"...ยอดชุดตรวจATK ที่โรงพยาบาลจะนะรับผิดชอบมีจำนวน 42,854 ชุด ATK ยี่ห้อ standardQ ชุดละ 230 บาทเป็นเงินทั้งหมด 9,856,420 บาท สปสช.จ่ายเหมาค่าตรวจ ATK ที่รายละ 450 บาท มียอดที่เรียกเก็บได้จำนวน 39,216 รายเป็นข้อมูลบุคคลที่ไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนหรือยืนยันตัวตนแล้วไม่ผ่าน 3,638 ราย สปสช.ได้โอนเงินคืนเข้าบัญชีเงินบำรุงโรงพยาบาลจะนะ 17,457,030 บาทคิดเป็นกำไรหลังหักจากต้นทุน ATK เป็นเงิน 7,600,610 บาท เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ สปสช.จ่ายชดเชยให้นั้น เข้าบัญชีเงินบำรุงโรงพยาบาล จะนะทั้งหมด ไม่ได้เข้าบัญชีส่วนตัวของใครหรือของชมรมแพทย์ชนบทแต่อย่างใด..."
ปรากฏเป็นข่าวดังในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา
กรณีกระทรวงสาธารณสุข ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.จะนะ ในเรื่องการจัดซื้อ ATK ผิดระเบียบพัสดุ และการแก้ไขสัญญาสร้างตึกอาคารบริการผู้ป่วย 8 ชั้นที่แสวงหาประโยชน์และทำให้ราชการเสียหาย รวมทั้งการสั่งซื้อลิฟท์ทั้งที่อาคาร 8 ชั้นยังสร้างไม่เสร็จ
ขณะที่ นพ.สุภัทร ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เขาถูกกลั่นแกล้ง พร้อมยืนยันว่าการจัดซื้อ ATK และการแก้ไขสัญญาสร้างตึกอาคารบริการผู้ป่วย 8 ชั้น ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอน
ล่าสุด ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นพ.สุภัทร ได้นัดหมายกับทีมข่าวอิศรา ไปพบที่ทำงานในจังหวัดสงขลา เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงการจัดซื้อATK และการแก้ไขสัญญาสร้างตึกอาคารบริการผู้ป่วย 8 ชั้น เป็นทางการ
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามตรวจสอบข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างงานทั้ง 2 โครงการ แต่ยังไม่พบข้อมูล จึงติดต่อ นพ.สุภัทร เพื่อขอทราบรายละเอียดทั้งหมด ซึ่ง นพ.สุภัทร ยืนยันว่าพร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด ให้กับทีมข่าวอิศรา
หลังพบหน้ากันเป็นทางการ
นพ.สุภัทร กล่าวยืนยันกับทีมข่าวอิศรา ว่า "ผมไม่ได้ทำผิดหรือทุจริตอะไร"
ก่อนจะเริ่มต้นชี้แจงกรณีการจัดซื้อ ATK ที่ใช้ในปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกรุง ว่า มีทั้งหมด 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 วันที่ 14-16 ก.ค. 2564 ครั้งที่ 2 วันที่ 21-23 ก.ค. 2564 ครั้งที่ 3 วันที่ 4-10 สิงหาคม 2564 ทีม โรงพยาบาลจะนะเข้าร่วมทุกครั้ง รวม 3 ครั้ง ตรวจ ATK ไป 192,905 ราย อัตราพบเชื้อ 11.64%
สำหรับ ATK ทางโรงพยาบาลในกลุ่มของชมรมแพทย์ชนบทเป็นผู้จัดซื้อจัดจ้างตาม ว.115 หรือ ระเบียบของกรมบัญชีกลาง รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรอันเนื่องจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโรคโควิด 19 จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้หันต่อสถานการณ์
นพ.สุภัทร กล่าวย้ำว่า คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เป็นผลให้การดำเนินการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา หรืออุปกรณ์การแพทย์ หรือการจัดจ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุที่ใช้ในการป้องกัน ควนคุมหรือรักษานั้น ไม่สามารถดำเนินการตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามปกติได้ทัน ซึ่งหากดำเนินการลำาช้าอาจก่อให้เกิดความเสียหาย ตนจึงนำมาใช้ในปฏิบัติการก่อน แล้วจึงแบ่งส่วนของข้อมูลให้โรงพยาบาลน นำข้อมูลกลับไป key เบิกชดเชยค่าใช้จ่ายคืนเข้าเงินบำรุงโรงพยาบาล ตามระเบียบที่ สปสช.กำหนด และดำเนินการจัดซื้อ ATK คืนให้กับบริษัทนั้นๆต่อไป
นพ.สุภัทร อธิบายต่อว่า ยอดชุดตรวจ ATK ที่โรงพยาบาลจะนะรับผิดชอบมีจำนวน 42,854 ชุด ATK ยี่ห้อ standardQ ชุดละ 230 บาทเป็นเงินทั้งหมด 9,856,420 บาท สปสช.จ่ายเหมาค่าตรวจ ATK ที่รายละ 450 บาท มียอดที่เรียกเก็บได้จำนวน 39,216 รายเป็นข้อมูลบุคคลที่ไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนหรือยืนยันตัวตนแล้วไม่ผ่าน 3,638 ราย สปสช.ได้โอนเงินคืนเข้าบัญชีเงินบำรุงโรงพยาบาลจะนะ 17,457,030 บาทคิดเป็นกำไรหลังหักจากต้นทุน ATK เป็นเงิน 7,600,610 บาท เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ สปสช.จ่ายชดเชยให้นั้น เข้าบัญชีเงินบำรุงโรงพยาบาล จะนะทั้งหมด ไม่ได้เข้าบัญชีส่วนตัวของใครหรือของชมรมแพทย์ชนบทแต่อย่างใด
"โรงพยาบาลจะนะได้ดำเนินการซื้อ ATK ทั้งหมด 42,854 ชุด จากบริษัทนาวิวัฒน์ การช่าง (1992) จำกัด ทั้งหมด 9,856,420 บาท ซึ่งตามระเบียบเงินในจำนวนนั้น ไม่สามารถซื้อเองได้ จึงรายงานตามขั้นตอนไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแล้ว และได้ ดำเนินการจุดซื้อจำนวน 5 ครั้ง ครั้งที่แรก วันที่ออกใบสั่งซื้อ 25 ตุลาคม 64 จำนวน 8,695 ชุด ราคา 230 บาทต่อชุดรวมเป็นเงิน 1,999.850 บาท วันที่ออกใบสั่งซื้อ 11 พฤศจิกายน 64 จำนวน 8,695.230 ชุด ราคา 230 บาทต่อชุดรวมเป็นเงิน 1,999.850 บาท ครั้งที่สามวันที่ 23 พฤศจิกายน 64 จำนวน 8,695 ชุด ราคา230 บาทต่อชุดรวมเป็นเงิน 1,999.850 บาท ครั้งที่ 4 วันที่ออกใบสั่งซื้อ 9 ธันวาคม 64 จำนวน 8,695 ชุด ราคา 230 บาทต่อชุดรวมเป็นเงิน 1,999.850 บาท และครั้งที่ 5 วันที่ออกใบสั่งซื้อ 22 ธันวาคม 64 จำนวน 8,074 ชุด ราคา 230 บาทต่อชุดรวมเป็นเงิน 1,857.020 บาท" นพ.สุภัทรระบุ
นพ.สุภัทร ยังกล่าวย้ำด้วยว่า โรงพยาบาลจะนะได้ ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 115 ลงวันที่ 27 มีนาคม 63 เรื่อง การดำเนินการกรณีจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา หรืออุปกรณ์การแพทย์ หรือการจัดจ้างเพื่อให้ได้มาซึ่ง พัสดุสำหรับการป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งมีเนื้อความกล่าวคือ การจัดซื้อ จัดจ้างทุกวงเงิน ถือเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน จึงยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดวงเงินการจัดซื้อ จัดจ้างพัสดุ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง วงเงินการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ทำข้อตกลงเป็นหนังสือ และวงเงินการจัดซื้อจัด จ้าง ในการแต่งตั้งผู้ตรวจรับพัสดุ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการ บริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ที่เกี่ยวข้อง โดยให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามข้อ 79 วรรคสอง แห่ง ระเบียบฯ และให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานนั้นดำเนินการไปก่อนแล้วรีบรายงานขอความ เห็นชอบต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบแล้วให้ถือว่ารายงาน ดังกล่าวเป็นหลักฐานการตรวจรับโดยอนุโลม การจัดซื้อจัดจ้าง ATK ของโรงพยาบาลจะนะสำหรับนำไปใช้ในปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกกรุง จึงถูกต้องตามที่ หนังสือ ว.115 ได้กำหนดข้อยกเว้นไว้จึงไม่ได้เป็นการแบ่งซื้อเวชภัณฑ์ชุดตรวจ ATK อันเป็นการฝ่าฝืนต่อระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 แต่อย่างใด
กรณีการแก้ไขสัญญาสร้างอาคารบริการ 8 ชั้น
สำหรับกรณีการก่อสร้างอาคารบริการ 8 ชั้น เป็นแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้าง นั้น นพ.สุภัทร กล่าวชี้แจงว่า ในงานก่อสร้างทางเชื่อมและงานลดระดับความสูงชั้นที่ 2-5 ชั้นละ 50 เชนติเมตร ตามสัญญาจ้างก่อสร้างเลขที่ 160/2563 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 จังหวัดสงขลา ได้ ทำสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารบริการ 8 ชั้น เป็นอาคาร คสล. 8 ชั้น เป็นเงินจำนวน 80 ล้านบาท จากการประชุมครั้งที่ -3/2563 เมื่อ 28 ตุลาคม 2563 คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ระบุมีความ ประสงค์จะแก้ไขสัญญาจ้างโดยเพิ่มเติมทางเชื่อมของอาคารบริการ 8 ชั้น บริเวณชั้น 1-4 กับอาคารผู้ป่วยใน เดิมที่มี 4 ชั้น เพื่อให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่างสองอาคารสะดวก และลดระดับความสูงของชั้นที่ 2-5 ลง ชั้นละ 50 เซนติเมตร เพื่อให้ระดับความสูงของชั้นทั้ง 2 อาคารเท่ากัน โดยส่วนที่ลดไปชั้นละ 50 เซนติเมตรนั้นทำให้มีเงินเหลือจำนวน 6 แสนกว่าบาท
ต่อมาคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ ประชุมครั้งที่ 4/2563 วันที่ 24 ธันวาคม 63 ได้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงราคาค่าก่อสร้างที่กอง แบบแผนแจ้งมาว่า โดยมีค่างานเพิ่มเป็นเงิน 814,017.82 บาท ซึ่งบริษัท เตชิต วิศวกรรม จำกัด ได้แจ้งตาม หนังสือเลขที่ MO-CN. 160 วันที่ 23 ธันวาคม 2563 ขอยืนยันไม่คิดค่างานและระยะเวลาก่อสร้างเพิ่ม และยังได้เสนอเพื่อพิจารณาตามขั้นตอน โดย นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สงขลา ลงนามเห็นชอบโดย นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และลงนามอนุมัติ นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
"จึงไม่เป็นการปฏิบัติราชการเพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้ สำหรับบริษัทผู้รับจ้างหรือผู้อื่น และทำ ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรงแต่อย่างใด" นพ.สุภัทรย้ำ
กรณีดำเนินกำรจัดซื้อลิฟต์โดยสาร
นพ.สุภัทร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีดำเนินกำรจัดซื้อลิฟต์โดยสารนั้น ในขณะที่การก่อสร้างอาคาร 8 ชั้น อยู่ระหว่างก่อสร้าง เนื่องจากอาคารบริการ 8 ชั้น มีเป้าหมายจะเปิดบริการบางส่วนเป็นของของขวัญปีใหม่แก่ชาวจะนะในต้น ปี 2567 สำหรับลิฟต์โดยสารจำนวน 2 ตัวนั้น ไม่อยู่ในสัญญาการก่อสร้างอาคาร 80 ล้านบาทที่รับงบจาก กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าจะนะ ต้องใช้เงินบำรุงในการจัดซื้อจัดจ้าง โรงพยาบาลจะนะได้ทำคำขอการจัดซื้อลิฟต์โดยสารผู้ป่วยจำนวน 2 ตัวใส่ไว้ในแผนเงินบำรุง ปีงบประมาณ 2566 เพื่อให้ทันกับระยะเวลาที่อาคารบริการผู้ป่วย 8 ชั้นที่จะสร้างเสร็จในเดือนธันวาคม 2566 และหากไม่มีลิฟต์ การใช้ประโยชน์ของอาคารในชั้น 5-6-7 ซึ่งเป็นห้องพิเศษจำนวน 36 ห้อง และชั้น 8 ซึ่งเป็นห้องประชุมจำนวน 3 ห้อง จะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เลย
ส่วนชั้น 2 เป็น OPD คลินิกเฉพาะทางและแผนกกายภาพบำบัด ชั้นที่ 3 เป็นห้อง ICU 10 เตียงและหน่วยไตเทียม 12 เตียง และชั้น 4 เป็นหอ ผู้ป่วยอายุรกรรมขนาด 40 เตียง จะไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยได้โดยสะดวก เพราะต้องไปใช้ลิฟต์จากอาคาร 4 ชั้น และเดินผ่านทางเชื่อมจึงจะมารับบริการในชั้น 2-4 ได้ เมื่อแผนเงินบำรุงได้รับการอนุมัติแผนจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ก็มีการจัดซื้อจัดจ้างตาม ระเบียบ เนื่องจากวงเงินการจัดซื้อมีวงเงิน 4,000,000 บาท จึงเป็นอำนาจของนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สงขลาในการจัดซื้อจัดจ้าง และได้มีการทำสัญญาซื้อขาย สัญญาเลขที่ 152 /2566 เมื่อวันที่ 28 เดือน พฤศจิกายน 2565 ระหว่าง จังหวัดสงขลา โดย นายสงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ปฏิบัติ ราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กับ บริษัท มิตบิชิ เอลเลเวตอร์(ประเทศไทย) จำกัด ตกลงซื้อขายลิฟต์ พร้อมติดตั้ง ยี่ห้อ มิตชูบิชิ จำนวน 2 ชุด ด้วยวิธีคัดเลือก เป็นราคาทั้งสิ้น 3,890,000 บาท โดยมีสัญญาการ ส่งมอบในวันที่ 25 สิงหาคม 2566
"ผมลงนามในฐานะพยาน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบทุกประการ จึง ไม่เป็นการปฏิบัติราชการเพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้สำหรับบริษัทผู้รับจ้างหรือผู้อื่น และทำให้เกิดความ เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรงแต่อย่างใด " นพ.สุภัทรระบุ
หมอสุภัทร ยังกล่าวยืนยันกับทีมข่าวสำนักข่าวอิศรา ว่า พื้นเพเป็นคนหาดใหญ่ เรียนจบชั้น ทีโรงเรียนแสงทองวิทยาหาดใหญ่ แล้วสอบติดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วงที่อยู่จุฬาฯได้ออกค่ายเยอะมากและเป็นจุดเปลี่ยนทำให้ชอบชนบท และได้ลงมาทำงานที่โรงพยาบาลสะบ้าย้อย 4 ปี ตั้งแต่ 2538 – 2542 เป็นช่วงเวลาที่ทำงานสนุกมาก โรงพยาบาลสะบ้ายอยในตอนนั้นมีหมอ 2 คน เราก็จะสลับเวร 15 วันกัน ย้ายมาโรงพยาบาลจะนะปี 2542 จนถึง วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 ถูกย้ายมาสะบ้าย้อยอีกครั้ง
"จริงๆไปอยู่จะนะก็รู้สึกลงตัวแล้วอยู่ใกล้บ้านและ เป็นคนที่ชอบลงพื้นที่ ทำให้เกิดความผูกพันกับชาวบ้าน แรกๆ ชาวบ้านก้คุยด้วยบอกเล่าเก้าสสิบสิ่งที่เป็นปัญหาสุขภาพ ที่นี้ปัญหาสุขภาพในด้านชาวบ้านเขาไม่ได้คิดแค่ เรื่องโรคไข้เลือกออกเรื่องท้องเสีย เขากังวลมาก เรื่องนิคมอุตสาหกรรม โรงแยกแก๊ส ตอนนั้นที่จะมา เขาก็ปรึกษาคุยกับผมเอาหนังสือเล่มโตมากเป็น EIA รายงานการศึกษาผลกระทบ และ สิ่งแวดล้อมของโรงแยกแก๊สจะนะ ผมก็มาอ่านแล้วกลับไปเล่าให้ชาวบ้าน ทราบถึงแนวโน้มผลกระทบที่จะเกิด หลังจากนั้นก็ค่อยๆผูกพัน ดูแลกัน จนเป็นทีมเดียวกัน"
" จะนะสู้มายาวนาน ตั้งแต่ โรงแยกแก๊ส จะนะ และท่อแก๊สจะนะ ก็สร้างสำเร็จ โรงฟ้าจะนะก็สร้างสำเร็จ ยุคของคัดค้านท่าเรือน้ำลึก สวนกง ก็ยังสร้างไม่สำเร็จ โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา - กระบี่ สู้เรื่องนี้ กินเวลา 5 ปี จนยุติการมีโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้สำเร็จ จนล่าสุด นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ของ TPI 16,700 กว่าไร่ ยังอยู่ในการศึกษา SEA ว่าสงขลาควรสร้างหรือไม่สร้าง สงขลาควรจะพัฒนาไปในทิศทางไหน"
"ผมก็เป็นพุทธ คนละวัฒนธรรมกับคนที่นี้เลย สามจังหวัด มีวัฒนธรรมของตัวเอง" หมอสุภัทร กล่าวทิ้งท้าย
เหล่านี้ คือ คำชี้แจงข้อกล่าวหาทุกกรณี ที่ หมอสุภัทร เปิดเผยกับ ทีมข่าวสำนักข่าวอิศรา เป็นทางการ
บทสุดท้ายแล้ว ผลการสอบสวนของกระทรวงสาธารณสุข จะออกมาเป็นอย่างไร
ต้องคอยติดตามดูกันต่อไปแบบห้ามกระพริบตาโดยเด็ดขาด