปิดเขาเขียว - 20 สิงหาคม 2567
8. Search Me โดย Neil Taylor
9. Change โดย Damon Centola
ภาพประกอบ
เฟซบุ๊ก สวนสัตว์เปิดเขาเขียว - 7 กันยายน 2567