เพลินจิต : สินบนร้อนบนผืนดินต้องห้าม

"...หลายท่านอาจไม่เคยรู้ว่า ก่อนที่สำนักงานใหญ่ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย(ทศท.) หรือ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ในปัจจุบัน จะย้ายไปอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้กับศูนย์ราชการนั้น ที่ดินที่กำลังตกเป็นข่าวการติดสินบน 20 ล้าน เคยเป็นที่ตั้งขององค์การโทรศัพท์ฯ มาก่อนนานถึงเกือบ 70 ปี เรียกกันโดยทั่วไปว่า “องค์การโทรศัพท์เพลินจิต” ก่อนที่จะหมดสัญญาและส่งมอบพื้นที่ คืนให้กับ “สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” หรือเดิมคือ “สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” หรือ “กรมพระคลังข้างที่” ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5..."

เพียงไม่นานหลังจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าพร้อมคณะบินถึงฝรั่งเศสเพื่อแถลงข่าวเปิดตัว “บ้านอองโตนี” บ้านเดิมของรัฐบุรุษอาวุโส นายปรีดี และท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ที่นายธนาธร ควักเงินส่วนตัวเกือบ 64 ล้านบาทซื้อเอาไว้ บุคคลนามสกุลเดียวกันที่ชื่อ นาย สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นน้องชายร่วมสายโลหิตของ นายธนาธร ได้ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษา ว่า จำเลยคือ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 84 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/5 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทแต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 84 เพียงบทเดียว จำคุก 8 เดือน ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุก 6 เดือน(อ้างอิง 1)

ทั้งนี้โจทก์ได้ฟ้องว่าจำเลยให้เป็นเงินค่าจ้างแก่ นาย ส. มีเจตนาเป็นนิติกรรมอำพรางเพื่อใช้ให้นาย ส.กับนาย ป.นำเงินไปมอบให้แก่รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ โดยวิธีอันทุจริตและผิดกฎหมายเพื่อจูงใจให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ด้วยการจัดสรรที่ดินแปลงที่ทำการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ให้บริษัทเรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ได้รับประโยชน์ด้วยการได้สิทธิการเช่าที่ดินระยะยาวโดยไม่ต้องผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติอันเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามระเบียบและแนวทางปฏิบัติทำให้เสียประโยชน์ที่จะได้รับเงินจากการประมูลในราคาที่ควรจะได้สูงที่สุด
หลังศาลฯ มีคำพิพากษาตัดสินคดี ทนายของ นายสกุลธร ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วได้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยใช้หลักประกันเดิมเป็นเงินสด จำนวน 150,000 บาท (อ้างอิง 1)

ที่ดิน “องค์การโทรศัพท์ ฯ” ที่เป็นข่าวอยู่ตรงไหน

หลายท่านอาจไม่เคยรู้ว่า ก่อนที่สำนักงานใหญ่ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย(ทศท.) หรือ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ในปัจจุบัน จะย้ายไปอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้กับศูนย์ราชการนั้น ที่ดินที่กำลังตกเป็นข่าวการติดสินบน 20 ล้าน เคยเป็นที่ตั้งขององค์การโทรศัพท์ฯ มาก่อนนานถึงเกือบ 70 ปี เรียกกันโดยทั่วไปว่า “องค์การโทรศัพท์เพลินจิต” ก่อนที่จะหมดสัญญาและส่งมอบพื้นที่ คืนให้กับ “สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” หรือเดิมคือ “สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” หรือ “กรมพระคลังข้างที่” ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

ปัจจุบันอาคารต่างๆที่เคยใช้เป็นพื้นที่ติดตั้ง อุปกรณ์โทรคมนาคม อุปกรณ์ชุมสาย สำนักงานบริการและอาคารที่เคยเป็น ฝ่ายบริหารโครงการ ตึกอำนวยการและอาคารอื่นๆนับสิบแห่งในอดีต รวมทั้งโรงอาหารราคาย่อมเยาและรสชาติอร่อยที่ พนักงานองค์การโทรศัพท์ฯและพนักงานออฟฟิศแถวเพลินจิตนับพันชีวิตฝากท้องเอาไว้ได้ถูกรื้อถอนออกไปและปรับพื้นที่เรียบจนไม่เหลือร่องรอยใดๆของความเป็นองค์การโทรศัพท์ฯไว้ แม้แต่น้อย ทั้งที่ในอดีตพื้นที่แห่งนี้จะเรียกว่าบ้านของชาวโทรศัพท์ก็ว่าได้เพราะผู้คนในอดีตจะรู้จักกันดีว่าหากพูดถึงโทรศัพท์ผู้คนจะนึกถึงองค์การโทรศัพท์เพลินจิตเสมอและหากเป็นศูนย์โทรคมนาคมของประเทศไทย ผู้คนจะนึกถึงตึกโทรคมนาคม กรุงเกษม ที่ตั้งอยู่เลียบคลองผดุงกรุงเกษมซึ่งในอดีตเคยเป็นสถานที่เชิดหญ้าชูตาด้านโทรคมนาคมของประเทศ เพราะครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ที่ เจ้าชาย เบอร์ทิน (Prince Bertil) แห่งสวีเดนเคยเสด็จเยี่ยมชมเมื่อห้าสิบเจ็ดปีก่อนและเมื่อมีการปฏิวัติรัฐประหารคราวใด นอกจากสถานีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์แล้ว ศูนย์โทรคมนาคมกรุงเกษม คือหนึ่งในเป้าหมายที่คณะปฏิวัติต้องส่งทหารมาควบคุมทุกครั้ง

ภาพองค์การโทรศัพท์เพลินจิตในปัจจุบัน

สำหรับที่ดินผืนงามที่เป็นข่าวนั้น หากขึ้นรถไฟฟ้า บีทีเอส มุ่งหน้าไปยังสถานีอโศก ตำแหน่งที่ตั้งของที่ดินผืนนี้จะอยู่ตรงทางออกฝั่งซ้ายของสถานีชิดลมซึ่งขนาบข้างด้วยโรงแรมฮอลิเดอินน์ และการไฟฟ้านครหลวงเพลินจิตนั่นเอง

ทำไมต้องเป็น “เพลินจิต”

“เพลินจิต” เป็นชื่อถนนสายสั้นๆ ในกรุงเทพมหานคร แต่เป็นถนนที่มากด้วยมูลค่าทางเศรษฐกิจและมีประวัติที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรศัพท์ของเมืองไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถนนเพลินจิตถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2463 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เดิมทีสะกดว่า “เพลินจิตต์” ตามหลักฐานที่พบในโฉนดที่ดินเก่าหรือเอกสารบางแห่งเขียนว่า “เพลินจิตร์” ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนเป็น “เพลินจิต” ในภายหลัง

ถนนเพลินจิตมีจุดเริ่มต้นจากถนนราชดำริที่แยกราชประสงค์ตรงไปทางตะวันออกตัดกับถนนชิดลมตรงหน้าห้างเซ็นทรัลชิดลมที่เรียกว่าแยกชิดลมและเลยไปตัดกับถนนวิทยุที่แยกเพลินจิตจนไปสิ้นสุดที่แนวขอบทางรถไฟสายช่องนนทรีก่อนที่จะบรรจบกับถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นเส้นทางหลักของการเดินทางไปภาคตะวันออกในสมัยก่อน

ด้วยที่ตั้งอันเป็นทำเลทองของถนนเพลินจิต ถนนที่สั้นเพียง 2.8 ก.ม. จึงเต็มไปด้วยโรงแรม ศูนย์การค้า คอนโดมิเนียมหรู โรงเรียนดัง รวมถึงมุมหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของสถานทูตอังกฤษซึ่งกลายเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ไปแล้ว สองฟากฝั่งของถนนเพลินจิตจึงเต็มไปด้วยตึกใหญ่ๆรายเรียงกันจนแทบไม่มีช่องว่างและยังมีรถไฟฟ้าวิ่งคร่อมถนนทำให้บรรยากาศของถนนเพลิตจิตอันร่มรื่นในอดีตแทบไม่เหลือร่องรอยให้เห็น(อ้างอิง 2)

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามักมีข่าวให้ได้ยินอยู่เนืองๆว่าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินจะนำที่ดินผืนนี้ไปพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใดเพราะที่ดินทำเลทองผืนใหญ่ที่องค์การโทรศัพท์ฯ หรือ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ เคยถือครองอยู่นั้นกำลังจะหมดสัญญาและปัจจุบันหมดสัญญาไปเรียบร้อยแล้ว

ที่ดินทำเลที่งดงามที่สุดผืนนี้ จึงเป็นพื้นที่ที่หาไม่ได้อีกแล้วบนถนนเพลินจิตและบริเวณใกล้เคียง พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นที่หมายปองของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตาเป็นมันและน่าเชื่อว่าพื้นที่ดังกล่าวน่าจะเป็นที่หมายปองของบริษัทที่ตกเป็นข่าวซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับจำเลยด้วยเช่นกัน แม้ว่าที่ดินผืนนี้จะมีมูลค่าสูงถึงราว 12,000 ล้านก็ตาม (คิดจากประมาณการราคาที่ดินซึ่งอยู่ราว ตารางวาละ 2.5 ล้านบาท) แต่การนำไปพัฒนาต่อยอดทางธุรกิจน่าจะมีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าของที่ดินเปล่าผืนนี้หลายเท่านัก

ทุจริต คอรัปชัน เส้นทางสู่ความมั่งคั่งของมิจฉาชีพ

หากใครเป็นแฟนประจำของสำนักข่าวอิศราจะเห็นว่า มักมีการนำรายงานข่าวและคำตัดสินของศาลที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐระดับต่างๆตั้งแต่ ระดับตำบล ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศและ การเปิดโปงคดีการคอรัปชันของประเทศต่างๆ รวมทั้งนำบทความเกี่ยวกับการทุจริต คอรัปชัน มาเผยแพร่ให้อ่านอยู่เสมอแทบไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งผู้อ่านจำนวนไม่น้อยคงรับรู้ได้ว่า ดัชนีการรับรู้การทุจริตหรือคอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ของไทยยังอยู่ในอันดับที่ไม่ดีนักจากข่าวการทุจริตที่หลั่งไหลออกมาตามสื่อแทบทุกวัน

จากการจัดอันดับ ซึ่งจัดโดยขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติต่อ ดัชนีการรับรู้การทุจริตหรือคอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ประจำปี 2566 ประเทศไทย อยู่ที่ลำดับ 108 ของโลกโดยได้คะแนนเพียง 35 คะแนนขณะที่ประเทศที่มีคะแนนสูงสุดคือเดนมาร์กได้ 90 คะแนน แม้ว่าปีนี้ประเทศไทยจะมีคะแนนกระเตื้องขึ้นกว่าผลสำรวจในปี 2565 อยู่เล็กน้อยก็ตาม(อ้างอิง 3 )

ไม่เพียงแต่การทุจริตจะเกิดขึ้นระหว่างพนักงานของรัฐและเอกชนที่เข้ามามีส่วนพัวพันโดยทั่วไปเท่านั้น แต่การทุจริตทุกรูปแบบในบ้านเรายังได้คืบคลานเข้าไปถึงวงการสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ไม่เว้นแม้กระทั่งการเข้าไปทำมาหากินเบียดบังผลประโยชน์จากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ด้วยการปลอมแปลงเอกสารราชการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์(ชื่อเดิม) โดยการสมคบกันจัดฉากเตรียมผ่องถ่ายทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ให้กับตนเองโดยหลีกเลี่ยงการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ เพื่อแลกกับผลประโยชน์อันมิพึงได้ โดยมิได้ยำเกรงต่อกฎหมายหรือความเสื่อมเสียที่จะเกิดแก่สถาบันกษัตริย์ เพียงเพราะต้องการแสวงหาความร่ำรวยโดยวิธีมิชอบและความล่อใจจากเงินใต้โต๊ะจำนวน 20 ล้านบาทดังที่เป็นข่าว

การนำทรัพย์สินที่ครั้งหนึ่งหน่วยงานของรัฐเคยใช้ทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมเพื่อการพัฒนาประเทศชาติมานานหลายทศวรรษและยังเป็นสมบัติของสำนักงานทรัพย์สินมหากษัตริย์ไปทำมาหากินด้วยวิธีฉ้อฉล เป็นเสมือนการติดสินบนเพื่อเอาทรัพย์ซึ่งเป็นผืนดินต้องห้ามไปใช้ประโยชน์เพื่อตนเอง จึงเป็นการกระทำที่ เห็นแก่ได้ ขาดความสำนึกและจะเป็นบาปติดตัวของผู้กระทำไปชั่วชีวิต ไม่ต่างจากการกระทำของพวกมิจฉาชีพที่น่ารังเกียจ แม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นผู้มีหน้ามีตาอยู่ในสังคมชั้นสูงก็ตาม ??? 

อ้างอิง

1. เปิดคำพิพากษา คุก 6 ด. ‘สกุลธร' น้องชาย ‘ธนาธร' https://www.isranews.org/article/isranews/128709-invessdddds.html
2. “เพลินจิต”..แค่ฟังชื่อก็เพลินใจ แต่ไฉนมีปัญหาคดีสินบน 20 ล้าน https://www.isranews.org/article/isranews-article/94020-pansuk-2.html
3. https://thaipublica.org/2024/01/corruption-perception-index-2023/

ภาพประกอบ

1. อดีต-วันวาน จาก ชมรมผู้เกษียณอายุ ทีโอที
2. https://mgronline.com/stockmarket/detail/9660000088556