"...ตั้งแต่ที่เข้ามารับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ มีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่เคยเป็นข้าราชการ มันก็ต้องเริ่มจากการที่ไปดูว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้าง ตอนที่เขายื่นกัน เราก็ยื่นไปทั้งหมด 3 ครั้ง ซึ่ง 2 ครั้งแรก (ยื่นตอนเข้ารับตำแหน่งกับยื่นเพิ่มเติมครั้งที่ 1)เป็นช่วงเวลาที่เราเข้าไปรับตำแหน่งตอนปี 2565 พูดตรงๆก็คือเราอยากจะยื่นครั้งเดียว แต่เอกสารมันไม่เสร็จ ผมก็เลยใช้วิธีว่าครั้งแรกยื่นทั้งหมด ครั้งที่ 2 เป็นเอกสารเพิ่มเติม ทีนี้ก็เข้าใจว่าเรายื่น 2 ครั้งนั้นครบแล้ว..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org): สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศราได้นำเสนอข้อมูลการถือหุ้นในบริษัทเอกชนของนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มีกรณีการถือครองหุ้นธุรกิจและหรือเป็นกรรมการทั้งหมด 5 บริษัท ได้แก่
1. บริษัท เพียงพอสุข จำกัด จำนวน 490 หุ้น จากทั้งหมด 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
2. บริษัท ธุรกิจสำเพ็ง จำกัด จำนวน 20,897 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท จากจำนวนทั้งหมด 370,000 หุ้น
3. บริษัท วันซ์ อะเกน จำกัด ประกอบการโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด นายศานนท์ ถือ 2,500 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท จากจำนวนทั้งหมด 50,000 หุ้น
4. บริษัท โลคอลล์ แพลตฟอร์ม จำกัด ประกอบกิจการตัวแทนธุรกิจการเดินทาง นายศานนท์ถือหุ้น 3,300 หุ้น (ได้จดทะเบียนเลิกบริษัทเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2566 ขณะนายศานนท์ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร)
5. บริษัท มหาชุมชน จำกัด ธุรกิจให้คำปรึกษาและพัฒนาชุมชน นายศานนท์ถือครอง 1,200 หุ้น (โอนหุ้นให้บุคคลอื่นก่อนยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. โดย บอจ.5 ระบุวันลงทะเบียนผู้ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหม่ (รับมาจากนายศานนท์) 31 พ.ค.2565 ก่อนนายศานนท์เข้ารับตำแหน่ง รองผู้ว่าฯวันที่ 1 มิ.ย.2565 เพียง 1 วัน
การถือครองหุ้นทั้ง 5 บริษัท ไม่ปรากฏในบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นแสดงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) กรณีรับตำแหน่ง วันที่ 1 มิ.ย.2565
ต่อมาในวันที่ 1 ก.ค. 2567 ปรากฏข้อมูลว่านายศานนท์ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนของ ‘เงินลงทุน’ซึ่งนายศานนท์ระบุว่า ‘ไม่มีเงินลงทุน’ก่อนหน้านี้ โดยเป็นเงินลงทุนของตนเองกับคู่สมรส 2 บริษัท 3 รายการ ได้แก่
ลำดับที่ 1 หุ้นสามัญ บริษัท เพียงพอสุข จำกัด จำนวนหน่วย 490 หน่วย ได้มาเมื่อวันที่ 24 พ.ค.2564 มูลค่า ณ วันที่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 12,250 บาท
ลำดับที่ 2 หุ้นสามัญ บริษัท โลคอลล์ แพลตฟอร์ม จำกัด จำนวนหน่วย 3,300 หน่วย ได้มาเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2563 มูลค่า ณ วันที่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 330,000 บาท
ลำดับที่ 3 หุ้นสามัญ บริษัท เพียงพอสุข จำกัด จำนวนหน่วย 490 หน่วย ได้มาเมื่อวันที่ 24 พ.ค.2564 มูลค่า ณ วันที่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 12,250 บาท
ลำดับที่ 1และ 2 มีชื่อนายศานนท์เป็นผู้ครองครอง ลำดับที่ 3 มีชื่อ นางสาวจิตชนก คู่สมรส เป็นผู้ครองครอง
อย่างไรก็ตาม การยื่นต่อ ป.ป.ช.ในครั้งนั้น ไม่ปรากฎ ทรัพย์สิน ‘เงินลงทุน’ อีก 2 แห่ง ได้แก่ หุ้น บริษัท วันซ์ อะเกน จำกัด และ บริษัท ธุรกิจสำเพ็ง จำกัด
ต่อมานายศานนท์จึงได้ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราพร้อมข้อมูลเอกสารลงรับของ ป.ป.ช. เพื่อยืนยันว่าได้ยื่นทรัพย์สินเงินลงทุนอีก 2 แห่งไปตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 2565
ต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดคำชี้แจง ของนายศานนท์ ที่ตอบข้อสงสัยทุกข้อของสำนักข่าวอิศรา เกี่ยวกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสำนักงาน ป.ป.ช. โดยเฉพาะประเด็นว่าทำไมต้องยื่นบัญชีทรัพย์เพิ่มเติมถึง 2 ครั้ง
@กรณียื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567
นายศานนท์ : คือตั้งแต่ที่เข้ามารับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ มีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่เคยเป็นข้าราชการ มันก็ต้องเริ่มจากการที่ไปดูว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้าง ตอนที่เขายื่นกัน เราก็ยื่นไปทั้งหมด 3 ครั้ง ซึ่ง 2 ครั้งแรก (ยื่นตอนเข้ารับตำแหน่งกับยื่นเพิ่มเติมครั้งที่ 1)เป็นช่วงเวลาที่เราเข้าไปรับตำแหน่งตอนปี 2565 พูดตรงๆก็คือเราอยากจะยื่นครั้งเดียว แต่เอกสารมันไม่เสร็จ ผมก็เลยใช้วิธีว่าครั้งแรกยื่นทั้งหมด ครั้งที่ 2 เป็นเอกสารเพิ่มเติม ทีนี้ก็เข้าใจว่าเรายื่น 2 ครั้งนั้นครบแล้ว
"จนกระทั่งพบว่ามีอยู่ 2 บริษัทที่มีปัญหา ก็คือบริษัท เพียงพอสุข จำกัด กับบริษัท โลคอลล์ แพลตฟอร์ม จำกัด ซึ่ง 2 บริษัทนี้ต้องเรียนว่ามันไม่มีการเคลื่อนไหวมาเลย พูดง่ายๆก็คือผมยังไม่ได้มีอะไรเลยด้วยซ้ำ แม้กระทั่งเปิดบัญชีธนาคารยังไม่มีเลย"
"ทีนี้มารู้ว่าเรายังไม่ยื่น เพราะว่ามันมีใบจากกรมสรรพากร ว่าให้ไปยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายของบริษัท เราก็นึกได้ว่ามันมีบริษัทอยู่ 2 ที่ เราไม่ได้ยื่นไป ก็เลยไปปรึกษากับหลายท่านที่เขาต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินเหมือนกัน ก็ทราบว่าแม้บริษัทจะไม่มีรายได้ ก็ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน เพื่อความบริสุทธิ์ เลยเป็นที่มาว่าเรายื่นบัญชีทรัพย์สินไปที่นั่นเลย (ยื่นเพิ่มเติมครั้งที่ 2) ซึ่งอันที่จริงก็มีหลายท่านบอกว่าให้รอก่อน ให้ตอนพ้นตำแหน่งค่อยยื่นก็ได้ เพราะมันไม่ได้มีรายได้อะไร แต่ผมตัดสินใจว่าก็ยื่นไปเลย ซึ่งเราคิดว่าบริษัทนั้น มันไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรแล้ว เราก็เลยขอปิดบริษัทไปด้วยเลย ก็น่าจะกำลังอยู่ในช่วงดำเนินการ"
@การโอนหุ้นบริษัทต่างๆ
นายศานนท์ : "มีเรื่องที่ผมอยากจะชี้แจงตรงนี้เลยว่าเคยมีบริษัทสาธารณะที่ทางอิศราระบุว่าผมลาออกก่อนคือก็คือบริษัท มหาชุมชน จำกัด ต้องเรียนว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ผมเคยดำเนินการมาในอดีต และเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับเมือง อนาคตอาจจะรับงานราชการ เพราะฉะนั้นเพื่อความบริสุทธิ์ใจและไม่อยากถือหุ้นในบริษัทที่มีแนวทางจะทำงานกับรัฐ ก็เลยลาออกมา ถามว่าทำไมเราถึงเคลียร์ตัวเอง ลาออกในวันที่ 30 มิ.ย. ตรงนี้ต้องขอเรียนว่าก็เพิ่งรู้ในวันที่ 22 มิ.ย. ตอนที่นายชัชชาติ สิทธิพันธ์เป็นผู้ว่าฯ ว่าเราจะได้เป็นรองผู้ว่าฯ ซึ่งระยะเวลาก็กระชั้นชิดมาก ก็เลยเร่งไม่ให้มันจบภายในสัปดาห์ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่ง เนื่องจากมองว่าการถือหุ้นในบริษัทนี้ต่อไปก็คงจะไม่ดี ส่วน น.ส.วิภาวี กิตติเธียร ที่สำนักข่าวอิศราได้ลงข่าวไป เขาก็เป็นคนที่ผมได้ขายหุ้นไปให้แล้วเขาจะมาเป็นคนหลักที่มาดูแลบริษัทต่อจากผม"
"สำหรับบริษัท วันซ์ อะเกน ที่ผมบอกว่าถือ 2,500 หุ้น นั้นจากทั้งหมด 50,000 หุ้น ก็อยู่ในสัดส่วน 5 เปอร์เซ็นต์พอดี แล้วบริษัทวันซ์ อะเกน ก็ไม่ได้รับงาน เป็นคู่สัญญา หรือมีอะไรเกี่ยวข้องกับงานรัฐอย่างแน่นอน และขอเรียนว่าเรายื่นไปหมดแล้ว เหลือแค่บริษัทที่เรานึกว่ามันไม่มีรายได้เท่านั้นที่เราไปยื่นทีหลัง"
"ส่วนอีกบริษัทได้แก่ บริษัทธุรกิจ สำเพ็ง จำกัด ต้องขอเรียนว่าเป็นบริษัทที่ดำเนินการเรื่องโรงแรมลุคโฮเทล โดยผมก็ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินไปแล้วเกี่ยวกับหุ้นในบริษัทนี้ ซึ่งก็น่าจะถือหุ้นในสัดส่วน 5 เปอร์เซ็นต์เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามผลประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมนี้นั้นไม่ค่อยจะดี ค่อนข้างจะประสบปัญหา ทางผู้ถือหุ้นเองก็เลยต้องการจะให้มีการลงทุนเพิ่มเพื่อให้ธุรกิจมันดีขึ้น"
โรงแรมลุคโฮเทล และบริษัท ธุรกิจสำเพ็ง จำกัด
"แต่จุดที่เราอยู่นั้นไม่สามารถจะไปลงทุนได้ เราช่วยอะไรเขาไม่ได้ ก็เลยขายหุ้นไปแล้วเมื่อประมาณเดือนที่ผ่านมา โดยสำนักข่าวอิศราก็ได้ลงข่าวในส่วนนี้ไปแล้วเช่นกัน ซึ่งหลังจากนี้ทางบริษัท ธุรกิจสำเพ็ง จำกัด ก็น่าจะมีการปรับเปลี่ยน น่าจะมีการลงทุนต่างๆไปเพิ่มเติม แต่สำหรับเราก็ยอมรับว่าธุรกิจมันค่อนข้างจะยากจริงๆ ดังนั้นจึงมีการขายที่ไปให้กับเจ้าของที่ตรงนั้นไป"
"สรุปก็คือตอนนี้ผมมีหุ้นจริงๆ แล้วบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ก็มีแค่บริษัท วันซ์ อะเกน จำกัด เท่านั้น"
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
@กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวตอนแรกว่าไม่ได้ไปยื่นบัญชีทรัพย์สิน บริษัท วันซ์ อะเกน จำกัด และบริษัท ธุรกิจสำเพ็ง จำกัด
นายศานนท์ : "อันนี้ต้องขอเรียนก่อนว่าเราไม่ได้มีเจตนาว่าจะไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ต้องขอเรียนว่าได้ยื่นบัญชีไปแล้วตั้งแต่ครั้งแรก ผมมีเอกสารที่ยืนยันว่า ป.ป.ช.เขายืนยันว่าเขาลงรับเอกสารไปแล้ว สำหรับหุ้นในบริษัท วันซ์ อะเกน จำกัด และบริษัท ธุรกิจสำเพ็ง จำกัด นั้นต้องขอเรียนว่าอยู่ในรายละเอียดการยื่นบัญชีทรัพย์สินที่ผมได้ไปยื่นเพิ่มเติมในวันที่ 8 พ.ย. 2565 หลังจากที่ไปยื่นครั้งแรก"
"สรุปก็คือผมไปยื่นบัญชีทรัพย์สิน 3 ครั้ง คือครั้งที่ 1 ตอนเข้ารับตำแหน่งวันที่ 27 ก.ค. 2565 ครั้งที่ 2 ก็คือการยื่นเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในเดือน พ.ย. 2565 และครั้งที่ 3 ก็คือตอนที่ผมบอกว่าลืม 2 บริษัทที่ไม่มี ก็เป็นการยื่นเพิ่มครั้งที่ 2 ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567"
"โดยในการยื่นครั้งแรก (27 ก.ค.2565) ผมยื่นว่าเป็นกรรมการ บริษัท วันซ์ อะเกน จำกัด และบริษัท ธุรกิจสำเพ็ง จำกัด แล้วผมก็ไปยื่นเพิ่มเติม (8 พ.ย.2565) เอาเอกสารไปเติมในช่วงนั้น คือผมได้ยื่นไปแล้วตั้งแต่ครั้งแรกในเดือน ก.ค. แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่เคยยื่นทรัพย์สินมาก่อน ผมก็เลยเอาเอกสารไปยื่นเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งถ้าหากไปดูที่เอกสารปะหน้า ดูที่แฟ้มของ ป.ป.ช.ก็จะเจอข้อมูลในส่วนนี้ 100 เปอร์เซ็นต์"
"ขอเรียนเพิ่มเติมว่าสำหรับหุ้นที่ผมถืออยู่ในบริษัท วันซ์ อะเกน จำกัด นั้นไม่มีเปลี่ยน ส่วนบริษัท ธุรกิจสำเพ็ง จำกัดนั้นมีเปลี่ยน ซึ่งก็จะไปยื่นภายหลังตอนออกจากตำแหน่ง"
@ พนักงานโรงแรม วันซ์ อะเกน บอกว่ายังเข้าไปที่โรงแรมอยู่บ้าง
นายศานนท์ : "คือต้องชี้แจงว่าบริษัท วันซ์ อะเกน จำกัด นั้นเป็นโรงแรม และก็เป็นที่ๆให้ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถ้าหากมีประชุมเช้า ที่นั่นก็เหมือนบ้านผม ขณะที่บ้านจริงอยู่เขตดุสิต หรือก็คือว่ามันใกล้สามารถเดินทางมาทำงานได้ ส่วนในเรื่องธุรกิจต้องชี้แจงว่าวันซ์ อะเกน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับภาครัฐอยู่แล้ว เพราะว่ามันเป็นธุรกิจโรงแรม"
"สรุปก็คือธุรกิจที่ผมมีหุ้น แล้วยังดำเนินกิจการอยู่ ตอนนี้เหลือที่เดียวแล้วก็คือ วันซ์ อะเกน เท่านั้น ส่วนที่อื่นที่เป็นประเด็นก็เข้าใจว่ามันน่าจะมีปัญหาเรื่องของความคาดเคลื่อนกันในเรื่องของช่วงเวลา เพราะในช่วงที่เรายื่นบัญชีไปตอนที่รับตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าฯ มันต้องยื่นให้เร็ว ให้ทันในช่วงเดือน ก.ค. 2565 เรามีเอกสารอะไรเท่าที่มี เราก็ยื่นไปก่อนแล้วเราก็ไปยื่นในภายหลัง"
โรงแรมวันซ์ อะเกน ธุรกิจแห่งเดียวที่นายศานนท์ระบุว่ายังมีหุ้นและยังเปิดกิจการอยู่
เหล่านี้ คือ คำชี้แจง ของนายศานนท์ ที่ตอบข้อสงสัยทุกข้อของสำนักข่าวอิศรา เกี่ยวกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสำนักงาน ป.ป.ช. ตามที่เคยนำเสนอข่าวไปแล้ว
หลังจากนี้ หากมีการตรวจสอบพบข้อมูลเพิ่มเติมอีก สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
เรื่องเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของนายศานนท์
- ‘ศานนท์ หวังสร้างบุญ’ รองผู้ว่าฯ กทม. ถือหุ้น ทำธุรกิจ 3 บริษัท (1)
- ทรัพย์สิน 8 ล.'ศานนท์ หวังสร้างบุญ'รองผู้ว่าฯกทม.ภรรยาทำรีสอร์ท-สวนเกษตรอินทรีย์ จ.เลย(2)
- ปริศนา! ไม่มีหุ้น 3 บ.ในบัญชีทรัพย์สิน 'ศานนท์' รองผู้ว่าฯกทม.-เจ้าตัวแจงยื่นเพิ่มไปแล้ว (3)
- เปิด‘ที่มา’หุ้น 3 บริษัท ‘ศานนท์’ รองผู้ว่าฯกทม.ไม่มีในบัญชี ป.ป.ช.ถือครองตั้งแต่ก่อตั้ง (4)
- เปิด บ.ที่ 5 ‘ศานนท์’รองผู้ว่าฯ กทม. ลาออก กก.-โอนหุ้น 6 แสน ก่อนยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช. (5)
- ข้อมูลใหม่! สาวรับโอนหุ้นธุรกิจให้คำปรึกษา ที่แท้‘กก.-หุ้นส่วน’บ.เก่า‘ศานนท์’รองผู้ว่าฯ (6)
- INFO: เจาะธุรกิจ 5 บริษัท ‘ศานนท์’ รองผู้ว่ากทม. ก่อนยื่นบัญชีฯป.ป.ช. ไม่มีเงินลงทุน (7)
- ล่าสุด ‘ศานนท์’ รองผู้ว่าฯ กทม. แจ้งลาออก กก.ธุรกิจร้านอาหาร จ.เลย แล้ว (8)
- ย้ายไป 2 สัปดาห์แล้ว! ตามไปดู บ.ให้คำปรึกษา รองผู้ว่าฯศานนท์ ปมโอนหุ้นก่อนยื่นบัญชีฯ (9)
- ล่าสุด ‘ศานนท์’ รองผู้ว่าฯ กทม. โอนธุรกิจโรงแรมสำเพ็ง 20,897 หุ้น ให้คนอื่นแล้ว (10)
- อ้างเข้าใจคลาดเคลื่อน! ‘ศานนท์’รองผู้ว่าฯ กทม.เพิ่งยื่นบัญชีฯเพิ่มป.ป.ช. มีหุ้น 2 บริษัท (11)
- ดูชัด! หุ้นอีก 2 บริษัท ‘ศานนท์’ รองผู้ว่าฯกทม.ไม่มีในบัญชีทรัพย์สินกรณียื่นเพิ่ม ป.ป.ช.(12)
- เผยโฉม รร.4 ชั้นย่านสำราญราษฎร์ - รองผู้ว่าฯศานนท์ ถือ 2,500 หุ้น ยื่นเพิ่ม ป.ป.ช.แล้ว(13)
- 'ศานนท์'แจงยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.เพิ่ม 2 ครั้ง หุ้น 4 บริษัทครบหมดแล้วหลังเป็นรองผู้ว่าฯจากข่าวดังกล่าว (14)