ในฐานะกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ ผมเห็นว่าความเสียหายที่เกิดจากปัญหาดังกล่าว มีสาเหตุ และผิดพลาดของผู้ที่มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวข้องภายในสํานักงานมาจากการตัดสินใจที่ขาดความรอบคอบอัยการสูงสุด จึงถือเป็นกรอบภารกิจของผู้บริหารสํานักงานอัยการสูงสุดชุดใหม่ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาภายในองค์กรอัยการต่อไป
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) :เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2566 นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ กรรมการอัยการ (ก.อ.) ผู้ทรงคุณวุฒิได้เขียนจดหมายถึงข้าราชการอัยการระบุถึงปัญหาความล่าช้าในการแต่งตั้งข้าราชการอัยการ ซึ่งที่ประชุม ก.อ.มีการเสนอรายชื่อไปยังสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯลงมา ระบุว่าเป็นปัญหาจากการตัดสินใจที่ขาดความรอบคอบของผู้บริหารในสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ดังนั้นผู้บริหารงานชุดใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่จะต้องแก้ไขปัญหา
*****
เรียนพี่ ๆ น้อง ๆ อัยการที่รักและเคารพทุกท่าน
ตามที่เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 ผมได้แถลงถึงการประชุม ก.อ. ในวันดังกล่าวว่าระหว่างการ ประชุม กรรมการ ก.อ. แต่ละท่านได้แสดงความเห็นและความห่วงใยเกี่ยวกับประเด็นกรอบเวลาที่ท่านอัยการสูงสุดเสนอรายชื่อพนักงานอัยการที่ได้รับการเลื่อนชั้นเลื่อนตําแหน่งไปยังสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เข้าสู่ขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ ซึ่งเกรงว่าความล่าช้านี้จะทําให้เกิดความเสียหายได้
สืบเนื่องจากขณะนี้เป็นวันที่ 24 กันยายน 2566 ใกล้สิ้นปีงบประมาณอันเป็นวันสิ้นวาระการดํารงตําแหน่งของข้าราชการในแต่ละรอบปีจึงมีอัยการหลายท่านที่น่าจะได้รับผลกระทบสอบถามถึงรายละเอียดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเข้ามาเพื่อขอทราบถึงขั้นตอนการดําเนินการ ปัญหา อุปสรรค แนวทางการแก้ไขปัญหาของฝ่ายบริหาร รวมถึงอํานาจหน้าที่และการดําเนินการของ ก.อ. เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ผมขอเรียนว่าตามมาตรา 10 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการพ.ศ. 2553 บัญญัติให้การแต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ เมื่อพิจารณาตามมาตรา 34, 40, 41 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 ได้ บัญญัติให้ ก.อ. พิจารณาให้ความเห็นชอบ แล้วจึงนําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ซึ่งภายหลังจากที่ ก.อ. มีมติเห็นชอบแล้ว ท่านอัยการสูงสุดก็จะเป็นผู้ลงนามเสนอรายชื่อพนักงาน อัยการที่ได้รับการแต่งตั้งนั้น ไปยังสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนโปรดเกล้าฯ ต่อไป
ครั้งนั้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 ที่ประชุม ก.อ. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งพนักงานอัยการ ในรอบ วาระเดือนตุลาคม 2565 ระดับรองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการ รองอธิบดีอัยการ อัยการ พิเศษฝ่าย อัยการอาวุโส จํานวน 935 ราย และได้มีการเสนอไปยังสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่ เดือนกันยายน 2565 แต่มีเหตุขัดข้องในส่วนของสํานักงานอัยการสูงสุด ทําให้ ส่งเรื่องคืนกลับมาในเดือน พฤศจิกายน 2565 และภายหลังผ่านไปนานถึง 6 เดือน คือในเดือนพฤษภาคม 2566 ท่านอัยการสูงสุดจึง ได้ลงนามเสนอบัญชีรายชื่อพนักงานอัยการไป สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อีกครั้ง เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการ โปรดเกล้าฯ ตามกฎหมาย
ผมเห็นว่าผลของความล่าช้าในการเสนอรายชื่อไปยังสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่งผลให้จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ลงมา ได้สร้างความเสียหายต่อข้าราชการอัยการที่มีรายชื่ออยู่ในคําสั่งดังกล่าว อย่างมาก หากไม่มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาจนกระทั่งพ้นวันที่ 30 กันยายน 2566 จะส่งผลให้อัยการท่านที่จะต้องพ้นจากตําแหน่งบริหารไปเป็นอัยการอาวุโสรักษาการหรือตําแหน่งตามสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายจะพ้นไปโดยตําแหน่งสุดท้ายไม่ใช่ตําแหน่งที่ตนเอง แต่เป็นตําแหน่งสุดท้ายที่ตนเองเคยได้รับการโปรดเกล้าฯ และบางท่านอาจสูญเสียสิทธิในการสมัครในตําแหน่งกรรมการองค์กรอิสระที่กําหนดคุณสมบัติไว้ และ แม้ภายในอาทิตย์หน้า กรณีจะเป็นเช่นใดก็ตาม หลายท่านก็ได้รับความเสียหายที่ไม่มีโอกาสได้ดํารงตําแหน่ง บริหารตามสิทธิที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ตําแหน่งรักษาการเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีบัญชีรายชื่อพนักงานอัยการตามคําสั่งในรอบเมษายน 2566 อีกจํานวนกว่า 1,000 ราย ซึ่งผ่านความเห็นชอบของที่ประชุม ก.อ. ไปตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 และท่านอัยการสูงสุด ได้เสนอรายชื่อไปยังสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ เมื่อประมาณเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา และขณะนี้ได้มีบัญชีเลื่อนแต่งตั้งโยกย้ายในรอบวาระเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งผ่านความ เห็นชอบจากที่ประชุม ก.อ. เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2526 และที่อาจจะมีการประชุมแต่งตั้งโยกย้ายในเดือน ตุลาคม 2566 นี้อีก รวมแล้วเกือบ 1,000 ราย
ในฐานะกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ ผมเห็นว่าความเสียหายที่เกิดจากปัญหาดังกล่าว มีสาเหตุ และผิดพลาดของผู้ที่มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวข้องภายในสํานักงานมาจากการตัดสินใจที่ขาดความรอบคอบอัยการสูงสุด จึงถือเป็นกรอบภารกิจของผู้บริหารสํานักงานอัยการสูงสุดชุดใหม่ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาภายในองค์กรอัยการต่อไป
ในวันประชุม ก.อ. ครั้งต่อไปในวันที่ 27 กันยายน 2566 เวลา 09.30 น. นี้ ผมจะได้สอบถาม ประเด็นเหล่านี้กับท่านอัยการสูงสุด และนําเรียนพี่น้องอัยการทุกท่านเพื่อทราบต่อไป
ขอบพระคุณครับ
นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์
ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ
24 กันยายน 2566