‘รถเพลิงไหม้ใช้งานมาแล้ว 54 ปี’ ซ้ำ ‘ถังแก๊สเสื่อมสภาพ’ เหตุทำครู- นักเรียนเสียชีวิตรวม 23 ราย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคจี้รัฐ หยุดวัวหายล้อมคอก ต้องออกมาตรการควบคุมรถโดยสารสาธารณะให้เป็นรูปธรรมเสียที
จากเหตุการณ์ รถบัสทัศนศึกษา 1 ชั้นครึ่ง ที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี ว่าจ้างรถไม่ได้มาตรฐานมาใช้จนเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ขึ้นบริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 1 ต.ค. 2567 จนทำให้นักเรียนและครูต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวม 23 ราย
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org): เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2567 สภาองค์กรผู้บริโภค จัดแถลงข่าว กรณีอุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ ถึงเวลาทบทวนแนวทางการทัศนศึกษาที่ปลอดภัย โดยมองว่าถึงเวลาจริงจังกับการดำเนินการด้านความปลอดภัยของรถสองชั้นในการรับจ้างแบบไม่ใช่รถประจำทาง และต้องเร่งทบทวนมาตรฐานการทัศนศึกษา ให้มีความเหมาะสมกับเด็กนักเรียนในแต่ละช่วงวัย
สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า ประเทศเราไม่ควรยอมรับการตายในสิ่งที่เราป้องกันได้ สิ่งที่สะท้อนจากอุบัติเหตุในครั้งนี้คือ เราใช้รถที่ไม่ปลอดภัยเลย ดูภายนอกสวยงาม แต่เป็นรถที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 2513 สะท้อนให้เห็นว่ากลไกการใช้กฎหมายหย่อนยานมาก ขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีรถที่ไม่ปลอดภัยออกมารับผิดชอบอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เราสนับสนุนให้มีการทัศนศึกษา ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ทัศนศึกษา แต่อยู่ที่เราใช้รถที่ไม่มีความปลอดภัยเลย ต้องไปรื้อระบบที่ไม่ปลอดภัย เช่น การตรวจสภาพรถในปัจจุบันที่เชื่อถือไม่ได้ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ อีกส่วนหนึ่งคือการทำสัญญาของโรงเรียนในการเลือกใช้รถสำหรับการเดินทางไปทัศนศึกษาที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องเหมาะสม ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ในหลายกรณีพบว่าการเยียวยาไม่สมเหตุสมผล ปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องเร่งทบทวน
ชี้ กม.ไทยหย่อนยาน-จี้รัฐออกมาตรการควบคุม
ทางด้าน นฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ชี้ว่าไม่ใช่แค่ครั้งนี้ เพราะตั้งแต่ต้นปี 2567 มีหลายครั้งที่เกิดเหตุลักษณะเดียวกัน
ดังนั้น จึงมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาตรการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจนเป็นรูปธรรมเสียที เพราะทุกครั้งที่เกิดเหตุไม่เคยเห็นการออกมาจัดการกับเรื่องนี้แต่กลับปล่อยปละละเลยจนเกิดเหตุสลดขึ้นอีกครั้ง
2.ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกยังเปิดช่องรถเก่ารถเสื่อมสภาพ ให้ดัดแปลงรถเอามาใช้รับส่งผู้โดยสารแต่กลับไม่เคยกำหนดมาตรการควบคุมที่เข้มงวด
3.รถที่ใช้ถังก๊าซ NGV จะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด สูงสุดโดยเฉพาะเมื่อติดตั้งในรถโดยสารสาธารระขนาดใหญ่
4.การตรวจสอบโดยสำนักข่าวไทยรัฐ พบว่ารถคนที่เกิดเหตุจดทะเบียนใช้งานมาตั้งแต่ปี 2513 นับถึงปัจจุบันจึงใช้งานมาแล้ว 54 ปี ผ่านการตรวจสภาพรถเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ในปีนี้ แต่ยังพบถังแก๊สเสื่อมสภาพ เป็นเหตุให้เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นจึงลุกลามไปได้อย่างรวดเร็ว กรมการขนส่งทางบก จะออกมารับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร
5.มาตรการเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากรถโดยสารสาธารณะไร้มาตรฐาน เป็นแค่แก้ปัญหาปลายเหตุแต่การบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นต่างหากเป็นสิ่งสำคัญ
6.รถบัส 2ชั้น ที่มีสภาพไม่ปลอดภัยทั้งเก่าและมีการดัดแปลง ไม่ได้มาตรฐานหลายลักษณะแต่กลับมีการใช้ในสาธารณะอยู่ทั่วไป มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเสนอต้องกำหนดมาตรฐานของรถโดยสารรับส่งนักเรียนอย่างเป็นรูปธรรม รถทุกคันต้องทำประกันภัยเป็นมาตฐานชั้น1 VIP นั่นคือรถต้องมีมาตรฐานที่ดีที่สุด ขณะที่รถเก่าต้องมีการตรวจสภาพเพื่อกำจัดออกไปในที่สุด โดยหากกรมการขนส่งทางบกอ้างว่ามีศักยภาพ ความพร้อม และเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบมาตรฐานรถ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเสนอให้ยกเลิกรถบัส 2 ชั้นและรถบัสโดยสารที่ไม่ปลอดภัยเพราะใช้รับผู้โดยสารจำนวนมาก เมื่อเกิดเหตุสลดใจขึ้นแล้ว การเยียวยา ช่วยเหลือเพียงใดก็วัวหายล้อมคอก ไม่อาจทดแทนได้
7.มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคขอเสนอไปที่โรงเรียนต้องจัดหารถที่ได้มาตรฐานมาจัดทัศนศึกษาต้องดู"สัญญาเช่า"ที่มีสาระสำคัญต้องให้ผู้ประกอบการเป็นฝ่ายรับผิดชอบชีวิตของผู้ใช้บริการ ต้องศึกษาข้อมูลต่างๆของรถที่ได้มาตรฐานครบถ้วน รวมถึงมีโรงเรียนมีการเตรียมความพร้อมให้แก่บุคลากรครูและนักเรียนมีความรู้เอาชีวิตรอดจากอุบัติเหตได้ มีการจัดทำแผนเพื่อรับมือเหตุฉุกเฉิน