"... หลายเดือนก่อน เห็นว่ามีกรณีหุ้น ITV ของคุณพิธา คุณพิธาสามารถไปโยกย้ายหุ้นออกได้ จึงได้ไปปรึกษาตลาดหลักทรัพย์ ถึงวิธีการ ทำอย่างไรถึงจะเอาลายลักษณ์อักษรที่มันคาอยู่ในพอร์ตเฉย ๆ ของผม ตลาดหลักทรัพย์แจงมาว่าผมถือไอทีวี 40,000 หุ้น มูลค่าเป็นศูนย์ แต่ของคุณพิธา หุ้น 42,000 แต่มีมูลค่า นี่คือความต่าง..."
เป็นนักการเมืองรายล่าสุด ที่ปรากฏข้อมูลการถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) (ITV)
สำหรับ นายจักรกฤษณ์ ทองศรี ที่แจ้งข้อมูลในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่ง สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา ว่า ถือหุ้น ITV จำนวน 40,000 หุ้น ไม่ระบุมูลค่า
ก่อนหน้านี้ มีคำชี้แจงเบื้องต้น ของ นายจักรกฤษณ์ ทองศรี ปรากฏต่อสาธารณชนไปแล้วว่า ได้ยกหุ้นตัวนี้ไปให้กับลูกพี่ลูกน้องตั้งแต่ปี 2561 แล้ว ก่อนลงสมัครรับเลือกตั้งปี 2562
"หุ้น ITV หยุดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ถูกยกเลิกสัมปทาน ปี 2561 จึงทำสัญญายกหุ้นให้ลูกพี่ลูกน้อง ก่อนการเลือกตั้ง เพราะไม่สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ ซึ่งเวลาทำหนังสือไปขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกใบรับรองหุ้น ซึ่งมีหุ้นตัวอื่นอยู่ด้วย จะเห็นชัดเจนว่า ITV มี 4 หมื่นหุ้นจริง แต่ไม่มีมูลค่า เพราะไม่มีการซื้อขาย และที่สำคัญที่สุด หุ้นคือ สังหาริมทรัพย์สามารถทำหนังสือยกให้ ซึ่งก็ถือว่ามีผลสมบูรณ์แล้ว"
ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้องเพื่อแจ้งหรือชี้เบาะแสให้ กกต.ได้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2560 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 151 เพื่อให้มีการสืบสวน หรือไต่สวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานอันควรสงสัยและเชื่อได้ว่านายจักรกฤษณ์ ทองศรี ส.ส.แบบแบ่งเขต จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 7 พรรคภูมิใจไทย ถือครองหุ้นสื่อมวลชนในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 40,000 หุ้น อันเป็นข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ ม.98(3) ประกอบ ม.106(6) หรือไม่ เป็นทางการแล้ว
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา มีโอกาสสัมภาษณ์ นายจักรกฤษณ์ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงการถือครองหุ้น ถือหุ้น ITV จำนวน 40,000 หน่วย เป็นทางการอีกครั้ง
นายจักรกฤษณ์ ยืนยันว่า หุ้นไอทีวี ณ เวลาก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งปี 62 มันถูกระงับการซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์ เพราะฉะนั้นจะไม่สามารถโอน หรือซื้อ-ขาย ได้ และหุ้นดังกล่าว คือสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่ง จึงได้ทำสัญญายกให้น้องชาย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องไป ตั้งแต่ปี 61 แล้ว ก่อนที่เราจะมาลงสมัครรับเลือกตั้งปี 62
"มันเป็นหนทางเดียวที่จะสามารถยกหุ้นให้กับคนอื่นได้ สัญญายกให้ดังกล่าว มีหนังสืออยู่แล้ว"
เมื่อสำนักข่าวอิศรา ถามว่า หนังสือตัวสัญญาดังกล่าว อยู่ในรายการทรัพย์สินแจ้ง ป.ป.ช. หรือไม่?
นายจักรกฤษณ์ ตอบว่า "ไม่ได้อยู่"
"เพราะตอนยื่นบัญชีทรัพย์สิน คือไม่เคยคิดว่าไอทีวีเป็นทรัพย์สินของเราอยู่แล้ว เพราะยกให้คนอื่นไปแล้ว"
"แต่ที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมยังมีไอทีวีอยู่ในบัญชีทรัพย์สิน ก็อย่างที่ได้บอกเวลาเรายื่นบัญชีทรัพย์สิน เราต้องทำหนังสือไปที่หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอให้เขารับรองทรัพย์สิน ณ วันที่เรายื่นแสดงรายการทรัพย์สิน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้ออกหนังสือมา ว่าผมมีหุ้นต่าง ๆ รวมถึงไอทีวีอยู่ด้วย"
"เพราะไอทีวีมันไม่สามารถซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ มันเลยต้องคาอยู่ในพอร์ต มูลค่า ณ วันแสดงบัญชีทรัพย์สิน"
เมื่อถามว่า ทำไมต้องระบุมูลค่าเป็นศูนย์ ?
นายจักรกฤษณ์ ตอบว่า "มูลค่าที่เป็นศูนย์นี้ ไม่ได้เป็นคนใส่ ตลาดหลักทรัพย์เป็นคนใส่มาให้โดยอัตโนมัติ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับหุ้นตัวนี้ เพราะมันถูกระงับการซื้อ-ขาย เราก็เลยทำสัญญายกให้"
"อีกประเด็นหนึ่ง หลายเดือนก่อน เห็นว่ามีกรณีหุ้น ITV ของคุณพิธา คุณพิธาสามารถไปโยกย้ายหุ้นออกได้ จึงได้ไปปรึกษาตลาดหลักทรัพย์ ถึงวิธีการ ทำอย่างไรถึงจะเอาลายลักษณ์อักษรที่มันคาอยู่ในพอร์ตเฉย ๆ ของผม ตลาดหลักทรัพย์แจงมาว่าผมถือไอทีวี 40,000 หุ้น มูลค่าเป็นศูนย์ แต่ของคุณพิธา หุ้น 42,000 แต่มีมูลค่า นี่คือความต่าง"
@ จักรกฤษณ์ ทองศรี
เมื่อถามว่า มีหนังสือที่ตลาดหลักทรัพย์รับรองมาหรือไม่?
นายจักรกฤษณ์ ตอบว่า "ไม่มี เพราะตลาดหลักทรัพย์มีหน้าที่เวลาเรายื่นบัญชีทรัพย์สินแล้วก็ขอหนังสือรับรองมูลค่าหุ้น ณ เวลาที่เรายื่นบัญชีทรัพย์สิน แค่นั้น"
เมื่อถามว่า แสดงว่าหนังสือก็อยู่ใน ป.ป.ช.ใช่ไหม ที่เป็นใบรับรอง
นายจักรกฤษณ์ ตอบว่า "ใช่ ที่ยื่นแนบไปกับบัญชีทรัพย์สิน 2 แผ่น ก็จะเห็นชัดเจน อันนี้ไปตรวจสอบดูได้ เป็นของตลาดหลักทรัพย์ แต่ก่อนหน้านี้ตลาดหลักทรัพย์เคยมีการชี้แจงมานะครับ ที่บอก แต่ก็รอหนังสืออยู่ ว่าในกรณีที่หุ้นเราไม่สามารถซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ ถูกระงับการซื้อ-ขาย อย่างไรก็แล้วแต่ เราสามารถไปทำสัญญาไม่ว่าจะซื้อ-ขายหรือยกให้ ก็ถือว่ามีผลสมบูรณ์ได้"
"มันก็คืออีกช่องทางหนึ่งในกรณีที่มีการระงับการซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์ แต่เพียงหุ้น อย่างที่บอก มันไม่มีมูลค่า มันเป็นศูนย์ มันไม่รู้จะไปขายให้ใครได้ ก็เลยต้องทำหนังสือสัญญายกให้น้องชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไป"
"กรณีนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร กรณีของผมเป็นคนละเคสกับของคุณพิธาแน่นอน" นายจักรกฤษณ์กล่าวย้ำ
***************
ทั้งหมดนี้ คือ คำชี้แจงของ นายจักรกฤษณ์ ที่ให้กับสำนักข่าวอิศรา
มีน้ำหนัก-เหตุผลฟังขึ้นหรือไม่?
ต้องรอฟังผลการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป